‘ชวน’ให้กำลังใจ‘ผู้สูญเสีย’
ร่วมอาลัย23ศพ
ลั่นไม่ควรยกเลิกทัศนศึกษา
แต่ต้องจัดระบบ-ระเบียบ
แก้ปัญหาคุณภาพพาหนะ
“ชวน หลีกภัย” ร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รสบัสนักเรียน พร้อมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือ เผยไม่ควรยกเลิกการทัศนศึกษา แต่อยากให้จัดระบบใหม่-แก้ปัญหาเรื่องคุณภาพของยานพาหนะ ประชาชนร่วมพิธีศพอย่างเนืองแน่น เจ้าของรถบัสเข้าร่วมงานศพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ “ชาดา” ประสานเตาเผาศพเอกชน
ช่วย พิธีพระราชทานเพลิง 8 ตุลาคมนี้ กระทรวงศึกษาธิการ เคลียร์ดราม่าเงินบริจาค โดยจะให้เป็นบัญชีเดียวกันทั้งหมด สภาฯ ตั้งคกก.ศึกษาแนวทางการป้องกัน-ลดอุบัติเหตุท้องถนน ‘นิกร’เผย25ตุลาคม ประชุมนัดแรก นำเคสไฟไหม้รถบัสเข้าเป็นวาระเร่งด่วน ส่วนการตรวจสอบอู่รถโคราชที่ถอดถังก๊าซรถบัสมรณะ ไม่เจอเจ้าของ พบเป็นอู่เถื่อน ลักษณะใช้เป็นสถานที่ชำแหละรถ มีหลักฐานทิ้งไว้เกลื่อน
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 เวลา 08.00 น. ที่โรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม หมู่ 5 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี บริเวณหอประชุมของโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ตั้งประกอบพิธีศพของผู้เสียชีวิตจำนวน 23 ราย จากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โดยในวันนี้เป็นวันที่ 2 ของการประกอบพิธีศพ ซึ่งได้มีประชาชนทยอยมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก จนแน่นบริเวณหอประชุม โดยในช่วงเที่ยงได้มีการนิมนต์พระสงฆ์จากวัดใกล้เคียงเพื่อสวดพระพุทธมนต์ และถวายภัตตาหารเพล เพื่ออุทิศบุญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต
ส่วนสภาพจิตใจของผู้ปกครอง ญาติผู้เสียชีวิต ผู้นำชุมชน บอกว่า บางส่วนเริ่มดีขึ้น เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาเยียวยา และฟื้นฟูสภาพจิตใจ ตั้งแต่วันแรกที่เกิดอุบัติเหตุ แต่หลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพแล้ว อยากให้ภาครัฐหรือท้องถิ่น เข้ามาดูแลสภาพจิตใจอย่างต่อเนื่อง เพราะครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกบ้าน ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน และเพื่อฟื้นฟูให้เขามีความพร้อม
รร.บ้านเขาลูกโล่ร่วมแสดงความเสียใจ
ในส่วนของ โรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ร่วมแสดงความเสียใจกับโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี และร่วมแสดงความเสียใจ ให้กับผู้ปกครอง และนักเรียนทุกคนที่เสียคนรักในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างสุดซึ้ง โดยในช่วงเช้า ทางคณะครูและเด็กนักเรียน โรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ ได้ร่วมทำบุญส่วนอุทิศกุศลให้กับครูทั้ง 3 ท่าน และเด็กนักเรียนอีก 20 คน ที่จากไปโดยไม่มีวันกลับ
แต่งกลอนสดุดีครูผู้กล้าหาญ
โดยนายปฏิพล ปุ่มเพชร ข้าราชการครูโรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ ได้เขียนบทประพันธ์ ร่วมแต่งบทกลอน ให้กับคณะครูและนักเรียนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไฟไหม้ โดยมีเนื้อหาใจความว่า สดุดีครูผู้หาญกล้า
“อาชีพครูนั้นเป็นอยู่ไม่สร่าง อยู่ไม่ห่างปกป้องสิทธิ์ไม่ไปไหน ไฟจะโหมควันจะพุ่งซักเพียงใด กายและใจพร้อมสู้เคียงคู่กัน โอบกอดศิษย์ไม่มีคิดหนีจาก จนเปลวไฟมาพรากให้ดับฝัน สงบนิ่งเงียบสงัดอย่างฉับพลัน ทุกเสียงนั้นเงียบลงกลางดงไฟ ขอเชิดชูคุณครูผู้หาญกล้า ยอมพลีชีพพลีชีวาไม่ไปไหน เคียงคู่ศิษย์ด้วยเพราะรักและห่วงใย ขอครูจงพาศิษย์ไปทิพย์วิมาน จงสถิตบนฟากฟ้านภากาศ วิมานมาศเทวาลัยในสวรรค์
เขาลูกโล่จะระลึกทุกคืนวัน ตลอดนิจนิรันดร์กาลตราบนานเอย”
เจ้าของรถบัสจ่ายเยียวยาคนละ5หมื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จพิธีสวดอภิธรรมศพ เมื่อคืนวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าของรถบัสทัศนศึกษา บริษัทชินบุตรทัวร์ เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมทนายความส่วนตัว ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ปกครองของครูนักเรียน เพื่อมอบเงินเยียวยา ให้กับครอบครัวของครูและนักเรียนทั้ง 23 คน รายละ 50,000 บาท พร้อมกับจะเยียวยาเพิ่มเติมในภายหลัง รวมถึงแจ้งว่าจะดูแลนักเรียนที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้ง 3 คน
“ชาดา”ประสานขอเตาเผาศพเอกชน
สำหรับความคืบหน้าการจัดสถานที่สำหรับพระราชทานเพลิงศพ หลังจากที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย บอกว่า ได้ประสานขอเตาเผาเคลื่อนที่จากเอกชน ตอนนี้ได้มา 5 หลัง จะใช้เวลาเผาทั้งหมด 23 ร่าง ประมาณ 3 ชั่วโมง คาดว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายเตาเผาได้มาถึงงานพิธีได้ในวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค.นี้
ได้มอบหมายให้ผู้นำชุมชน จัดเตรียมสถานที่ โดยใช้รถแบ็คโฮ เข้าปรับพื้นที่ บริเวณสนามฟุตบอล ภายในโรงเรียน และเตรียมใช้หินคลุก 100 คันรถพ่วง เกลี่ยพื้นที่ให้เรียบ เพื่อใช้เป็นสถานที่ ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ของผู้เสียชีวิต
“ชวน หลีกภัย”ร่วมแสดงความเสียใจ
เวลา 11.00 น. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภา ได้เดินทางไปที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจและร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของครูและนักเรียน ทั้ง 23 ราย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผ่านสำนักงานคลังจังหวัดอุทัยธานี
นายชวน กล่าวว่า มาให้กำลังใจพ่อแม่ ตายายของเด็กนักเรียนและครู พร้อมทั้งได้มีโอกาสอภิปรายในสภาร่วมกับสมาชิก ซึ่งได้ให้ข้อสังเกตไว้เรื่องคุณภาพของยานพาหนะที่ใช้ ซึ่งทุกคนคงทราบเรื่องนี้กันดีแล้ว และพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่ แต่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันว่า การไปทัศนศึกษาของนักเรียนนั้นถือว่าเป็นประโยชน์ ไม่ควรไปยกเลิก เพียงแต่ว่าจัดระบบให้เหมาะสมว่าไปไกลแค่ไหน เรียนชั้นไหน อายุเท่าไหร่
“ประเด็นที่สมาชิกพูดกันมากก็คือคุณภาพของยานพาหนะ ซึ่งก็ขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณแทนพี่น้องชาวอุทัยธานี ที่สวัสดิการทั้งหลาย รวมทั้งท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วม เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พันปีหลวง และสมเด็จพระบรมราชินี ราชวงค์ทุกพระองค์ที่ทรงห่วงใยต่อเหตุการณ์” นายชวน กล่าว
ขอให้เป็นสิ่งเตือนใจให้ระมัดระวัง
นายชวนกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้หากเปรียบเทียบแล้ว ถือเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศเรา หรืออาจจะของโลก ที่เราสูญเสียคนด้วยอุบัติเหตุแบบนี้ถึง 23 คน และบาดเจ็บอีกรวมแล้วกว่า 50 คน ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นการเตือนใจทุกฝ่ายให้ระมัดระวัง และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องระมัดระวัง อย่าให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องปล่อยผ่านไป ก็เชื่อว่าเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด เพราะประเทศเราก็ถือว่าเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุลำดับต้นๆของโลกด้วย
ศธ.เคลียร์ดรามาปมเปิดรับบริจาค
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่เพจเฟซบุ๊กโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม โพสต์ข้อความเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือนักเรียน และครูที่ประสบเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาว่า สพฐ. เปิดบัญชีเพื่อให้ผู้ที่อยากร่วมบริจาคทำบุญและใช้การจัดงานบุญต่าง ๆ ให้กับผู้เสียชีวิต พร้อมประสานพื้นที่เพื่อให้เปิดรับบริจาค และทางโรงเรียนก็เปิดรับบริจาค ทุกบัญชีจะต้องชัดเจนว่าได้ยอดบริจาคเท่าไหร่ ต้องให้เป็นบัญชีเดียวอย่างเป็นทางการ ยอมรับว่าทุกคนหวังดีที่อยากจะร่วมทำบุญ
นายสุรศักดิ์ ระบุอีกว่า ส่วนหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่กระทรวงศึกษาธิการ ก็มีการเปิดรับบริจาคด้วยเช่นกัน กระทรวงศึกษายืนยันว่า ต่อไปนี้จะเป็นบัญชีเดียวทั้งหมดให้ สพป.อุทัยธานี เขต 2 เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อจัดการเงินบริจาคให้มียอดเดียวกัน และมีตัวเลขที่ชัดเจน อาจจะมีความสับสน เพราะมีความหวังดีหลายทาง เชื่อว่าทุกคนอยากจะทำสิ่งดีๆ กับผู้เสียชีวิตไม่มีใครอยากนำมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว
ด.ญ.14ปีเหยื่อเพลิงไหม้อาการดีขึ้น
แถลงการณ์สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ เรื่อง ผู้ป่วยเด็กหญิง 14 ปี เกิดเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทัศนศึกษา สืบเนื่องจากผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 และเข้ารับการรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์นั้น
จากการตรวจรักษา โดยรวมอาการทั่วไปดีขึ้น ไม่มีไข้ รับประทานอาหารได้ บาดแผลไฟไหม้บริเวณแขนทั้งสองข้างคงที่ ไม่พบการติดเชื้อ ส่วนบริเวณอื่นบาดแผลดีขึ้นมาก ทางทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟู ได้เริ่มกิจกรรมฟื้นฟูสภาพร่างกายของผู้ป่วย เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนซึ่งโดยรวมผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองได้ดี ทั้งนี้ยังต้องดูแลติดตามอย่างต่อเนื่อง
จากผลการประเมินทางด้านจิตใจ พบว่าผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น ระหว่างวันสามารถทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายและจัดการอารมณ์ได้ดี แต่ยังต้องประเมินด้านจิตใจของผู้ป่วย และญาติอย่างต่อเนื่อง และติดตามอาการเป็นระยะต่อไป ขอขอบพระคุณทุกท่านในความห่วงใยสุขภาพอาการของเด็ก ทางทีมแพทย์และพยาบาลของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ จะให้การดูแลรักษาเด็กต่อเนื่องต่อไป
คมนาคมตั้งกก.พิจารณาป้องกันอุบัติเหตุ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงคมนาคม แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณามาตรการเชิงป้องกันสำหรับการให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะ เพื่อให้ทราบสาเหตุและปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ จากการให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะ อันจะนำไปสู่การกำหนดมาตรการเชิงป้องกันและแนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานและผู้ มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อของกระทรวงคมนาคม รวมทั้งข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ ในการป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีกในอนาคต โดยให้รายงานผลการดำเนินงานภายใน 15 วัน นับจากวันที่มีคำสั่งแต่งตั้ง
สภาฯตั้งคกก.ศึกษาแนวทางป้องกัน
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาและกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา แถลงว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ลงนามในคำสั่งรัฐสภาที่ 42/2567 ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการฯ จากกรรมาธิการสามัญฝั่งวุฒิสภาที่ตั้งขึ้นใหม่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ผู้เป็นประธานคณะกรรมการฯ ได้มีคำสั่งให้มีการประชุมร่วมคณะกรรมการฯ ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 25 ต.ค. นี้
นายนิกร จำนง กล่าวว่า กรณีรถบัสทัศนศึกษานักเรียนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากและมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานรับผิดชอบหลายฝ่ายรวมทั้งฝ่ายรัฐสภาด้วย และโดยที่องค์ประกอบของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นใหม่นี้มีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องเกือบครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญคณะต่าง ๆ ของทั้ง 2 สภาฯ เช่น กมธ.การคมนาคม กมธ.การศึกษา กมธ. การกฎหมายฯ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กรมป้องกันและบรรเทาสาธาธารณะภัย อธิบดีกรมควบคมุโรค รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำหนดให้เป็นวาระพิจารณาเร่งด่วนสำคัญในการประชุมในครั้งนี้ เพื่อสรุปเสนอแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ผลในการปฏิบัติ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้น อันเป็นหน้าที่และอำนาจโดยตรงของคณะกรรมการ ฯ ต่อไป โดยประธานคณะกรรมการฯ ได้สั่งการไปให้ทุกหน่วยเตรียมแนวทาง มาตรการและข้อเสนอที่เห็นว่าจะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวเข้ามาพิจารณาในการประชุมวาระสำคัญที่สุด
รุดตรวจสอบอู่รถถอดถังก๊าซ
ความคืบหน้าการตรวจสอบรถบัส 5 คัน ของบริษัทชินบุตรทัวร์ เจ้าของรสบัสทัศนศึกษาที่เกิดเหตุไฟไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจยึด โดยอู่กังการช่าง ในพื้นที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่ที่รถบัสทั้ง 5 คัน ถูกนำมาจอดเพื่อถอดถังก๊าซ CNG ออก ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจสอบและระงับได้ทัน ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ขนส่งฯ ได้นำรถบัสทั้ง 5 คันเข้าตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาตามที่มีข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ อู่กังการช่าง ในพื้นที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่ที่รถบัสทั้ง 5 คัน ถูกนำมาจอดเพื่อถอดถังก๊าซ CNG ออก แต่ถูกระงับไว้ได้ทัน พบว่า ทางเข้าอู่ไม่มีการติดป้ายชื่ออู่ และอยู่ลึกจากถนนใหญ่เข้าไปในป่ารกร้าง ลักษณะโครงสร้างอู่ เป็นเหล็ก หลังคายกสูง ภายในพบรถบัสจอดทิ้งไว้ 2 คัน ไม่พบคนอยู่ในอู่ บริเวณด้านหน้าอู่พบถังก๊าซ CNG ถูกวางทิ้งไว้ 6 ถัง ตรวจสอบเอกสารที่ติดอยู่บริเวณถังพบว่า 3 ใน 6 ถัง ระบุทะเบียนรถในเอกสารเอาไว้ว่า 30-0411 สิงห์บุรี ซึ่งตามเอกสารนั้นถูกระบุว่า นางปาณิสรา ชินบุตร เป็นเจ้าของรถ ซึ่งเป็น 1 ในรถทั้ง 5 คัน ที่มาลักลอบถอดถังก๊าซออกก่อนที่จะนำไปตรวจสภาพตามกำหนดการเดิมที่จังหวัดลพบุรี ส่วนอีก 3 ถังที่เหลือนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากรถคันใดเนื่องจากเอกสารถูกขูดทำลายทำให้ไม่เห็นรายละเอียดต่างๆ
คาดเป็นสถานที่ชำแหละรถ
ส่วนบริเวณโดยรอบ พบเศษเหล็กที่มีลักษณะเหมือนคานสำหรับเอาไว้ใช้ล็อคถังก๊าซและสายรัดถังก๊าซกระจัดกระจายอยู่ในบริเวณดังกล่าว ใกล้กันกับจุดที่ถังก๊าซได้ถูกวางทิ้งเอาไว้นั้นตรวจพบเบาะรถสีแดงลายดอกไม้ซึ่งมีลักษณะตรงกับ 1 ในรถทั้ง 5 คัน ใกล้กันยังพบเบาะรถอีก 1 คู่ที่ถูกถอดวางทิ้งไว้ซึ่งเปรียบเสมือนหลักฐานที่ยืนยันว่ารถทั้ง 5 คันนั้นมายังอู่แห่งนี้ ซึ่งด้านหลังของเบาะ 1 คู่ที่พบเจอนั้นมีข้อความด้านหลังที่ระบุว่า “ชินบุตรทัวร์” สันนิษฐานว่าเบาะที่พบนั้นเป็นเบาะบริเวณห้องโถงชั้นล่างของตัวรถทัวร์ สาเหตุที่ถอดออกนั้นคงเป็นเพราะว่าต้องการที่จะนำถังก๊าซออกจากตัวรถ
ตรวจสอบพบไม่ได้ขออนุญาติเปิดอู่
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังเทศบาลตำบลโคกกรวดซึ่งรับผิดชอบพื้นที่บริเวณที่อู่รถตั้งอยู่เพื่อไปตรวจสอบการยื่นจดทะเบียนและการเสียภาษีว่าอู่ดังกล่าวได้มีการยื่นจดทะเบียนประกอบกิจการถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลก็ได้พยายามติดต่อไปยังเจ้าของอู่แล้ว แต่เจ้าของไม่อยู่บ้าน ทางเทศบาลตำบลโคกกรวด จึงได้ค้นข้อมูลพบว่า อู่ดังกล่าวมีชื่อนายจีราวัฒน์ จารุรัตน์ธันญา เป็นเจ้าของโดยไม่ได้ขออนุญาตเปิดเป็นอู่แต่อย่างใด
นายสมบูรณ์ บัวบูชา รองนายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด เปิดเผยว่า อู่รถดังกล่าวนั้นได้มีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างเมื่อปี 2556 และมายื่นขอบ้านเลขที่ในปี 2557 โดยขออนุญาตใช้เป็นโรงจอดรถมีการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประจำทุกปี ปีละ 1,160 บาท ในลักษณะบุคคลธรรมดา ไม่ได้เสียภาษีหรือยืนขอจดทะเบียนในการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พรบ.สาธารณสุข ซึ่งถือว่ามีความผิด หลังจากนี้คงต้องแจ้งไปยังเจ้าของอู่ให้มายื่นจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย
เป็นที่พักรถทัวร์ประสบอุบัติเหตุ
นายภัคพล ยิ้มดี นายช่างโยธาเทศบาลตำบลโคกกรวด เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ใช้เป็นอู่รถนั้น ก่อนหน้าปี 2556 ที่จะมีการแจ้งขอจดทะเบียน ทางเทศบาลฯ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว และพบว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นได้ถูกเทปูน ตนจึงได้แนะนำให้เจ้าของอู่ไปยื่นขอจดทะเบียนให้ถูกต้องว่าต้องการจะก่อสร้างอะไร ซึ่งทางเจ้าของอู่ก็ให้ความร่วมมือโดยเขียนแบบมาแจ้งจดทะเบียนว่าพื้นที่ดังกล่าวจะใช้เป็นโรงจอดรถ ต่อมาตนก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจดูอยู่เป็นระยะๆ พบว่ามีรถทัวร์มาจอดทิ้งไว้เป็นประจำ ส่วนใหญ่เป็นรถทัวร์ที่ประสบอุบัติเหตุมาจากที่อื่น เพื่อจอดพักไว้รอดำเนินการบางอย่าง และมีการรื้ออะไหล่ที่พังแล้วออก และนำรถออกจากอู่ไป ซึ่งอู่ดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการประกอบรถขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงการติดตั้งก๊าซรถยนต์ ตนก็เพิ่งมาทราบหลังจากเป็นข่าวไปแล้ว ว่าอู่ดังกล่าวนั้นรับรื้อถอนการติดตั้งถังก๊าซรถยนต์ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี