‘ชนินทร์’เพื่อไทย ได้รับเลือกเป็นประธาน กมธ.สุราชุมชน ประกาศดันสุราชุมชนเติบโตสมดุล เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก

เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กมธ.สุราชุมชน) นัดแรก มีมติแต่งตั้ง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานกรรมาธิการฯ โดยมีนายสุรเกียรติ เทียนทอง เป็นรองประธานคนที่ 1, นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เป็นรองประธานคนที่ 2 , นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นรองประธานคนที่ 3 และนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วานิช เป็นรองประธานคนที่ 4 และมีตัวแทนผู้ประกอบการสุราชุมชน ร่วมเป็นคณะกรรมาธิการอีกหลายท่าน

ทั้งนี้ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ และผู้เสนอร่างแก้ไขฯของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความตั้งใจของพรรคเพื่อไทยในการขับเคลื่อน พ.ร.บ.สุราชุมชน หรือการแก้ไข พ.ร.บ. สรรพสามิต มาตรา 153 ในครั้งนี้ เป็นการปลดล็อคศักยภาพสุราท้องถิ่นของไทย ขยายการเข้าถึงโอกาสในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน ให้สามารถยกระดับสินค้าสุราพื้นบ้านของตน เพื่อต่อยอดเศรษฐกิจฐานรากได้ แต่ก็ยังคงต้องคงไว้ซึ่งการคำนึงถึงผลกระทบการสังคมและสุขภาพของชุมชนด้วย

“พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าวัฒนธรรมสุราที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน และอัตลักษณ์ของสินค้าในแต่ละพื้นที่ที่ต่างกัน จะสามารถเป็นหนึ่งเครื่องจักรในการส่งเสริม soft power ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในสายตาโลกนำเอาทุนทางวัฒนธรรมทางภูมิปัญญาไทยที่มีอยู่มาเพิ่มมูลค่า ส่งเสริมเศรษฐกิจต่อเนื่องในหลายมิติ ทั้งการท่องเที่ยว การส่งออกสินค้า และการกระจายรายได้สู่ชุมชนได้” นายชนินทร์กล่าว

นายชนินทร์ กล่าวว่า ภายใต้การบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน ภาษีสรรพสามิตจากสุราชุมชนของปีงบประมาณ พ.ศ.2567 สามารถเก็บได้สูงถึง 1,357 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กว่า 5% สะท้อนการขยายตัวของธุรกิจสุราชุมชนในช่วงที่ผ่านมา การปรับแก้กฎหมายตามนโยบายของรัฐบาลที่จะผลักดันสุราชุมชนในมิติของการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก จะช่วยให้เกิดการพัฒนาและยกระดับการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรสู่การแข่งขันในวงอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นอย่างยั่งยืน ตัวอย่างเช่น “ซอดแจ้ง” ซึ่งเป็นสุราไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากอุบลราชธานี มาจากการนำอ้อยสด และมะพร้าวมากลั่น เป็นต้น