‘อุ๊งอิ๊งค์’ยิ้มระรื่นผลโพลล์มาอันดับ 1
โวผลงานเข้าเป้า
จี้รมต.เกาะติดปัญหาปชช.
‘ภูมิธรรม’ขอเคลียร์พรรคร่วม
เดินหน้ารื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
โปรดเกล้าฯ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในขณะที่เพื่อไทยยังจ้องรื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ“ภูมิธรรม” นัดคุยพรรคร่วมบอกไม่ได้กลัวบิดพลิ้วแต่ต้องไปในทิศทางเดียวกัน “ชูศักดิ์” ไม่รับปากจบทันในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ยิ้มระรื่นหลัง นิด้าโพลมาอันดับ 1 เป็นกำลังใจทำงานต่อ มั่นใจผลการทำงานที่ผ่านมาตรงเป้า
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 106 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
“อิ๊งค์”ระรื่นโพลมาอันดับ1
เมื่อเวลา 10.00น.ที่ห้องประชุม501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวชมนายกฯว่ากางเกงสวย นายกฯกล่าวว่า เอฟได้จาก TikTok ได้มา 3 แบบจะค่อยๆทยอยใส่ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผลสำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกฯอันดับ 1 นายกฯ ยิ้มพร้อมกล่าวว่า ดีใจมากเลยเป็นกำลังใจให้กับการทำงานอย่างมาก
เมื่อถามว่าผลออกมาเช่นนี้แสดงว่าการทำงานตรงตามเป้าใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ค่ะ เรื่องงานตรงตามเป้า จากนี้ก็อยากให้มอนิเตอร์หน้างานเยอะๆ จะได้แก้ปัญหาได้ทัน
เมื่อถามว่ารู้จักหมูเด้งหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า รู้จักสิ มีใครไม่รู้จักหมูเด้ง
โพลมีความเห็นหลากหลาย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีผลสำรวจนิด้าโพลที่คนส่วนใหญ่โหวตให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ อันดับ 1 ว่า โพลก็ถือว่าเป็นการหยั่งกระแส และสำรวจความคิดเห็น ซึ่งก็มีหลายสำนัก แต่การที่จะทำให้น.ส.แพทองธาร ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นน่าจะมาจากผลการทำงาน เพราะตอนแรกที่เข้ามาก็ยังไม่มีใครรู้ ไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำอะไรได้ เนื่องจากอายุยังน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของรัฐบาล แต่จริงๆ ก็เป็นเทรนด์ของโลก ผู้นำสมัยใหม่ก็ต้องการคนที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถแต่ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ซึ่งผู้นำโลกหลายส่วนก็มีอายุประมาณ 40 ปี ไม่เกิน 50 ปี ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่า อย่างน้อยนายกฯ ก็เป็นผู้ที่ตั้งใจอยากจะทำงาน และทำให้เกิดประโยชน์ เมื่อทำแล้วทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกชื่นชม ยินดี ผลโหวตก็ออกมาแบบนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนยังมีกระแสไม่ค่อยดี ไม่เป็นที่รู้จักเมื่อเทียบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่นั้น จึงทำให้คะแนนของนายกรัฐมนตรีขึ้นนำ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่กล้าไปพิจารณาของพรรคอื่นๆ
แก้รธน.ต้องคุยกับพรรคร่วม
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายรัฐบาล เสนอให้คุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หลังสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แก้ไขร่างพ.ร.บ.ประชามติ โดยใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น หรือ double majority ซึ่งจะส่งผลให้การแก้รัฐธรรมนูญมีการแก้ยากลำบากขึ้น ว่า ก็คงต้องมีการหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองตามที่นายชูศักดิ์เสนอ ขณะที่ สว.มีมติกลับมาใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ก็ต้องดูขั้นตอนต่อไปว่ามีการตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภาว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งระหว่างนี้ต้องคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองว่ามีความคิดเห็นอย่างไร เพราะความเห็นของเราและ สว.ไม่ตรงกัน
เมื่อถามว่าการคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆจะส่งผลกับ สว.อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับไปส่งผลกับ สว. แต่เป็นการคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองเพื่อเป็นการทำความเข้าใจ
เมื่อถามว่าการคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองเพื่อให้เกิดสัญญาประชาคมและไม่ให้มีการบิดพลิ้วในภายหลังใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ แค่ต้องการให้เกิดการหารือกันเมื่อ สว.ตัดสินใจออกมาแบบนี้ สถานการณ์การเมืองเป็นแบบนี้ พรรคการเมืองต่างๆที่ร่วมรัฐบาลจะมีความเห็นอย่างไร แต่ขณะนี้ยังไม่ได้นัด เมื่อถามว่า นายภูมิธรรม รู้สึกอย่างไรที่เป็นโต้โผในการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับมาตลอด 1 ปีแต่สุดท้ายเหมือนกลับมาเริ่มต้นใหม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องเข้าใจความแตกต่างของแต่ละหน่วยงานที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ ตนคิดว่ามีแต่เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากหัวหน้าพรรคการเมืองแล้ว ประธานวิปรัฐบาลก็ต้องมีการหารือกับประธานสว.ด้วย ให้เกิดความเข้าใจว่าสิ่งที่เรากำลังทำคืออะไร แล้วจะเป็นประโยชน์อย่างไร และสว.ที่เห็นแตกต่างเห็นในแง่มุมไหน ซึ่งตนคิดว่าหากคุยกันจะหาข้อยุติได้
เมื่อถามว่ากรณีสว.กลับมาใช้มติเสียงข้างมาก 2 ชั้นส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่เสร็จในรัฐบาลนี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้อย่าเพิ่งไปไกลอย่าเพิ่งสรุป
หาจุดลงตัวทำประชามติ
เมื่อถามว่าการทำประชามติหากไม่ตรงกับการเลือกตั้ง อบจ. ในต้นเดือน ก.พ.ปีหน้าใครจะได้ใครจะเสีย นายภูมิธรรม กล่าวว่า จริงๆ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยังไม่มีอะไรผิดแปลกจากกระบวนการ แต่เราต้องการเร่ง ทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งอบจ.ได้ แต่ในเมื่อมีความเห็นต่างก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำความเข้าใจ เมื่อถามว่า นายชูศักดิ์ อาจจะลดขั้นตอนการทำประชามติจาก 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้งเพื่อลดเวลา นายภูมิธรรม ระบุว่า ต้องถามนายชูศักดิ์ เมื่อถามว่า ข้อเสนอดังกล่าวนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็เสนอให้ทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญ 2 ครั้งเช่นกัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้นำความเห็นของท่านนั้นท่านนี้มาคิด แต่ตอนนี้ดูแลเรื่องที่เข้าสภาและเป็นปัญหา ส่วนความเห็นนายปิยบุตรและนายชูศักดิ์ถ้ามีความเห็นแตกต่างถือเป็นเรื่องธรรมดา
ตั้งคณะทำงานร่วมทุกฝ่าย
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลัง สว. หัก มติของสส. ว่า คิดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด โดยคณะกรรมการจะมาจากตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรค ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เพื่อมาพูดคุยกันว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะเดินต่ออย่างไร เมื่อได้ข้อยุติแล้วแจ้งต่อหัวหน้าพรรค โดยจะเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคมาพูดคุยกัน ส่วนนายกรัฐมนตรีจะต้องเข้าด้วยหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าอาจมอบหมายให้คนเข้าร่วมก็ได้ ซึ่งเจ้าภาพอาจเป็นประธานวิป เพราะส่วนตัวเข้าใจว่าทุกพรรคก็มีเจตนาอยากจะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงต้องมาดูกันว่าท้ายที่สุดจะเดินอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้อาจไม่เป็นทางการก็ได้ แต่ให้มานั่งพูดคุยและเสนอความเห็นกัน เชื่อว่าไม่มีใครที่จะค้านว่า ไม่ให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพียงแต่วันนี้มันขัดข้องทางเทคนิค เราก็มาลองคุยกันดู ได้ข้อยุติประการใด หรือคิดว่าควรเดินแบบไหน จะได้ง่ายขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังเกิดความขัดข้องทางเทคนิคของ สว. 3 ปี ที่เหลือของรัฐบาลนี้จะสำเร็จหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าปัญหาใหญ่อยู่ในเรื่องการทำประชามติ ความยากอยู่ที่ว่าต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ซึ่งจะต้องทำโดยใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทั้ง 3 ครั้ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จึงต้องมาช่วยกันคิดและแก้ปัญหาตรงนี้ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งในท้ายที่สุด สภาผู้แทนราษฎรอาจจะต้องมีความจำเป็นต้องยืนยัน แต่การยืนยันหลักการเดิมต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นดีที่สุด คือการมาคุยกันให้สะเด็ดน้ำ โดยไม่มีการจำกัดว่าเป็นฝ่ายไหน เมื่อถามย้ำว่า ระยะเวลาที่เหลือจะทันเวลาของรัฐบาลหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าถ้าเราทำอย่างจริงจัง มันก็น่าจะไปได้ ถ้าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าจะทำแบบนี้ก็น่าจะไปได้ เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ถ้าจะให้ประธานสภาเป็นผู้เสนอ แล้วใช้มติสภาหารือ นายชูศักดิ์กล่าวว่าประธานสภาต้องเป็นกลาง คงไม่เหมาะที่จะมาทำในเรื่องนี้ ส่วนตัวคิดว่าดีที่สุดคือทุกพรรคการเมืองมานั่งคุยกัน เมื่อถามว่า การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญทำได้หรือไม่ได้ จะมีผลดีผลเสียอย่างไรตามที่ได้หาเสียงไว้ นายชูศักดิ์กล่าวว่าวันนี้เราทำตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องไปชี้แจงเหตุผลว่าทำไม่ได้เพราะอะไร แต่ส่วนตัวก็ยังหวังว่าจะทำได้
โวลั่นไม่ต้องพึ่งบารมีทักษิณ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30กันยายน2567 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีนิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับคะแนนนิยมการเมือง พบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ1 เป็นเพราะบารมีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นบิดา ว่า นายทักษิณ ไม่ได้ทำหน้าที่ในรัฐบาล วันนี้ น.ส.แพทองธาร เข้ามาเป็นนายกฯคนก็จะเห็นว่า เป็นผลบวกขึ้นทุกด้าน เช่น หุ้นขึ้นจำนวนมาก หลังจากออกไปเยี่ยมเยียนประชาชนจากปัญหาอุทกภัย ทำงานอย่างหนัก ได้รับคำชื่นชม รวมถึงเงิน10,000บาท ล๊อตแรกที่ออกไป ชาวบ้านก็เฮกันทั้งประเทศ มีความสุข ขณะนี้กำลังรอล๊อต2 ถ้าล๊อต2ออกมาได้ประมาณ 25ล้านคน เศรษฐกิจก็จะดีกว่านี้ พ่อค้าแม่ค้าน่าจะขายของดีขึ้น จะเห็นได้ว่าตลาดนัดคนเต็มไปหมด ซื้อขาวของกันมากมาย แม้แต่ตลาดวัวควายในภาคอีสาน บางบ้านได้เงินถึง 40,000-50,000บาท ก็ไปซื้อวัวมาเลี้ยง ทุกอย่างหมุนไปหมด
‘อิ๊งค์’นำที่1ไม่ต้องพึ่งบารมี’พ่อแม้ว’
“ผมเชื่อว่าต่อไปก็จะยิ่งดีขึ้นกว่านี้ ไม่ใช่บารมี นายทักษิณ ลูกสาวท่านทำงานได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ผมเชื่อว่า นายทักษิณ คงให้คำแนะนำเป็นเรื่องปกติ เราห้ามไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องบวกต่อประเทศชาติ” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยต้องปรับอะไรหรือไม่ เนื่องจากผลโพลยังไม่สามารถตีตื้นพรรคประชาชน (ปชน.) ขึ้นมาได้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า มันย้อนแย้งอยู่ระหว่างโพลพรรคกับตัวบุคคล ตนมั่นใจว่า วันนี้ที่เราทำงานในรัฐบาลทั้งหมดเชื่อว่าอยู่ในหัวใจประชาชน จะเห็นได้จากรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคทุกพรรค ลงพื้นที่ไปช่วยประชาชนที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด จะเห็นได้ว่าความสามัคคียังมีอยู่ ชาวบ้านอยากให้รัฐบาลเข้มแข็ง ทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ว่าเลือกคนไม่เลือกพรรค มันไม่ใช่ ตนฟังกระแสจากประชาชน มันตรงข้ามกับผลโพลที่ออกมา
‘ภูมิธรรม’ปัดใบสั่งลงประชามติ2ครั้ง
นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ. …วุฒิสภา ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว กมธ.เสียงส่วนมากแก้ไขหลักเกณฑ์การออกเสียงประชามติ ต้องใช้เสียง 2 ชั้น จนถูกข้อครหาว่ามีใบสั่ง ว่า จะมาพูดว่ามีใบสั่ง ก็พูดยาก เพราะเราไม่มีหลักฐานอะไร หากไม่พูดก็จะก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน แต่ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะสามารถทำให้รัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นปัญหาจะคลี่คลายไปยังจุดที่เป็นปัญหาได้อยู่แล้ว
แก้รธน.รบ.ยันไม่แตะหมวด1-2
‘อยากเรียนว่า เราอยากแก้ร่างประชามติที่จะต้องใช้เสียง2ชั้น ให้มันง่ายขึ้น เพื่อที่จะสามารถแก้ได้แต่ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถทำอะไรได้ทั้งหมด เพราะทุกอย่างมีกฎเกณฑ์กติกาอยู่แล้ว รัฐบาลยืนยันมาตลอดว่า ไม่แตะต้องกฎหมายสำคัญ เช่น หมวด1หมวด2หรือกฎหมายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นมองว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็อยากวิงวอนสมาชิกวุฒิสภา ใช้ดุลพินิจพิจารณาให้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ได้คิดว่าจะเป็นการผลักดันให้เกิดปัญหา ที่จะมาอำนวยประโยชน์ให้กับนักการเมือง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอยากจะทำให้เกิดประชามติ ที่มีโอกาสในการมาร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอยากให้คำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้มากขึ้น หวังว่าการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภาจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด’นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่าการที่ กมธ. เปลี่ยนมติร่างประชามติมาใช้เสียงข้างมาก 2ชั้นถูกมองว่า ต้องการจะยื้อรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งเป็นมรดกของ คสช.นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่อาจจะสรุปไปแบบนั้น ถือเป็นความเห็นหนึ่งจะรู้สึกได้เช่นกันและคนมองว่าหลายคนก็รู้สึกได้เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญ กมธ.ที่เป็นกลุ่มไปกลับมตินั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ใน กมธ.ไม่กี่คน ตนก็ยังไม่มั่นใจว่า วุฒิสมาชิกในส่วนคนอื่นจะรู้สึกอย่างนั้นด้วยหรือไม่ ยังไงก็ขอเรียนสมาชิกวุฒิสภาว่า เรื่องนี้เป็นเจตนาที่จะทำให้สิ่งที่มีปัญหาอยู่มันหลุดพ้นจากกรอบ ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหาได้ดีขึ้น ก็หวังว่าจะช่วยกันพิจารณาไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดี
เลื่อนถกร่างกม.นิรโทษกรรมไปก่อน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันที่ 3 ต.ค.นี้ ว่าร่างกฎหมายจะสำเร็จเป็นกฎหมายได้ ก็เป็นเรื่องของสส.และสว.ที่จะต้องเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเป็นอย่างไร ตนคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพราะพรรคการเมืองบางส่วนได้เสนอร่างกฎหมายขอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง บางส่วนบอกว่าหากนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแล้ว ก็ให้รวมกับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112ด้วย แต่ขณะนี้ร่างกฎหมายทั้งหมดรวมถึงรายงานของกมธ.วิสามัญนิรโทษกรรมฯ ชุดที่ตนเป็นประธานก็ยังค้างอยู่ในสภาฯ กำลังรอการพิจารณา
ขอฟังความเห็นหน.พรรคให้ตกผลึก
“ผมคิดว่าเพื่อให้เป็นไปได้ดีที่สุดและละมุนละม่อมที่สุด ควรนำเรื่องทั้งหมดไปหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ตกผลึก แต่ท้ายที่สุดแล้วพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไร พร้อมจะเสนอร่างกฎหมายด้วยหรือไม่ ที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบสำคัญในสภาฯ ฉะนั้น หากเราไม่ฟังกันเมื่อมีการเสนอและพิจารณากันแล้วก็จะคล้ายกับเรื่องรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ ผมจึงได้ปรึกษานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อยากให้เลื่อนวาระออกไปเพื่อรอฟังความคิดเห็นของหัวหน้าพรรคการเมืองให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งไม่น่าสายเกินไป” นายชูศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่มีบางพรรคออกมาบอกว่าไม่ขอรวมการนิรโทษกรรมมาตรา 112 นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นต้องให้เขาตกผลึกมาว่าเป็นเช่นนี้ เวลามาพิจารณากันก็จะเห็นภาพและตัดสินใจได้ถูก ซึ่งตนทราบดีว่า บางพรรคต้องการและบางพรรคไม่ต้องการ เพราะตนเป็นประธานกมธ.มาก็ทราบดี เพราะได้มีการพูดคุยกันในกมธ.เพียงแค่ไม่ได้มีการเชิญพรรคต่างๆ มาพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ฉะนั้น จึงคิดว่าฟังหัวหน้าพรรคการเมืองดีที่สุดว่าเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ เพื่อเดินหน้าต่อไปจะได้ถูก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี