'สนธิรัตน์'ยันไม่ทิ้งพรรคในยามยาก เชื่อพปชร.เป็นฝ่ายค้าน ยังเป็นความหวัง-ช่วยประเทศได้ไม่แพ้รัฐบาล
เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2567 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการทำงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐว่า การทำงานการเมืองตนคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก พร้อมทำในทุกบทบาทหากจะเป็นการช่วยให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ วันนี้พรรคพลังประชารัฐมีบทบาทสำคัญในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งตนมองว่า พรรคฝ่ายค้านจะช่วยประเทศได้มากไม่แพ้พรรครัฐบาล และต้องยอมรับว่า ในยุคหลังๆ พรรคที่จะเข้าไปเป็นรัฐบาลทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็น เอาอุดมการณ์ไว้ข้างหลัง ขณะเดียวกันก็แปลอุดมการณ์ให้สอดคล้องกับการเข้าไปเป็นรัฐบาล ทำให้ขาดอุดมการณ์ ขาดจุดยืน ในการที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ความเป็นประเทศที่แข่งขันกับประเทศอื่นได้
“การเมืองวันนี้ไม่ได้เริ่มต้นที่ประโยชน์สาธารณะ แต่เริ่มต้นด้วยประโยชน์ส่วนตน ผมทำการเมืองมาด้วยจุดยืนที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง การที่กลับมาพรรคพลังประชารัฐอีกครั้งเมื่อปี 2566 ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะเรามองเห็นว่าสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่จะสามารถแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้ และอย่าลืมว่า ผมและนายอุตตม สาวนายน คือคนที่ร่วมกันก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐมา เพราะฉะนั้นความรักในสถาบันพรรคการเมืองของเราก็ยังคงอยู่” นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า ถึงแม้พลังประชารัฐจะมีปัญหาบ้าง ผ่านวิกฤติต่างๆมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่า วันนี้พรรคยังมี สส.เหลืออยู่ 20 เสียง พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่เคยได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากพี่น้องประชาชน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นองค์ประกอบรวมกันว่า เมื่อเราอยากจะทำหน้าที่ช่วยชาติบ้านเมืองได้ มีสถาบันการเมืองหรือพรรคการเมืองที่วันนี้ยังเป็นพรรคการเมือง และที่สำคัญบทบาทของพรรคนี้คือพรรคฝ่ายค้าน นี่คือเหตุผลว่าทำไมเรายังทุ่มเทช่วยพรรคพลังประชารัฐ
"การทำการเมืองของแต่ละคนมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน สิ่งหนึ่งที่เราแสดงออกอย่างชัดเจนก็คือเราไม่คิดจะทิ้งกันในยามยากลำบาก คนเราต้องรู้จักว่า ยามดี ก็ต้องดีด้วยกัน ยามยากลำบากเราก็ต้องเห็นใจซึ่งกันและกัน ถ้าทุกคนคิดถึงแต่ตัวเองว่ากระโดดไปที่อื่นแล้วมันดีกว่าที่นี้ แล้วต่อไปเราจะบอกลูกหลานของเราอย่างไรว่านี่คือนักการเมืองหรือสถาบันการเมืองแบบที่ควรจะเป็นในอนาคต เมื่อเราตัดสินใจมาทำงานการเมือง เราไม่ได้เริ่มจากว่าเราจะได้หรือเป็นอะไร แต่เราควรจะทำงานการเมืองเพื่อเป็นต้นแบบ หรือเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นหลังที่อยากทำงานการเมือง เพราะฉะนั้นวันนี้ถึงคนจะมองว่าพรรคพลังประชารัฐกำลังเผชิญกับปัญหารุมเร้า ยอมรับว่ามีคนชวนผมให้ไปร่วมงานด้วยเยอะ แต่ผมมองตรงข้ามว่า วันนี้คือ วันที่ยากลำบาก เรามีโอกาสช่วยได้ต้องช่วยกัน เมื่อบ้านไฟไหม้ เราต้องช่วยกันดับ ไม่ใช่โดดหนีไฟไปก่อน” นายสนธิรัตน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี