เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า สถานการณ์หักล้างกันทางการเมืองจะทวีรุนแรงขึ้น โดยทุกอย่างยังดำรงเป้าหมายไว้เหมือนเดิม การเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกไม่นาน ส่วนกรณี ทักษิณ ชินวัตร จะจบลงในพฤศจิกายนนี้ และเสียงนิยมที่เพิ่มขึ้นของนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ก็ช่วยไม่ได้ เพราะการแจกเงินสดไม่ได้ช่วยให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจถึง 4 - 5 รอบ ตามที่เคยคุยโวโอ้อวดเอาไว้
"ถัดจากนี้ไป การเมืองจะยิ่งใกล้ถึงวันสุกดิบเข้าทุกขณะ อีกทั้งการหักล้างกันจะแรงขึ้น ซึ่งไม่แน่ใจว่า ต้นปีหน้าระหว่างไตรมาสแรกนั้นจะมีรัฐบาลให้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นัดพามวลชนเดินถนนขับไล่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ท่าทีการเคลื่อนไหวเช่นนี้ นับเป็นคุณประโยชน์ของพลังฝ่ายประชาชนอย่างยิ่ง"
นายจตุพร กล่าวว่า คะแนนนิยมของนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ พุ่งขึ้นเป็นที่หนึ่งทิ้งห่างความนิยมของหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นๆ โดยเชื่อเป็นอานิสงส์จากการแจกเงินสดหมื่นบาทให้กลุ่มเปราะบาง ซึ่งเลียนแบบการแจกเงินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ทุกท่วงท่าการเมือง ดังนั้น ความนิยมจะตื่นเต้นอยู่ไม่ได้นาน
อีกอย่างความนิยมที่พุ่งขึ้นนั้น ไม่เกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามที่พรรคเพื่อไทย (พท.) และนายกฯ ประกาศหาเสียงไว้ เพราะการแจกเงินสดรอบแรกเป็นไปตามการหว่านเงินแบบอนาล็อก ไม่มีความซับซ้อนที่เป็นเครื่องมือเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน และไม่ใช่พายุหมุนดิจิทัลที่คุยอวดอ้างกันไว้
นายจตุพร สงสัยว่า การแจกเงินหมื่นให้คนเปราะบางจะตื่นตาตื่นใจได้สักกี่วัน และที่สำคัญไม่ได้เป็นอะเมซิ่งหรือความอัศจรรย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งไม่สมราคากับการคุยจะเกิดพายุหมุน 4 ลูก สิ่งสำคัญช่วงหาเสียงบอกจะแจกเงินหมื่นให้ 54 ล้านคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปพร้อมกันทุกคน เพื่อนำใช้จ่ายในรัศมี 4 กม.แต่การแจกเงินสดรอบแรกนั้น ไม่ได้เป็นไปตามคำคุยโวโอ้อวดไว้เลย
อีกทั้งการแจกเงินสดในปัจจุบันของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่มีอะไรใหม่ แต่เป็นแบบเดิม ผ่านระบบแอปเดิมๆ และเป็นการแจกด้วยท่วงทำนองที่ทักษิณ ผู้เป็นพ่อนายกฯ ได้เคยพูดเย้ยหยันรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ว่า แจกเงินเป็นคนปัญญาอ่อน แล้วลูกสาวตัวเองกลับมาทำตามโดยไม่เหลือคำคุยคิดใหม่ทำเป็นของดิจิทัลวอลเล็ตไว้เลย นอกจากนี้ กองเชียร์ยังมีน้ำหน้ามาพูดโม้ให้เกิดเสียงนิยม ทั้งที่ความจริงคือ มันไม่ใช่ดิจิทัลพายุหมุน 4 - 5 รอบเลย
"สัญชาตญาณของนักการเมืองพันธุ์แบบนี้ คิดแต่เรื่องคะแนนเสียง โดยไม่คิดถึงความเสียหายของประเทศและความยั่งยืนของประชาชน ที่สำคัญความเดือดร้อนของประชาชนจะต้องได้รับการแก้ไข ไม่ใช่มาแก้แบบระยะสั้นๆ แบบนี้ ซึ่งจะจบลงไม่แตกต่างจากนายกฯ เคยทำโครงการซอฟต์พาวเวอร์ใช้งบ 5 พันล้าน แต่ไม่ปรากฏผลงานอะไรออกมา"
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การเมืองถัดจากนี้ไป นายกฯ จะถูกร้องเรียนกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ฉบับของจริงที่มีรายละเอียดครบถ้วน โดยมีปลายทางอยู่ที่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น นายกฯ อาจขยับไม่ออกได้ง่ายๆ เลย เพราะตามข้อมูลเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว และเป็นใบเสร็จที่ชัดเจนยิ่งกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ถูกให้พ้นจากนายกฯ กรณีจริยธรรมเสียด้วยซ้ำ แล้วนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ จะรอดข้อหาจริยธรรมการไปครอบครองที่ดินธรณีสงฆ์ได้อย่างไรกัน
อีกทั้งยังมีกรณีเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เริ่มถูกตั้งต้นเพื่อนำไปสู่คดีอาญาและการยุบพรรคเพื่อไทย เพราะคนไปร่วมงานช่วงหาเสียงครั้งแรกนั้น อุ๊งอิ๊งค์เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงต้องมีส่วนร่วมในการทำผิด กระทั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจกใบเหลืองให้ นายชาญ พวงเพ็ชร์ จนนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่มาแล้ว ซึ่งเป็นความผิดมัดแน่นไว้ อาจจะดิ้นให้หลุดรอดได้ยากลำบากอย่างยิ่ง
ส่วนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) อยู่ระหว่างการไต่สวนกรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งน้ำหนักมากที่สุดจะมาจากพยานปากสำคัญ คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไปให้ถ้อยคำพร้อมเอกสารไว้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีผลสอบสวนของแพทยสภา โดยมีข่าวแววว่า ผลสอบสวนแพทย์จาก รพ.ตำรวจ และราชทัณฑ์ เสร็จเรียบร้อย และถูกส่งไปให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แล้ว ดังนั้น การสอบสวนกรณีนักโทษทักษิณ ป่วยทิพย์หรือไม่ ยังเป็นไปตามปฏิทินเดิม คือ ทุกอย่างจะจบลงในพฤศจิกายนนี้
"ทั้งสถานการณ์ร้องเรียนนายกฯ เกี่ยวกับสนามกอล์ฟอัลไพน์ การตั้งต้นสอบยุบพรรคเพื่อไทย และกรณีของทักษิณ จะทำให้การเมืองเปลี่ยนไปจากบริบทเดิมทันที โดยสังเกตุจากทักษิณทำตัวเงียบผิดปกติ ทั้งที่ตัวตนจริงไม่ใช่คนชอบทำตัวเงียบอะไรได้เลย ด้วยเหตุนี้ทิศทางการเมืองแบบเอาให้ตายกับไปข้างหนึ่งยังเดินไปตามเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง ดังนั้น (นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ทักษิณ และเพื่อไทย) จะหาทางรอดไม่เจอ"
นายจตุพร คาดว่า เวลาเป็นนายกฯ ของอุ๊งอิ๊งค์ จะน้อยกว่านายเศรษฐา ที่อยู่ในตำแหน่งนายกฯ เกือบครบปี ส่วนคนที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่ต่อจากอุ๊งอิ๊งค์นั้น จะเป็นคนเก่า ดังนั้น เชื่อว่าการเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในอีกไม่นาน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี