'พีมูฟ'ปักหลักหน้าทำเนียบฯ ทำพิธีกรรม เรียก 'นายกฯอิ๊งค์' มาแก้ปัญหา พร้อมเขย่าประตู-ร่อนจดหมายน้อย จี้'รมต.'ลงมาฟัง เหตุส่ง 3 ข้อเรียกร้องไปแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2567 ที่บริเวณประตู 3 และ ประตู 4 หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) ปักหลักชุมนุมต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. เพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้า ภายหลังส่งหนังสือข้อเรียกร้องไปเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า มีการทำพิธีกรรมหลายรูปแบบของทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ และกลุ่มชาติพันธุ์ อยู่บริเวณแถบภาคตะวันตก เสมือนเป็นการเรียกเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีลงมารับฟังปัญหา
ต่อมา ตัวแทนกลุ่ม กล่าวช่วงหนึ่ง วันนี้เราตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เพื่อมาเปิดประตูให้ เนื่องจากมีพี่น้องเราบางส่วนยังไม่ได้เข้ามา ตอนนี้รัฐบาลก็เริ่มเข้ามาทำงานแล้ว ถึงเวลาแล้ว 9 วันเข้าไปแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าในการลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการใดๆ สุภาษิตจีนบอกว่า ชนะใจราษฎรจะได้เป็นฮ่องเต้ ชนะใจฮ่องเต้จะได้เป็นเจ้าแคว้น แต่ถ้าชนะใจเจ้าแคว้นจะได้เป็นอำมาตย์ วันนี้ราษฎรปรากฏตัวให้รัฐบาลได้เห็น จะได้รู้กันว่าสมัยหน้าเพื่อไทยจะได้เป็นฮ่องเต้อีกหรือไม่
ตัวแทนกลุ่ม กล่าวอีกว่า ผลงานรัฐบาลในสมัยนี้ ไม่ใช่เพิ่งมามี รัฐบาลชุดที่แล้ว ก็นำโดยพรรคเพื่อไทย แต่ทำไมรัฐบาลที่ยังดำรงตำแหน่งโดยพรรคเพื่อไทย ถึงไม่หันกลับมามองพวกเรา ขนาด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ยังคอยมาประสานงานดูแล คนที่ทำงานเพื่อประชาชน วันนี้หายไปไหน แต่คนที่ไม่มีใจ ไม่มีจิตสำนึก ทำไมถึงได้มาดำรงตำแหน่งแล้วไม่ทำงาน
"วันนี้เรามาติดตาม ตรวจราชการ เราจะใช้ลมหายใจเฮือกเดียว เฮือกสุดท้ายที่มี ในวันประชุม ครม. ขอแค่ให้พี่น้องเราได้มีข้อเสนอกลับบ้านไปฝากญาติพี่น้องที่อยู่ที่บ้าน มันคือความหวังเดียวที่จะเป็นกลไกในการแก้ปัญหาปัญหาของพวกเรา เราขอไม่เยอะไปใช่หรือไม่ แต่รัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ นำโดยนายกฯ แพทองธาร ไม่มีอำนาจ หรือไม่ใช้อำนาจที่ถูกที่ควรในการบริหาร ในการแก้ไขปัญหา ถ้ารัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ เราก็ต้องช่วยกันเปลี่ยน เราเปลี่ยนประเทศไม่ได้ เราเปลี่ยนที่ตัวเราเอง เราประสานงานมาตลอด 9 วัน ที่เราปักหลักชุมนุม แต่รัฐบาลไม่มีใครมาเลย หมาสักตัวก็ไม่มี คุณอุ๊งค์อิ๊งค์บอกว่าเกิดปีขาล นิสัยดุร้ายเหมือนเสือ เสือจะกลัวอะไรกับเหยื่ออย่างพวกเรา จะกลัวทำไม แค่นั่งลงชื่อในห้องแอร์เย็นๆ ทำไมถึงทำไม่ได้
วันนี้เราพยายามสื่อสารไปหาน้องอิ๊งค์ 9 วันนานแล้ว ถามว่านายกฯ แพรทองธาร หายไปไหน 9 วัน ไม่เห็นหัว ส่งตัวแทนก็ไม่ส่ง เราส่งหนังสือไปตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. จนมาปักหลักตั้งแค่วันที่ 7 ต.ค. มันข้ามเดือนมาแล้วน้องอิ๊งค์ ขนาดพระภิกษุสงฆ์ได้ยินเสียงเรา ยังทนเห็นความยากลำบากของเราไม่ได้ นำร่มมาให้ ต้องขอบคุณพระภิกษุสงฆ์ที่เห็นความลำบากทุกข์ยากของพี่น้อง ขนาดนายกฯ ยังไม่เห็น แต่คนห่มผ้าเหลืองเห็น อันนี้หมายถึงอะไร"
จากนั้น ตัวแทนจะให้ผู้ชุมนุมเข้าแถวบริเวณหน้าประตู ก่อนจะให้สัญญาณเขย่าประตูเบาๆ และส่งจดหมาย ที่ได้พับเป็นจรวด ร่อนเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล พร้อมกล่าวว่า วันนี้เราขอสื่อสารไปอีกครั้ง เราจะพุ่งจรวดอันน้อยๆ ไปบอกว่าเราต้องการอะไร นายกฯ อุ๊งค์อิ๊งค์จะได้เข้าใจว่า การส่งจดหมายของเรา 1 ครั้ง 2 ครั้ง ไม่มีความหมาย เสียงของคนยากไม่เคยไปถึง นี่คือเสียงคนคนยาก เพราะว่าเราเป็นทุกข์ เราเลยมาเรียกร้องให้ท่านแก้ปัญหา แต่เสียงเรามีเท่านี้
ดังนั้น สิ่งที่ท่านต้องทำ คือส่งตัวแทน 4-5 คนที่ได้กล่าวไป ลงมาพูดกับพี่น้อง เพื่อรับรู้ปัญหา สิ่งที่เราต้องการ เราไม่ได้บอกว่า เราไม่เอาท่าน เราต้องการให้ท่านเป็นประธานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของเรา เสียงที่ท่านได้ยินตอนนี้ คือเสียงที่เราเรียกร้องให้ท่านลงมาแก้ไขปัญหา อย่าเพิกเฉย เพราะความเงียบคือความอยุติธรรม
ทั้งนี้ เนื้อหาในจดหมาย ระบุว่า ถึง นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ปัจจุบันนับเป็นวันที่ 9 แล้ว ที่พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมได้ปักหลักชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรกในรัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯ แพทองธาร เพื่อติดตามข้อเรียกร้องของเราที่ได้ยื่นถึงรัฐบาลไปแล้วก่อนหน้านั้นอย่างน้อย 4 ครั้ง ซึ่งแม้จะได้รับการตอบรับจากรัฐบาลบ้าง แต่เรายืนยันว่าในทางปฏิบัติล่าช้าเกินไป จนเราต้องตั้งคำถามว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยจริงใจกับการแก้ไขปัญหาของประชาชนหรือไม่
ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม สามารถดำเนินการต่อเนื่องจนบรรลุเป้าหมาย ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม จึงขอให้ท่านดำเนินการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.นายกรัฐมนตรีต้องลงนามในร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ซึ่งมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมได้เสนอ รวมถึงข้อเสนออื่นๆ ตามรายละเอียดที่ได้ยื่นหนังสือเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567
โดยกรรมการฯ ต้องมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองประธานคนที่ 1 รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคือนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรองประธานคนที่ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 7 กระทรวง ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 5 กระทรวง และตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมเป็นกรรมการ
2.เมื่อนายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้ง ตามข้อ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้มีการเรียกประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ครั้งที่ 1/2567 โดยเร็ว และให้นายกรัฐมนตรีนำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ และผลการประชุมดังกล่าว เสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบ เพื่อเป็นหลักประกันว่า การแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่อง ไม่สะดุดหยุดลง หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเกิดขึ้นอีกในอนาคต
3.ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี เร่งรัดสั่งการมอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคือนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งคือนายชูศักดิ์ ศิรินิล และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งคือนายสมคิด เชื้อคง เป็นตัวแทนรัฐบาลมาเจรจาเกี่ยวกับแนวทาง ตามข้อ 1 และข้อ 2 เพื่อหาข้อยุติให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล โดยที่ไม่ได้แจ้งก่อน ทำให้รถไม่สามารถเข้า-ออกได้ รวมถึงรถขนเสบียงของกลุ่มผู้ชุมนุม ก็ไม่สามารถเข้ามาได้ ส่งผลให้ในช่วงหนึ่งเกิดการชุลมุนกันผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี