ดาหน้าโต้ปัด‘ล้มล้างการปกครอง’
‘พท.’ดินพล่าน
ซัดข้อร้องเรียนไกลเกินจริง
ลั่นไม่มีแผนเปลี่ยนนายกฯ
เชื่อ‘พปชร.ชักใยเบื้องหลัง
ขู่สอบเส้นทางเงินคนร้อง
“ภูมิธรรม” ไม่กังวล 1,000% ยื่นเรื่อยเปื่อย ลั่นเปลี่ยนตัวนายกฯตอนนี้ โหดร้ายไปไหม บอกไม่ให้ค่าดราม่าโซเชียล อึกอักสื่อจี้ “ทักษิณ”ครอบงำหรือไม่ บอกท่านรู้ดีอยู่แล้ว
ยังไม่ชัดอีกหรือ ด้าน “ชูศักดิ์” ด้อยค่าคำร้อง’ธีรยุทธ’ยุบ‘เพื่อไทย’ข้อมูลล้อคำร้องยุบ‘ก้าวไกล’บอก‘เกินจริงไปมาก’ลั่นจากเนื้อหาชัดพปชร.อยู่เบื้องหลัง ‘สมศักดิ์’เชื่อรัฐบาลไม่สะดุดซ้ำรอยรบ.เศรษฐา ชี้เป็นหน้าที่ฝ่ายกฎหมายชี้แจง6ประเด็นคำร้อง “สมคิด”ยัน”เพื่อไทย-วิปรัฐบาล”ไม่สะดุด หลังถูก”ธีรยุทธ”ยื่นศาลยับยั้ง พท.ล้มล้างการปกครอง ชี้ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ เชื่อมีการเมืองอยู่เบื้องหลังแน่นอน ลั่นเขามีแต่ฝ่ายค้านไม่มีฝ่ายแค้น เย้ย”ไพบูลย์”จั่วหัวเหมือนเกิดแผ่นดินไหว สุดท้ายไม่มีอะไร
เมื่อวันที่ 11ตุลาคม2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย (พท.) มีพฤติกรรมเป็นผู้ครอบครองครอบงำและสั่งการพรรคเพื่อไทย เพื่ออำนาจการบริหารราชการแผ่นดินและมีพฤติการณ์เซาะกร่อนบ่อนทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็น ว่า ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ร้องเรียนก็ดำเนินการไป ขณะที่ศาลก็พิจารณาและพิพากษาซึ่งมีเรื่องที่ตัดสินแล้วถูกและยกฟ้องไปก็เยอะ อย่าเพิ่งไปเข้าใจว่ามันจะเป็นอะไร รอให้ผลที่แท้จริงออกมาก่อนซึ่งกระบวนการยุติธรรมทำงานอยู่แล้ว แต่จะมีคนที่แสดงบทบาทหน้าที่เยอะฟ้องไปเรื่อยเปื่อยก็เยอะ แต่ถ้ากฎหมายเห็นว่ามันถูกต้องก็ว่ากันไป ไม่มีปัญหาอะไร ผิดก็คือผิดถูกก็คือถูกไม่มีทางไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้
พท.ไม่กังวล6ประเด็นร้องยุบพรรค
เมื่อถามว่า จะเป็นหัวเชื้อนำไปสู่การยุบพรรคพท.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่กังวลเลย 1000% เมื่อถามย้ำว่าได้อ่าน6ข้อร้องเรียนแล้วไม่มีเรื่องไหนที่กังวลเลยใช่ไหม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่หนักใจ ร้องตามกระบวนการก็ร้องไป หากศาลรับฟ้อง ก็เรียกพรรคเพื่อไทยไปชี้แจงก็เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ศาลยังไม่รับฟ้อง อย่าเพิ่งคิดไปเร็ว เห็นใจพรรคเพื่อไทยบ้าง
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึง กรณีข้อพิพาท พื้นที่ทับซ้อน เกาะกูด กับกัมพูชา ที่ถูกหยิบยกเป็นข้อร้องเรียนเรื่องของการครอบงำ โดยนายทักษิณ ชินวัตร ด้วยว่า เรื่องนี้ได้ยินมาเสมอ ก็อยู่ที่ความเป็นจริง เรื่องของพื้นที่ทับซ้อน พูดกันมายาวนานและยังไม่มีจุดจบบทสรุป ขอให้เป็นเรื่องจริงขึ้นมา แล้วค่อยคุยกันเรื่องบทสรุป ที่ชัดเจนอีกทีจะดีกว่า เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมีแผนรองรับกรณีเปลี่ยนตัวนายกฯ หรือไม่ นายภูมิธรรม ร้องอุ่ย ท่านมาได้แค่เดือนเดียวจะให้เปลี่ยนตัวแล้ว โหดร้ายไปหรือไม่
ลั่นพรรคไม่มีแผนเปลี่ยนตัวนายกฯ
เมื่อถามว่า หลังจากที่นาย อนุทินชาญ วีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พา นายเนวิน ชิดชอบ เข้าพบ นายทักษิณ ทำให้มีกระแสข่าวว่าจะเปลี่ยนตัวนายกฯ อยากให้ยืนยันเรื่องนี้ได้หรือไม่ นานภูมิธรรม ระบุว่า ขออย่าคาดเดา เรามีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฎ การคาดเดาที่เลยเถิดเกินไปจะสร้างปัญหา นายกฯ ทำงานได้เพียงเดือนเดียว ซึ่งนายกฯและรัฐบาลก็ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีใครคิดที่จะไปยกเลิก เปลี่ยนแปลงตัวนายกฯ จะไปเอานายกฯ มาตรา7 หรือมาตรา5 มันไม่มีหรอก วันนี้อยากให้มาช่วยกันให้กำลังใจหน่วยราชการ รัฐบาลที่ทำงานแก้วิกฤตประเทศให้ได้ดีกว่า ส่วนนายอนุทินและนายเนวิน จะไปคุยอะไรกับนานทักษิณนั้น ก็ต้องไปถาม นายเนวิน กับ นานอนุทิน เพราะตนก็ไม่รู้ว่าเขากันจริงหรือือไม่ และคุยกันที่ไหน แม้นายอนุทิน จะออกมาบอกแบบนั้นแบบนี้ ตนก็ไม่รู้อะไร เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจนายกฯ หรือไม่ที่โดนดรามาหลายประเด็น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องให้กำลังใจ ท่านนายกฯ แข็งแรงและเข้มแข็งอยู่แล้ว
ทุกอย่างทำตามกฎหมาย-รอบคอบ
เมื่อถามว่า เห็นอย่างไรที่นายกฯ ขยับตัวก็เป็นดรามา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็นี่ไง สังคมมันก็เป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นพวกท่านอย่าไปให้ค่าคนที่อะไรเกินเลย อยากให้ใช้ดุลยพินิจและช่วยกันหน่อย ซึ่งสื่อจะช่วยได้มาก จะทำให้คนที่ทำงานจริงๆ ไม่หมดกำลังใจ เมื่อถามว่าใน 6ข้อที่ถูกร้องไม่มีข้อไหนที่ล่อแหลมจนทำให้พรรคเพื่อไทยต้องหานายกฯสำรองใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี เพราะเราทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนบางครั้งก็ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เช่น เรื่องไปทานข้าวกับคุณทักษิณก็เป็นเรื่องของคนที่ไปคุยกัน คุณเนวิน ไปกินข้าวกับ คุณทักษิณ คุณเนวินก็ต้องตอบไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยอะไรทั้งสิ้น เมื่อถามย้ำว่า นายทักษิณ ครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม หัวเราะใส่ พร้อมระบุว่า “ผมไม่ต้องตอบเลย เชื่อว่าท่านรู้ดีอยู่แล้ว” ก่อนจะเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์
‘ชูศักดิ์’ซัดคำร้องล้มล้างไกลเกินเหตุ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้สั่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย เลิกกระทำการล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบัน ว่า ประเด็นการยื่นคำร้องตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ เป็นคำที่บัญญัติขึ้นเทียบความผิดประเภทนี้เท่ากับกบฎ เป็นการร้องขอเพื่อให้เลิกกระทำ หากดูจากคำร้อง 6 ข้อที่ร้องมา ตนมองว่าไกลกว่าเหตุ ที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีสองคำซ้อนกันอยู่ คือ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย และบวกด้วยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งในคำร้องมีความพยายามบรรยายให้เข้าเกณฑ์กับคำวินิจฉัยของพรรคก้าวไกล ว่าเป็นการกัดเซาะบ่อนทำลาย ซึ่งมันไกลกว่าเหตุมาก พร้อมกับมองว่ามันเป็นคนละเรื่องคนละเรื่องกัน
ย้ำ’ทักษิณ’ชัดเจนไม่แตะหมวด1และ2
นายชูศักดิ์ ยกตัวอย่างว่า อย่างการที่นายทักษิณ พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ บอกว่าเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ซึ่งเป็นการบรรยายเกินไป พร้อมกับย้ำว่า เรื่องของสถาบัน ทั้งนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เราคิดว่าเรายืนยันมาตลอด โดยเฉพาะนายทักษิณ ที่มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างการแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 นายทักษิณอยู่ต่างประเทศ ก็ได้แนะนำมาผ่านคณะทำงานว่าหากจะแก้หมวด 1 หมวด 2 ห้ามแตะ ตรงนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด และเมื่อถึงรัฐบาลนี้และรัฐบาลที่แล้ว ก็มีความชัดเจนว่าไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 จึงชัดเจนว่าเรายึดมั่นอยู่ในจุดใด และพรรคเพื่อไทยไม่มีเรื่องจะไปเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย คำร้องที่เขียนว่า ร่วมมือกับฝ่ายค้านในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนจึงอยากจะตั้งคำถามว่าในการร่วมมือกันในการทำกฎหมายผิดอะไร อย่างการแก้จริยธรรมให้มีความชัดเจนขึ้นไม่ใช่การยกเลิก แต่เป็นการตีความให้ความชัดเจนขึ้น และเป็นผลดีกับประชาธิปไตย และเห็นว่าเป็นการเอื้อให้กับอดีตนายกฯ ทักษิณ ตรงไหน เมื่อถามต่อว่า พรรคเพื่อไทยไม่กังวลต่อคำร้องดังกล่าวใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า โดยรวมตนคิดว่าไม่น่าวิตกกังวลอะไร เพราะยึดมั่นมาแบบนี้ตลอด ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่เคยห่างไปจากนี้
ถ้าศาลรับคำร้องพรรคพร้อมชี้แจง
เมื่อถามต่อว่า จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาชี้แจงหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องรอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ หากศาลรับคำร้องก็คงจะเรียกไปชี้แจง ตนก็ยินดี เพราะมีคณะทำงานชี้แจงอยู่แล้วเนื่องจากเกี่ยวข้องมาถึงพรรค โดยหัวหน้าคณะทำงานก็คงหนีไม่พ้นตน พร้อมกับกล่าวยืนยันว่า เราไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรและเรื่องครอบงำตัวอย่างชัดเจนที่สุด ขณะเดียวกัน นายชูศักดิ์ ยังได้ยกตัวอย่างเรื่องการครอบงำ ว่ามีตัวอย่างชัดเจน เมื่อวันที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในคำร้องบอกว่า มีการไปประชุมกันท้ายที่สุดบอกว่า จะเอาคนนี้ แต่ในวันประชุมพรรคกลับเอาอีกคนหนึ่ง คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็แสดงให้เห็นว่า เราเป็นตัวของตัวเอง มีอำนาจ มีวิจารณญาณในแง่การตัดสินใจ เราเป็นพรรคการเมือง มีคณะกรรมการบริหาร ส่วนการที่จะให้คำปรึกษาตนมองว่าเป็นธรรมชาติของสังคมจำเป็นต้องรับฟัง หากเป็นเรื่องดีก็นำมาใช้
คำร้องชัดพปชร.ชักใยอยู่เบื้องหลัง
เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าการยื่นคำร้องดังกล่าวมีนัยอะไรหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาระบุว่าเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากคิดไปไกล ตอนนี้ต้องคิดเพียงว่าหากศาลรัฐธรรมนูญรับก็ชี้แจงไป เมื่อถามต่อว่า คิดว่ามีเบื้องหลังหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องหลังอยู่ที่ความขัดแย้ง เพราะข้อหนึ่งในคำร้องระบุว่า นายทักษิณ อยู่เบื้องหลังเอาพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล มันก็เป็นการเมือง มีเบื้องหลังอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า แสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองที่อยู่ในคำร้องเป็นผู้อยู่หรือเบื้องหลังใช่ นายชูศักดิ์ ย้อนถามกลับว่า ให้ดูในคำร้อง หากดูจากคำร้องก็จะเห็น เขาก็บอกอยู่ในคำร้อง
‘สุริยะ’ซัดเลอะเทอะไม่ซ้ำรอยก.ก.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้สั่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและพรรคเพื่อไทย เลิกใช้สิทธิและเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า สิ่งที่ นายธียุทธ ยื่นคิดว่าพรรคพท.ตอบได้ทุกประเด็น ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า มั่นใจจะไม่มีปัญหาเหมือนพรรคก้าวไกลถูกยุบใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า “มั่นใจ ไม่มีปัญหา เพราะคนละกรณีกัน” เมื่อถามว่า 6ประเด็นที่ นายธีรยุทธ ยื่น นักกฎหมายมองว่า เหมือนกับที่เคยยื่นยุบก้าวไกล นายสุริยะ กล่าวว่า “ผมได้อ่านคร่าวๆแล้ว คิดว่าสิ่งที่ยื่นมานั้น เลอะเทอะมาก”
เมื่อถามว่า ในทางการเมืองมองเรื่องนี้มีนัยอะไรหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องที่ยื่นเป็นเรื่องเก่า และพยายามทำให้เป็นประเด็นการเมือง โดยคาดหวังว่าเมื่อเปิดออกมาแล้วคนจะตกใจ แต่ทุกคนคงทราบดีว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องเก่า การที่บอกว่า นายทักษิณ เข้ามาก้าวก่ายนั้น ความจริง นายทักษิณ ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวเลย บางเรื่องก็เกิดมาเป็นสิบปีแล้ว ยังหยิบขึ้นมา ดังนั้นจึงไม่กังวล เมื่อถามว่า มองเป็นความแค้นของบางพรรคการเมืองหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนไม่ขอลงรายละเอียดอย่างนั้น ไม่ขอพูดถึงแล้ว เมื่อถามว่า มีโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะออกมาแจกแจงคำร้องของนายธีรยุทธ เป็นรายข้อหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ไม่มีโอกาส เพราะที่พูดมาก็ไม่มีประเด็น และคงจะมีไม่มีการแก้ต่างหลายข้อ รวมถึงรัฐบาลจะไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ยืนยันไม่มีปัญหาอะไร
‘สมศักดิ์’เชื่อไม่สะดุดซ้ำรอย’เศรษฐา’
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมืองในขณะนี้ โดยเฉพาะกรณี นายธีรยุทธ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ผู้ร้องในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดวินิจฉัยวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทย (พท.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ใน 6 ประเด็นว่า ขอให้สัมภาษณ์เรื่องอื่น ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเหตุผลอะไรที่ไม่ให้สัมภาษณ์การเมืองในตอนนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็น รมว.สาธารณสุข ต้องดูเรื่องคนป่วย เมื่อถามว่า มีการมองว่า การยื่นดังกล่าว อาจมีผลกระทบต่อรัฐบาลให้สะดุดซ้ำรอยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯนายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ ตรงนี้ฝ่ายกฎหมายมีหน้าที่ตอบคำถามและชี้แจง ซึ่งเป็นผลของกฎหมายและระเบียบกฎเกณฑ์ของประเทศก็ว่ากันไป
‘สมคิด’เชื่อมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้สั่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย (พท.) เลิกกระทำการล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบัน ว่า คำร้องหากเปรียบเหมือนเพลงลูกทุ่ง ก็เหมือนกับร้อยเนื้อทำนองเดียวกันออกชะชะช่า ไม่ว่าใครร้องก็จะเริ่มต้นด้วยมาตรา 49 เรื่องสิทธิเสรีภาพ สุดท้ายจบว่า เมื่อร้องอัยการครบ 15วัน มีสิทธิร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนศาลจะรับหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตนได้พูดคุยกับ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีคณะทำงานตามกฎหมายอยู่แล้ว “ข่าวที่ออกไปจาก นายไพบูลย์ เลขาธิการพรรค พปชร.ทำให้ดูเหมือนเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย แต่พอข่าวออกมาก็ดูปกติ ไม่มีอะไร อย่างที่บอกการเมืองจะเล่นเอามันหรือสะใจก็ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ทำเป็น แต่เราไม่ทำ เพราะเรามีหน้าที่มาทำงานให้ประชาชน คำร้องลักษณะนี้ไม่ทำให้การทำงานของพรรพท.สะดุด จากที่คุยกับผู้ใหญ่ในพรรค ก็ไม่มีปัญหา” เมื่อถามว่า มองว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า มีแน่นอน ไม่ต้องมองเลย เพราะเห็นได้ชัด คนที่ร้องเป็นใคร อยู่กับใครมา ก็อยู่กับพระพุทธเจ้ากันมาทั้งนั้น เมื่อมองว่า เป็นความแค้นส่วนตัวของบางพรรคหรือไม่ นายสมคิดตอบว่าไม่แน่ใจว่าแค้นหรือไม่ แต่คงแค้น จะแค้นทำไม เขามีแต่ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้นไม่มี
ไม่มีสะดุด-รบ.เดินหน้าทำงานต่อไป
เมื่อถามต่อว่า เป็นเพราะไปเขี่ยเขาออกจากรัฐบาลหรือไม่ นายสมคิด บอกว่า ไม่ได้เขี่ย แต่เขาไม่มา ใครไปเขี่ยเขาออก เขาไม่มาเอง เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะทำให้รัฐบาลทำงานยากขึ้นหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ยากอยู่แล้วเป็นปกติ ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะทุกพรรคยังช่วยกันทำงานดีอยู่ ยืนยันว่า ไม่สะดุด สำหรับในพรรค ตนคุยกับผู้ใหญ่คนหนึ่งก็บอกว่าไม่มีปัญหา ส่วนในวิปรัฐบาลก็นัดกันปกติ งในเช้าอังคารหน้าจะนัดคุยกันอีกครั้ง จะคุยเรื่องนี้ด้วยทุกอย่างไปด้วยกันไม่มีปัญหา เรื่องร้องก็ร้องไป จะพิจารณาอย่างไรก็ว่าไปตามกระบวนการ ไม่มีอะไร
‘เด็จพี่’สอบเส้นทางเงินรับจ๊อบร้องศาล
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวินิจฉัยสั่งการให้ นายทักษิณและพรรคเพท.จะซ้ำรอยคดี นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯหรือไม่ ว่า คนละบริบทและข้อกล่าวหาทั้ง 6ประเด็น ไกลตัวเกินไป สุดท้ายก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ระวังจะเป็นการให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว เพราะ นายธีรยุทธ ให้สัมภาษณ์ว่า มีการปรึกษา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค พปชร.ประกอบกับ นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ว่า จะมีแผ่นดินไหวระดับ 10 ริกเตอร์ที่พรรค พท.และรัฐบาลต้องมีอันเป็นไป แต่ดูแล้วเหมือนสายลมพัดผ่าน เป็นแค่ลมปากคนบางคน หลังจากนี้เตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงิน นายธีรยุทธ มีการรับเงิน หรือใบสั่งจากใคร ยืนยีนมีข้อมูลการรับผลประโยชน์ของ นายธีรยุทธ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และไม่มีเกมการเมือง เป็นเรื่องประโยชน์สาธารณะล้วน ๆ
‘วิษณุ’ปัดช่วย’ทักษิณ’อยู่รพ.ตำรวจ
ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (เศรษฐา ทวีสิน) กล่าวถึงกรณีมีข่าวระบุว่า บุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่ช่วย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯอยู่ รพ.ตำรวจ โดยไม่ต้องเข้าเรือนจำคือ นายวิษณุ ว่า ตนยังไม่เห็นข้อความที่มีการโพสต์กัน เรื่องที่ระบุนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนจะมีหลักฐานอย่างไร หรือมีเหตุผลอะไร ก็เรื่องของเขา ตนไม่อยากแก้ข่าวใดๆไม่ขอพูด แต่สามารถปฏิเสธได้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมได้เล่าถึงเหตุการณ์ขณะนั้นว่า ตอนนั้นตนอยู่บ้าน และมีเจ้าที่จากกรมราชทัณฑ์โทรศัพท์มาแจ้งว่า นายทักษิณ ป่วยหนัก ต้องนำส่งรพ.ตำรวจ ตอนที่เจ้าหน้าที่โทรมา นายทักษิณ ก็ไปอยู่ที่รพ.ตำรวจแล้วและเป็นเวลาที่ดึกแล้ว ประมาณเที่ยงคืน โดยตนได้แจ้งกลับว่า ก็แล้วแต่ ขอให้ดูตามอาการก็แล้วกันและตอนนั้นตนก็ยังคิดว่า นายทักษิณ น่าจะอยู่รักษาอาการประมาณ 2-3 วัน เพราะตนไม่รู้ว่า นายทักษิณ ป่วยหนักขนาดไหน จากนั้นตนก็พ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี