'ก่อแก้ว'โพสต์ป้อง'ณัฐวุฒิ'นั่งที่ปรึกษาของนายกฯ ลั่นยังรักษา 2 ภารกิจ'ทวงยุติธรรมเสื้อแดง-สร้างประชาธิปไตยฯ' ยกสิ่งที่เคยต่อสู้ ตอบทำไมยังอยู่เพื่อไทย
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่มีการวิจารณ์การรับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยระบุว่า
“ณัฐวุฒิ” กับ “ผม” เราเดินเคียงข้างกันมาบนถนนของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตั้งแต่วันแรก เมื่อ 18 ปีมาแล้ว
เราผ่านการต่อสู้มาเกือบทุกรูปแบบ เคยถูกเหยียบย่ำว่าเป็นไพร่ ไร้การศึกษา ถูกจ้างมา รุนแรงมากที่สุดสำหรับพวกเรานั่นคือ “ถูกสังหารหมู่” กลางเมืองหลวงถึง 2 ครั้ง เมษา-พฤษภา 53 พี่น้องเราเสียชีวิต บาดเจ็บ รวมแล้วนับร้อย นับพัน ถูกจับติดคุก เฉพาะณัฐวุฒิ กับ ผม เราติดคุกจริงๆกันคนละ 9 เดือน
หลังเราออกมาจากเรือนจำ เราสู้กันต่อ ร่วมผลักดันการเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ปี 53 รวมถึงให้มีการพิสูจน์ทราบการเสียชีวิตของพี่น้องเราทุกชีวิต เพื่อคืนความยุติธรรม มีความคืบหน้าเป็นระยะ แต่ทุกอย่างต้องหยุดชะงักลงหลังการรัฐประหาร 2557
ณัฐวุฒิ ผม รวมถึงพี่น้องเสื้อแดงจำนวนมาก เราต่างมีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จภายในช่วงชีวิตของเรา นั่นคือทำให้ประเทศไทยที่เรา กลับคืนสู่ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในแบบที่สากลโลกยอมรับ และ ภารกิจการทวงความยุติธรรมให้กับพี่น้องญาติวีรชนทุกคน
ผมกล้าพูดว่า ย้อนไปก่อนหน้าเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีพรรคการเมืองไหนเข้าใจและสนับสนุนคนเสื้อแดงอย่างออกหน้าออกตา มีก็เพียงแต่ "พรรคเพื่อไทย" ที่สนับสนุนภารกิจนี้ของพวกเรามาโดยตลอดระยะเวลานับ 10 ปี รวมถึงร่วมเป็นร่วมตายกับพวกเราในหลายวาระโอกาส และนี่คือเหตุผลที่ณัฐวุฒิ และ ผม ยังคงมีใจเต็มร้อยกับบ้านหลังนี้ และยังอยู่ร่วมแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมาจนถึงปัจจุบัน
ผมเชื่อว่า ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย ที่เรากลับมามีอำนาจรัฐอีกครั้ง จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ภารกิจของเราลุล่วงได้ภายในช่วงชีวิต อย่างน้อยที่สุดก็จะเกิดความคืบหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ และผมคืออีกหนึ่งคนที่กำลังสานต่อภารกิจนี้ร่วมกับณัฐวุฒิ และพี่น้องเรายังเชื่อมั่นในหนทางนี้อยู่ แต่ถึงแม้เราจะเป็นแกนนำรัฐบาล ก็มิได้หมายความว่าหนทางที่เรากำลังเดินไปนั้นจะราบเรียบเสียไปหมดทุกอย่าง
เราต้องตอบคำถามที่สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลบางคนไม่เข้าใจ ต้องเจรจาให้เรามาสนับสนุนแนวทางและภารกิจของเรา ผ่านกลไกรัฐสภา ต้องแบกรับ แรงเสียดทาน ที่เกิดขึ้นจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะภายในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในซีกเดียวกัน
ไม่ใช่แค่เรื่องการทวงความยุติธรรมให้แก่ผู้สูญเสียอย่างเดียว ที่มีอุปสรรค แต่การแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อคืนประชาธิปไตยให้กับพวกเราทุกคน ก็มีขวากหนาม
เราเชื่อว่า การได้มาซึ่งอำนาจรัฐ ผ่านตัวแทนประชาชน จะทำทำให้สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นทำได้เป็นรูปธรรมและมีน้ำหนักยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะ “การแก้กฎหมาย” ที่เราจะแก้ให้ผู้เสียหาย สามารถฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐโดยตรงได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในปี 53 ในอนาคต เราต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้น ถึงจะขอพลังและความร่วมมือ ในการปลดล็อกสิ่งเหล่านี้
แม้ว่านี่คือการกัดฟันกลืนเลือด แต่เลือดนี้ไม่ได้หวานละมุนเหมือนที่มีผู้หยามเหยียด เราทำทุกอย่าง ก้าวข้ามอดีตบางประการ ข้ามการถ่มถุม เหยียดหยาม ตราหน้า ทั้งจากอดีตมิตรร่วมรบ คู่แค้นทางการเมือง และคนที่เกลียดชังพวกเราอยู่แล้วเป็นทุนเดิม รวมถึงแรงกระเพื่อมจากในฟากเดียวที่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเรากำลังทำ เพื่อเดินไปสู่ 2 เป้าหมายที่เรากล่าวไปในข้างต้น
หลายคนมองว่าหนทางนี้ไม่ใช่หนทางที่ถูก แต่สำหรับ ไม่ว่าจะหนทางไหน ล้วนไม่มีถูกไม่มีผิด ถ้าคุณยังคงเดินไปสู่จุดหมายที่ตั้งใจ
พวกผมจะพิสูจน์ว่า เส้นทางที่ณัฐวุฒิ และ ผมกำลังเดินอยู่ คืออีกหนทางหนึ่ง ที่เป็นไปได้ที่สุดในการบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราตั้งใจไว้ ตั้งแต่วันแรกที่เราออกมาต่อสู้"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี