"จตุพร"ชี้เปรี้ยงม็อบจุดติดหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแกนนำ แต่ขึ้นอยู่กับนายกฯและรัฐบาลจะเป็นไม้ขีดไฟหรือน้ำมันเสียเองหรือไม่ ยกตัวอย่าง 4 ประเด็นร้อนที่ต้องจับตาเป็นเชื้อเพลิงหรือไม่ อ้างได้ยินข่าวมาแพทยสภาส่งผลสอบชั้น 14 ให้"กสม."แล้ว เตรียมส่งต่อให้ ป.ป.ช. ระบุมีผลสอบทางลับ"เสรีพิศุทธ์-จนท.ราชทัณฑ์"อีกจำนวนหนึ่งด้วย บอกถ้าพ่ออยู่ไม่ได้ ลูกก็อยู่ไม่ได้
5 ต.ค.67 ที่สถานีโทรทัศน์ Peace tv ได้มีการจัดกิจกรรม"นัดหมาย เพื่อนพ้องน้องพี่" โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้กล่าวในหัวข้อ"ประเทศไทย อดีต ปัจจุบัน อนาคต"ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลนี้จะล้มได้จะล้มหรือไม่ และม็อบจะจุดติดหรือไม่ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับบุคคลที่เป็นแกนนำม็อบเพราะเป็นรัฐบาลที่จะเป็นไม้ขีดไฟและน้ำมันเสียเอง
"ที่ผ่านมาหลายคนเข้าใจผิด ที่คิดกันว่าม็อบจุดไม่ติดนั้นขึ้นอยู่ที่แกนนำม็อบหรือประชาชน แต่ผมคิดว่าเกิดจากตัวนายกฯเอง หรือรัฐบาลว่า มีประเด็นที่ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจหรือไม่ เช่น สนามกอล์ฟอัลไพน์ การขายแผ่นดิน 99 ปีให้กับต่างชาติ คาสิโน entertainment complex การเลือกตั้งสนามท้องถิ่น เป็นต้น ผมมองว่าประเด็นเหล่านี้จึงจะมีน้ำหนักเพียงพอที่จะเป็นเป็นเชื้อเพลิงทำให้รัฐบาลอยู่หรือไปต่างหาก ซึ่งเมื่อคุณจุดติดแล้ว ผมนี่แหละจะออกไปยืนขวางการขายชาติ ขายแผ่นดิน"นายจตุพร กล่าว
นอกจากนี้ นายจตุพร ยังอ้างได้ข่าวมา ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ว่า ขณะนี้แพทยสภาส่งเรื่องผลการสอบสวน 4 หมอ 2 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไปยังกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และ กสม. จะต้องส่งไปยัง ป.ป.ช. และการสอบสวนในทางลับตั้งแต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย รวมถึงคนที่เดินทางไปด้วยอีก 2 คน ซึ่งไปต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการกรมราชทัณฑ์ที่ถูกสอบสวนทางลับอีกมากมาย
"เรื่องนี้จะขึ้นสู่ศาลอีกไม่นาน และหลังจากที่ศาลอาญาทุจริตประทับรับฟ้อง กระบวนการที่จะส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากพิสูจน์ชัดว่าโทษ 1 ปี ที่ได้รับการพระราชทานลดโทษ ไม่มีการติดคุกอยู่จริง ศาลก็สั่งได้"นายจตุพร ระบุ และว่า ดังนั้น เขาจัดการพ่อก่อนอยู่แล้ว และเมื่อถึงคิวลูก เมื่อพ่อไม่อยู่ ลูกก็อยู่ไม่ได้
ส่วนที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ติด 1 ใน 100 อันดับ ผู้นำที่ทรงอิทธิพลแห่งอนาคตของนิตยสารไทม์นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ใครที่ติดอันดับนิตยสารไทม์ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น อย่างในปี 2019 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็ติดอันดับ จากนั้นก็ถูกยุบพรรคตัดสิทธิ์ทางการเมือง และถูกดำเนินคดี ม.112 เรื่องวัคซีน ต่อมาปี 2021 นายอานนท์ นำภา ตอนนี้อยู่ที่ไหน และคนที่ 3 ปี 2023 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล วันนี้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และกำลังถูกดำเนินคดีจาก ป.ป.ช.เรื่องจริยธรรม อาจถูกตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต
"ผู้ที่ได้รับรางวัลทรงอิทธิพลแห่งอนาคตทั้ง 3 คน หลังจากนั้นไม่เหลือในปัจจุบัน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งภาคภูมิใจอะไรนักหนา คุณก็คือคิวต่อไป" นายจตุพร กล่าว
ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา กล่าวว่า เราต้องหลอมรวมประชาชนให้มีความคิดว่าประเทศไทยต้องมาก่อน วันนี้คนไทยติดกับดักปัจจุบันและอนาคต แต่ไม่อยู่ในปัจจุบัน ทำให้ประเทศติดอยู่วังวนนักการเมือง กลุ่มทุนนิยมผูกขาด นักการทหาร ตอนนี้ถ้านายกฯอิ๊งค์ไป คนไทยจะกลายเป็นนักเรียน เพราะนายอนุทิน ชาญวีระกุล มีครูใหญ่ ส่วนนายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค เป็นพรรคที่มีแค่ 30 เสียงไม่สามารถทำอะไร ทั้งนี้ กังวลรัฐบาลพยายามจะขายที่ให้ต่างชาติ ขณะที่กลุ่มแนวรบหลายๆกลุ่มผุดล้อมรอบไทยจะทำให้คนในประเทศเหล่านี้อพยพเข้ามาอยู่ในไทย ซึ่งปัจจุบันลำพังพม่าป่วนก็เอายากอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี