ผลโพลล์มาที่ 1 ไม่ต้องพึ่งบารมีพ่อ
พท.แห่อวย‘อิ๊งค์’
ชมเปาะ‘คุณหนู’ทำงานหนัก
โวแหลกยังไม่รวมแจก 1 หมื่น
‘ชูศักดิ์’ชี้เลื่อนถกก.ม.นิรโทษ
รอฟังความเห็นหน.ทุกพรรค
ไม่ต้องพึ่งบารมี“พ่อแม้ว”“ปธ.วิปรัฐบาล” อวยเน้นๆ นายกฯอิ๊งค์ นำคะแนนนิยมการเมือง เพราะทำงานหนัก-เต็มที่ จนชาวบ้านเฮมีความสุขโอ่ตลาดนัดคนเพียบ จับจ่ายใช้สอย
พ่อค้าแม่ค้าฟื้น อัดโพล‘เพื่อไทย’ ตีตื้น ‘ปชน’ไม่ได้ ย้อนแย้งตรงข้ามกระแสปชช.ด้าน‘จิราพร’ชี้โพลนายกฯนำที่1 เป็นกำลังใจให้คนทำงาน ย้ำรัฐบาลเดินหน้าทำนโยบายเพื่อประชาชนต่อไป‘ภูมิธรรม’วอน‘สว.เสียงข้างน้อยอย่ามอง ร่างประชามติลงคะแนนเสียงแบบ2ชั้นมีใบสั่ง ย้ำรัฐบาลไม่แตะหมวด 1หมวด2และกฎหมายเกี่ยวกับสถาบัน ปัดยื้อรัฐธรรมนูญ60มรดก’คสช.’เพื่อประโยชน์การเมือง
เมื่อวันที่ 30กันยายน2567 ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีนิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับคะแนนนิยมการเมือง พบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ1 เป็นเพราะบารมีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นบิดา ว่า นายทักษิณ ไม่ได้ทำหน้าที่ในรัฐบาล วันนี้ น.ส.แพทองธาร เข้ามาเป็นนายกฯคนก็จะเห็นว่า เป็นผลบวกขึ้นทุกด้าน เช่น หุ้นขึ้นจำนวนมาก หลังจากออกไปเยี่ยมเยียนประชาชนจากปัญหาอุทกภัย ทำงานอย่างหนัก ได้รับคำชื่นชม รวมถึงเงิน10,000บาท ล๊อตแรกที่ออกไป ชาวบ้านก็เฮกันทั้งประเทศ มีความสุข ขณะนี้กำลังรอล๊อต2 ถ้าล๊อต2ออกมาได้ประมาณ 25ล้านคน เศรษฐกิจก็จะดีกว่านี้ พ่อค้าแม่ค้าน่าจะขายของดีขึ้น จะเห็นได้ว่าตลาดนัดคนเต็มไปหมด ซื้อขาวของกันมากมาย แม้แต่ตลาดวัวควายในภาคอีสาน บางบ้านได้เงินถึง 40,000-50,000บาท ก็ไปซื้อวัวมาเลี้ยง ทุกอย่างหมุนไปหมด
‘อิ๊งค์’นำที่1ไม่ต้องพึ่งบารมี’พ่อแม้ว’
“ผมเชื่อว่าต่อไปก็จะยิ่งดีขึ้นกว่านี้ ไม่ใช่บารมี นายทักษิณ ลูกสาวท่านทำงานได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ผมเชื่อว่า นายทักษิณ คงให้คำแนะนำเป็นเรื่องปกติ เราห้ามไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องบวกต่อประเทศชาติ” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยต้องปรับอะไรหรือไม่ เนื่องจากผลโพลยังไม่สามารถตีตื้นพรรคประชาชน (ปชน.) ขึ้นมาได้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า มันย้อนแย้งอยู่ระหว่างโพลพรรคกับตัวบุคคล ตนมั่นใจว่า วันนี้ที่เราทำงานในรัฐบาลทั้งหมดเชื่อว่าอยู่ในหัวใจประชาชน จะเห็นได้จากรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคทุกพรรค ลงพื้นที่ไปช่วยประชาชนที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด จะเห็นได้ว่าความสามัคคียังมีอยู่ ชาวบ้านอยากให้รัฐบาลเข้มแข็ง ทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ว่าเลือกคนไม่เลือกพรรค มันไม่ใช่ ตนฟังกระแสจากประชาชน มันตรงข้ามกับผลโพลที่ออกมา
แรงหนุนจากปชช.เป็นกำลังใจให้รบ.
ด้าน น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่3/2567 ของนิด้าโพล ปรากฏว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับ1ว่า แรงสนับสนุนของประชาชนเป็นกำลังใจสำคัญให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มุ่งมั่นที่จะทำงานแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ แต่รัฐบาลได้มุ่งมั่นฝ่าฝันปัญหาและดำเนินการตามนโยบายที่แถลงไว้ ซึ่งหลายนโยบายมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก อาทิ นโยบายเรือธง เงิน 10,000 บาท เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ระดับชุมชน การพักหนี้เกษตรกร 3ปี การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน การขยายโครงการ30บาทรักษาทุกที่ ให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ การผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22มกราคม 2568 นอกจากนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เดินหน้าสานต่อนโยบายการทูต สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก ด้วยการยกระดับหนังสือเดินทางไทย เร่งเจรจาวีซ่าฟรี ดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติจากการลงทุนโดยตรงของบริษัทต่างชาติภายในประเทศ ซึ่งช่วยสร้างงานให้กับชาวไทย ตลอดจนได้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด เพื่อเร่งแก้ปัญหา PM 2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ
โวไม่รวมแจก1หมื่น-คะแนนพุ่งต่อแน่
น.ส.จิราพร กล่าวอีกว่า ผลสำรวจที่ นา.ส.แพทองธาร ได้รับความนิยมเป็นอันดับ1 เป็นผลจากการสำรวจความเห็นของประชาชนที่ยังไม่รวมกระแสตอบรับจากประชาชนต่อนโยบายเรือธง‘เงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจ’ซึ่งเริ่มดำเนินการวันที่ 25กันยายน2567เสียด้วยซ้ำ โดยเชื่อว่าผลของการแจกเงินหมื่นสู่มือพี่น้องประชาชนให้ได้จับจ่ายใช้สอย จะทำให้เศรษฐกิจหลังจากนี้ถูกกระตุ้นตั้งแต่ระดับฐานรากให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และจะมีการต่อยอดด้วยนโยบายเศรษฐกิจที่จะช่วยสร้างความกินดีอยู่ดีให้กับพี่น้องประชาชนในระยะยาว ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนพอใจในผลงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับผลการสำรวจผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบประจำเดือนกันยายน2567 ของสวนดุสิตโพล ที่พบว่านโยบายเงินหมื่นเป็นผลงานเด่นของรัฐบาลที่ประชาชนกว่าร้อยละ61ชื่นชอบ ตามมาด้วยการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ละการตรึงราคาก๊าซหุงต้มอีก3เดือน ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายที่เริ่มดำเนินการและจะดำเนินการสานต่อความสำเร็จต่อไป
“ผลสำรวจความนิยมดังกล่าว ถือเป็นกำลังใจที่มีค่าจากพี่น้องประชาชน แต่ไม่ว่าจะมีการสำรวจความนิยมหรือไม่ก็ตาม ขอยืนยันว่า รัฐบาลนำโดยนายกฯแพทองธาร จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนต่อไป ซึ่งตนและครม.ทุกท่านจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกฯอย่างเต็มความสามารถ เพื่อแก้ไขปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชนต่อไป” นางสาวจิราพร กล่าว
‘ภูมิธรรม’ปัดใบสั่งลงประชามติ2ครั้ง
นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ. …วุฒิสภา ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว กมธ.เสียงส่วนมากแก้ไขหลักเกณฑ์การออกเสียงประชามติ ต้องใช้เสียง 2 ชั้น จนถูกข้อครหาว่ามีใบสั่ง ว่า จะมาพูดว่ามีใบสั่ง ก็พูดยาก เพราะเราไม่มีหลักฐานอะไร หากไม่พูดก็จะก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน แต่ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะสามารถทำให้รัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นปัญหาจะคลี่คลายไปยังจุดที่เป็นปัญหาได้อยู่แล้ว
แก้รธน.รบ.ยันไม่แตะหมวด1-2
‘อยากเรียนว่า เราอยากแก้ร่างประชามติที่จะต้องใช้เสียง2ชั้น ให้มันง่ายขึ้น เพื่อที่จะสามารถแก้ได้แต่ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถทำอะไรได้ทั้งหมด เพราะทุกอย่างมีกฎเกณฑ์กติกาอยู่แล้ว รัฐบาลยืนยันมาตลอดว่า ไม่แตะต้องกฎหมายสำคัญ เช่น หมวด1หมวด2หรือกฎหมายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นมองว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็อยากวิงวอนสมาชิกวุฒิสภา ใช้ดุลพินิจพิจารณาให้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ได้คิดว่าจะเป็นการผลักดันให้เกิดปัญหา ที่จะมาอำนวยประโยชน์ให้กับนักการเมือง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอยากจะทำให้เกิดประชามติ ที่มีโอกาสในการมาร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอยากให้คำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้มากขึ้น หวังว่าการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภาจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด’นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่าการที่ กมธ. เปลี่ยนมติร่างประชามติมาใช้เสียงข้างมาก 2ชั้นถูกมองว่า ต้องการจะยื้อรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งเป็นมรดกของ คสช.นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่อาจจะสรุปไปแบบนั้น ถือเป็นความเห็นหนึ่งจะรู้สึกได้เช่นกันและคนมองว่าหลายคนก็รู้สึกได้เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญ กมธ.ที่เป็นกลุ่มไปกลับมตินั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ใน กมธ.ไม่กี่คน ตนก็ยังไม่มั่นใจว่า วุฒิสมาชิกในส่วนคนอื่นจะรู้สึกอย่างนั้นด้วยหรือไม่ ยังไงก็ขอเรียนสมาชิกวุฒิสภาว่า เรื่องนี้เป็นเจตนาที่จะทำให้สิ่งที่มีปัญหาอยู่มันหลุดพ้นจากกรอบ ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหาได้ดีขึ้น ก็หวังว่าจะช่วยกันพิจารณาไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดี
‘ชูศักดิ์”ไม่รู้ลดทำประชามติเหลือ2ครั้ง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เสนอ 2 แนวทางในการทำประชามติ ให้ลดเหลือ 2 ครั้ง ว่า ได้เห็นแนวทางที่นายปิยบุตรเสนอแล้ว ซึ่งต้องคุยกัน เมื่อถามว่า มีโอกาสที่จะลดเหลือ 2 ครั้งหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องแนวคิดทางกฎหมาย ถ้าถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องคุยกันว่าจะเอาอย่างไร เราต้องทราบว่าตอนนี้แนวคิดทางกฎหมายมีความเห็นหลากหลาย ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ ต้องว่ากันอีกที ผู้สื่อข่าวถามว่า นายปิยบุตรระบุว่าถ้าทำประชามติ 3 ครั้ง จะทำให้การทำประชามติช้าไป 8 - 10 เดือน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้เราทราบดี ถือเป็นข้อกังวลหนึ่ง เอาไว้หารือกันก่อนถึงจะมีความชัดเจน เมื่อถามว่า มีกำหนดที่จะหารือกันหรือยัง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า กำลังพูดคุยกับหลายฝ่ายว่าควรจะเป็นเมื่อไหร่ดี
เลื่อนถกร่างกม.นิรโทษกรรมไปก่อน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันที่ 3 ต.ค.นี้ ว่าร่างกฎหมายจะสำเร็จเป็นกฎหมายได้ ก็เป็นเรื่องของสส.และสว.ที่จะต้องเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเป็นอย่างไร ตนคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพราะพรรคการเมืองบางส่วนได้เสนอร่างกฎหมายขอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง บางส่วนบอกว่าหากนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแล้ว ก็ให้รวมกับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112ด้วย แต่ขณะนี้ร่างกฎหมายทั้งหมดรวมถึงรายงานของกมธ.วิสามัญนิรโทษกรรมฯ ชุดที่ตนเป็นประธานก็ยังค้างอยู่ในสภาฯ กำลังรอการพิจารณา
ขอฟังความเห็นหน.พรรคให้ตกผลึก
“ผมคิดว่าเพื่อให้เป็นไปได้ดีที่สุดและละมุนละม่อมที่สุด ควรนำเรื่องทั้งหมดไปหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ตกผลึก แต่ท้ายที่สุดแล้วพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไร พร้อมจะเสนอร่างกฎหมายด้วยหรือไม่ ที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบสำคัญในสภาฯ ฉะนั้น หากเราไม่ฟังกันเมื่อมีการเสนอและพิจารณากันแล้วก็จะคล้ายกับเรื่องรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ ผมจึงได้ปรึกษานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อยากให้เลื่อนวาระออกไปเพื่อรอฟังความคิดเห็นของหัวหน้าพรรคการเมืองให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งไม่น่าสายเกินไป” นายชูศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่มีบางพรรคออกมาบอกว่าไม่ขอรวมการนิรโทษกรรมมาตรา 112 นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นต้องให้เขาตกผลึกมาว่าเป็นเช่นนี้ เวลามาพิจารณากันก็จะเห็นภาพและตัดสินใจได้ถูก ซึ่งตนทราบดีว่า บางพรรคต้องการและบางพรรคไม่ต้องการ เพราะตนเป็นประธานกมธ.มาก็ทราบดี เพราะได้มีการพูดคุยกันในกมธ.เพียงแค่ไม่ได้มีการเชิญพรรคต่างๆ มาพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ฉะนั้น จึงคิดว่าฟังหัวหน้าพรรคการเมืองดีที่สุดว่าเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ เพื่อเดินหน้าต่อไปจะได้ถูก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี