‘จตุพร’ตีปี๊บ! 5 ต.ค.ปลุกปชช.ร่วมวงเสวนา เปิดแผลใหญ่ไล่รัฐบาล
3 ตุลาคม 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 2 ต.ค.67 ย้ำเชิญชวนคนไม่มีฝ่ายร่วมสานสัมพันธ์วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม นี้ ที่สถานีพีซทีวี รามอินทรา 40 แยก 33/1 เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น พร้อมรับฟังข่าวดีฝ่ายประชาชน ส่วนรัฐบาลมีแต่เรื่องร้ายๆ ก่อหายนะภัยให้บ้านเมือง
นายจตุพร กล่าวว่า ในวันดังกล่าว นอกจากกินข้าวร่วมโต๊ะฉันท์มิตรคนไทยสีธงชาติเดียวกันแล้ว ยังมีเสวนาหัวข้ออดีต ปัจจุบัน อนาคตประเทศไทย ในสถานการณ์ไฟสงครามคุกรุ่นรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน เริ่มเปิดศึกแนวรบตะวันออกกลาง ทิ้งบอมบ์ใส่กัน ส่อบานปลายกลายเป็นสงครามโลกอยู่รอมร่อ ส่วนกลุ่มการเมืองไทยกลับจ้องเปิดบ่อนคาสิโน ซ่อนผลประโยชน์มหาศาลให้พรรคพวก และคิดปล้นแผ่นดินไปปล่อยขายให้ต่างชาติ 99 ปี
นายจตุพร กล่าวถึงภาพรวมการเสวนาในวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคมนี้ ว่า จะพูดเรื่องทางกฎหมาย เพราะเรื่องถือหุ้นอัลไพน์ เรื่องชั้น 14 และเรื่องเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี รวมทั้งอื่นๆ ล้วนเป็นปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น ยิ่งปัญหาตั้งบ่อนการพนันจะทำให้ประชาชนทนอยู่กับรัฐบาลไม่ได้ คนไทยจำเป็นต้องพูดถึงการขายแผ่นดินให้กลุ่มทุนต่างชาติ 99 ปีที่แฝงซ่อนรูปไว้ในโครงการแลนด์บริดจ์จำนวน 3 แสนไร่ แล้วยังขยายเพิ่มให้ซื้อคอนโดมิเนียมจาก 49% เป็น 75% เท่ากับยึดครองที่ดินที่ตั้งคอนโดฯ ไปแบ่งแยกตั้งอาณานิคม เกิดรัฐซ้อนรัฐอีกด้วย
“เรื่องที่ต้องพูดนั้น แสดงถึงการวางแผนปล้นสมบัติชาติ แต่มายัดเยียดกล่าวหาฝ่ายต่อต้าน ฝ่ายหยุดยั้งการขายชาติว่า พวกป่วน ซึ่งผมจะบอกให้ การขายชาติอย่างไงก็ป่วน คงมีแต่พวกอัปรีย์ นางแบกนายแบก คือพวกทนได้จึงสนับสนุนการขายชาติ”
นายจตุพร กล่าวว่า วันที่ 5 ตุลาคมนี้ ขอเชิญประชาชนมารับฟังเรื่องราวการวางแผนขายชาติอย่างตรงไปตรงมา ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายความมั่นคงอย่าได้วิตกกังวลเสถียรภาพรัฐบาล เพราะถึงที่สุดรัฐบาลก็ไม่รอดและต้องจบสิ้นไปในปัญหาสนามกอล์ฟอัลไพน์บนที่ธรณีสงฆ์อยู่แล้ว
“อย่ามากล่าวอ้างชวนเชื่อว่าให้ต่างชาติครอบครองที่ดิน 99 ปี เมื่อครบกำหนดแล้วจะนำที่ดินมาสร้างที่อยู่ให้คนจน ใครจะอยู่ถึงวันนั้น อยู่ถึง 99 ปี คนพูดจะมีชีวิตถึงหรือไม่ อีกอย่างที่ดินธรณีสงฆ์ยังไม่คืนเลย แล้วเชื่อได้เหรอว่า รอ 99 ปีจะคืนที่ดินให้คนจนไทย”
นายจตุพร กล่าวว่า กรณีป่วยทิพย์ชั้น 14 รพ.ตำรวจนั้น แพทยสภาได้ไต่สวนแพทย์ รพ.ตำรวจและราชทัณฑ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ข่าวแว่วมาว่าผลสอบสวนถูกส่งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อนำยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว ดังนั้นปัญหาไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อกฎหมาย คือสิ่งบั่นทอนรัฐบาลเสียเอง ซึ่งไม่ได้มาจากประชาชน
นอกจากนี้ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยตอกย้ำถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยประกาศหาเสียงเป็นสัญญาประชาชนว่า จะแจกเงินหมื่นให้คนตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปประมาณ 54 ล้านคน และยังเรียกร้องให้ลงทะเบียนทางรัฐ แล้วเลื่อนแจกเงินตามสัญญาครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อถึงกำหนดแจกจริงรัฐบาลกลับแจกเป็นเงินสดให้กลุ่มเปราะบางที่ไม่ได้ลงทะเบียนทางรัฐไว้ ส่วนพวกลงทะเบียนตามที่รัฐบาลบอกไม่ได้รับแจกตามสัญญา จึงเท่ากับรัฐบาลเบี้ยวซ้ำเบี้ยว โกหกซ้อนคำโกหกจนเกิดความเสียหายเสียเอง
“แจกเงินสดให้ประชาชนก็เอาไป เพราะเป็นความเดือดร้อน แต่กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ยั่งยืนรัฐบาลย่อมรู้อยู่เต็มอก ซึ่งสมัยไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ได้แจกเงินก็ว่าคนแจกปัญญาอ่อน แล้ววันนี้ตัวเองเป็นรัฐบาล เริ่มแจกเงิน ปัญญาดีขึ้นแล้วหรือไง ดังนั้น สิ่งนี้จึงต้องพูดกันในวันที่ 5 ตุลาคม นี้”
นายจตุพร ย้ำว่า ปัญหาที่รัฐบาลก่อขึ้นนั้น ล้วนเป็นแต่เรื่องร้ายๆ และเกี่ยวพันกับการปล้นชาติทั้งสิ้น ที่ชัดเจนคือตั้งบ่อนทั่วประเทศ 8 แห่งเวลา 30 ปีจ่ายผลประโยชน์ให้รัฐเพียง 2.8 แสนล้าน ซึ่งเทียบกับรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงเวลาเดียวกัน ถ้าทำกันเข้มข้นจริงจังจะได้มากถึง 90 ล้านล้าน จึงเห็นชัดว่า ผลประโยชน์ที่เกิดจากบ่อนถูกซุกซ่อนไว้กับกลุ่มทุนใด ดังนั้น มีปัญหาว่า การตั้งบ่อนคุ้มค่ากับหายนะภัยที่เกิดกับบ้านเมืองหรือไม่
“คนมีหน้าที่ต้องทำให้ครบถ้วนตามข้อกฎหมาย ส่วนเราจะทำหน้าที่ประชาชน ไม่มีฝ่ายใดและเป็นของใคร แต่มีฝ่ายเดียวคือประเทศไทย เราแยกชัดเจน ฝ่ายดีฝ่ายชั่ว ฝ่ายขายชาติฝ่ายปกป้องชาติ มีอยู่เท่านี้และไม่มีประโยชน์ส่วนตัวใดๆ จึงชวนเชิญทุกฝ่ายมาร่วมพูดคุยกันในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ตรงกับวันเสาร์ 5 จะมีแต่ข่าวดีของประชาชน ส่วนข่าวร้ายเป็นฝ่ายรัฐบาล ขอประชาชนทุกฝ่ายมาฟังข่าวดีตั้งแต่เวลาเที่ยงเป็นต้นไป” นายจตุพร กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี