'Con for All'ยื่น'วันนอร์-รัฐบาล-ฝ่ายค้าน'จี้บรรจุร่างแก้รธน.ให้เร็วที่สุด มองไม่ต้องรอกม.ประชามติผ่าน หวั่นกระบวนการล่าช้าไม่ทันเลือกตั้งปี70 ด้าน'เลขาฯประธานสภาฯ'มั่นใจพันเปอร์เซนต์ ปธ.สภา บรรจุเข้าระเบียบวาระ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ต.ค.2567 ที่รัฐสภา เครือข่ายภาคประชาชน ในนามกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ (Con for All) เข้ายื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอ์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องให้รัฐสภาเร่งดำเนินการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็วที่สุด ผ่านนายมุข ศุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับแทน
โดยเครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎร และคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน เหลือเวลาดำรงตำแหน่งในวาระอีกเพียง 2 ปี 8 เดือนเท่านั้น หากกระบวนการนี้ เนิ่นช้าไป และไม่ได้เริ่ม ก็กลัวว่าจะไม่เสร็จในรัฐสภาชุดนี้ หรือกลัวว่าจะไม่เสร็จเลย เราจึงมาติดตามสถานการณ์ เพราะทราบอยู่ตลอดว่าพรรคเพื่อไทย โดยคณะรัฐมนตรีชุด นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวทางที่ประกาศออกมาแล้วว่า จะมีกระบวนการไปสู่รัฐธรรมนูญใหม่ โดยการทำประชามติ 3 ครั้ง ซึ่งเรากำลังรอการเริ่มครั้งแรกอยู่ แต่ สว.ก็ยังไม่ให้พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติผ่าน แต่กว่าจะรอ พ.ร.บ.ประชามติเสร็จ และกว่าจะได้ทำประชามติครั้งแรก แล้วค่อยเริ่มกระบวนการ ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ก็น่าจะชัวร์แล้วว่า จะไม่ทันภายในรัฐสภาชุดนี้ หรือภายในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวต่อว่า เราจึงขอเสนอและยืนยันว่า เราไม่ได้คัดค้านการทำประชามติครั้งแรก แต่ถ้าไทม์ไลน์เป็นเช่นนี้ ไม่ต้องทำจะดีกว่า เพราะในปัจจุบัน การทำประชามติครั้งแรก ไม่ได้มีกฎหมายฉบับบังคับให้ทำ และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้บอกว่าต้องทำ ดังนั้นเราควรจะเริ่มกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ได้โดยการเปิดสภา เพื่อบรรจุวาระร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อพิจารณาจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แล้วเดินหน้าต่อไป ซึ่งสามารถทำได้เลยตั้งแต่วันนี้ โดยไม่จำเป็นต้องรอ พ.ร.บ.ประชามติก่อน เพราะนี่จะเป็นหนทางเดียวที่มีอยู่ ที่จะทำให้มีโอกาสได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายในรัฐสภา และรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนี้ คาดหวังว่า การแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา จะต้องคำนึงถึงสิทธิของประชาชนด้านต่างๆ ด้วย
ด้านนายมุข กล่าวว่า ประธานสภาฯ เห็นด้วย และยินดีให้ความร่วมมือ 1000% จะรีบบรรจุกฎหมายฉบับนี้ให้เร็วที่สุด เพราะรัฐสภาก็อยากให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จ พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนว่า หากอยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นอย่างที่ทุกคนมีความประสงค์ ก็ต้องช่วยกันผลักดันทำให้สภาสูงและสภาล่างมีความเห็นเหมือนที่ประชาชนต้องการ เนื่องจากขณะนี้ยังมีบางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย
ขณะที่นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่มาในวันนี้ เหมือนเป็นการให้กำลังใจพวกเราในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หลายพรรคการเมืองให้สัญญาประชาคมเอาไว้ ทั้งการแก้ทั้งฉบับ และการแก้ไขรายมาตรา ถือเป็น กฎหมายแรกที่ทางรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านเห็นพ้องต้องกันตั้งแต่ต้น ยอมรับว่าขณะนี้มีอุปสรรค ทุกอย่างไม่ได้รวดเร็วเป็นไปตามที่เราหวังไว้ แต่ทางวุฒิสภาก็จะส่งร่างกลับมา เพื่อตั้งกรรมาธิการร่วมกันว่า สุดท้ายแล้วจะเอาอย่างไรกันแน่
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของพรรคฝ่ายค้านซึ่งให้คำมั่นสัญญาประชาชน ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าจุดยืนของพรรคประชาชนในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน เรายืนยันมาตลอดว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหา และเห็นด้วยว่าต้องมีการเดินคู่ขนานกัน โดยหนทางที่หนึ่งซึ่งเราเห็นว่าดีที่สุดในการที่จะทำให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันการเลือกตั้งปี 2570 คือการต้องลดขั้นตอนทำประชามติจาก 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้ง แต่ก็อยู่ที่การตัดสินใจของประธานสภาฯ ว่าจะบรรจุวาระหรือไม่ ทั้งนี้ พรรคประชาชนได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 7 แพ็กเก็จแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี