‘ครม.’เคาะชุดใหญ่

แพ็กเกจช่วยน้ำท่วม

ลดภาษี-เงินกู้ดอกต่ำ

เว้นเก็บค่าน้ำ/ไฟฟ้า

ครม.ไฟเขียวมาตรการช่วยเหลือ “ประชาชน-ผู้ประกอบการ”ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งลดภาษี-ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ด้านศปช.เผยกรมชลฯบริหารจัดการน้ำได้ดี ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาลดระบายน้ำต่อเนื่องล่าสุดเหลือ 1,550 ลบ.ม. ทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาท้ายเขื่อนลดลงเกือบ 2 เมตร แนวโน้มลดต่อเนื่อง ถก 9 จว.เจ้าพระยาช่วยพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำ คาดสิ้นตค.ทุกจว.กลับสู่ภาวะปกติ ยกเว้นอยุธยาปกติเดือนพย. เตือนซ้ำ 9 จว.ใต้รับมือฝนหนักมาก เสี่ยงน้ำป่าดินถล่ม

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุม ครม. มีการพูดถึงการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยเพิ่มเติม จากครัวเรือนละ 9,000 บาท และค่าช่วยเหลือการล้างดินโคลนครัวเรือนละ 10,000บาท ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ รวมถึงการงดเว้นการเก็บค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้า โดยกระทรวงการคลัง จะนำเสนอมาตรการด้านภาษี ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ การลดค่าเช่าที่ราชพัสดุ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อฟื้นฟูบ้านและที่พักอาศัย ทั้งจากธนาคารรัฐและธนาคารเอกชน โดยกระทรวงการคลังจะชี้แจงรายละเอียดว่า ประเภทไหนเข้าข่าย ใช้งบประมาณเท่าไหร่

ครม.คลอดแพคเกจช่วยน้ำท่วม50จว.

ต่อมา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า นายกฯสั่งการในที่ประชุม โดยเฉพาะมาตรการเยียวยาให้ผู้ประสบอุทกภัยมากกว่า 50 จังหวัด หลังรัฐบาลฟื้นฟูบรรเทาปัญหาแล้ว ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวเรือนละ 9,000 บาทไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลสั่งทุกหน่วยเพิ่มเติมการฟื้นฟูชีวิต รายได้ และเศรษฐกิจระยะต่อไป โดยกระทรวงการคลังเร่งรัดมาตรการด้านการเงินผ่านธนาคารของรัฐ เพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยกลุ่มต่างๆในการซ่อมแซมบ้านเรือน กิจการ หรือช่วยล้างดินโคลนครัวเรือนละ 10,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ ยกเว้นการเก็บค่าน้ำประปาเพื่อทำความสะอาดบ้านเรือน ค่าไฟฟ้า คาดสัปดาห์หน้าจะลงรายละเอียดได้ว่ามีกี่ครัวเรือน

ยกเว้นภาษี-ลดค่าเช่าพื้นที่กรมธนารักษ์

นอกจากนี้ ยังมอบให้กระทรวงการคลังดูมาตรการช่วยเหลือภาษีลดค่าใช้จ่ายตลอดจนสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูบ้านพักอาศัย และกิจการต่างๆ มีรายละเอียดคือ 1.ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนเงินชดเชยที่ได้รับจากรัฐบาล 2.ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้บริษัท และห้างหุ้นส่วนจำกัดสำหรับค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับการช่วยเหลือจากบริษัทประกัน เพื่อชดใช้ความเสียหายจากอุทกภัย ซึ่งเงินที่ได้จากรัฐบาล และเงินชดเชยไม่ต้องนับไปเป็นรายได้เพื่อคำนวณภาษี 3.ยกเว้นอากรศุลกากรให้ผู้บริจาคให้ผู้ประสบภัย 4.พื้นที่ที่เช่ากับกรมธนารักษ์ และที่ราชพัสดุ จะลดค่าเช่าให้ผู้ประสบอุทกภัยหรือการเช่าเพื่ออยู่อาศัย หากเสียหายบางส่วนจะยกเว้น 1 ปี หากเสียหายทั้งหลังจะยกเว้นค่าเช่าให้ 2 ปี ส่วนการเช่าเพื่อการเกษตรยกเว้นค่าเช่าให้ 1 ปี การเช่าเพื่อประโยชน์อย่างอื่นหากไม่สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติเกิน 3 วันจะพิจารณาลดค่าเช่าเป็นรายเดือน

คลอดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังยังจัดทำโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลนตามวงเงินที่ได้อนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ 50,000 ล้านบาท และผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 3.5 ต่อปี ในระยะเวลา 2 ปี โดยแต่ละรายจะมีวงเงินประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดสอบถามได้จากธนาคารที่ประชาชนใช้บริการอยู่ทั้งธนาคารรัฐ ธนาคารพาณิชย์ 16 แห่งที่ร่วมโครงการ นอกจากนี้ ยังมีโครงการของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บยส.) ที่เป็นวงเงินค้ำประกันสินเชื่อประมาณ 1,000 ล้านบาท วงเงินต่อราย 10,000-2,000,000 บาท ค่าธรรมเนียม 1.25% ต่อปี ระยะเวลาค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี โดยธนาคารออมสินยังช่วยเหลือลูกหนี้เดิม โดยจะพักชำระหนี้เงินต้นโดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนผู้ที่ถือบัตรเครดิตจะปรับลดอัตราชำระขั้นต่ำเป็น 3% ใน 3 รอบบัญชี ซึ่งที่ผ่านมาต้องชำระมากกว่า 3% หรือชำระเต็ม

ธกส.ขยายเวลาชำระหนี้20ปี

นายจิรายุกล่าวอีกว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ลูกหนี้ที่มีสถานะปกติหรือค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ได้สูงสุดถึง 20 ปี มีระยะปลอดเงินต้นไม่เกิน 3 ปี และยกเว้นดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวนด้วย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับโครงการเสริมสภาพคล่อง และการอุปโภคบริโภคที่จำเป็นวงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี โดย 6 เดือนแรกกระทรวงการคลังจะไม่เก็บอัตราดอกเบี้ย แต่หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ย MRR หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี ส่วนมาตรการสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตรายการลงทุนซ่อมแซมบ้าน ซ่อมแซมอุปกรณ์การเกษตรวงเงินต่อรายไม่เกิน 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย MRR 2% ต่อปี ระยะเวลากู้ไม่เกิน 15 ปี ทั้งนี้ มาตรการที่อยู่ระหว่างพิจารณาต้องนำมาเสนอที่ประชุม ครม.คือ ออกระเบียบและกฎหมายต่างๆ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี โดยจะกำหนดให้รายจ่ายค่าอุปกรณ์ตกแต่งบ้านหรือการก่อสร้าง ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ เพื่อแบ่งเบาภาระให้ประชาชน เป็นอีกหนึ่งมาตรการของกระทรวงการคลัง

ลดระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา

นายจิรายุ ยังกล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบทำให้กรมชลประทานสามารถปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่อเนื่อง โดยวันนี้ (15 ตุลาคม) จะมีการปรับลดการระบายน้ำ 2 ครั้ง รวม 100 ลบ.ม./วินาที ทำให้การระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลดลงเหลือ 1,550 ลบ.ม./วินาที จากที่เคยระบายน้ำสูงสุดที่ 2,200 ลบ ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนลดลงจากระดับสูงสุดที่ 15.10 ม.รทก. เหลือ 13.18 ม.รทก. หรือลดลงมาแล้วเกือบ 2 เมตร และจะมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

เร่งช่วยที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศปช.ได้เชิญตัวแทน 9 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพฯ มาร่วมหารือสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ พร้อมรับฟังแนวทางช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำ ซึ่งในภาพรวมทุกจังหวัดระบุตรงกันว่า การบริหารจัดการน้ำปีนี้ทำได้ดี ทำให้พื้นที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ทุกพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม จะเข้าสู่ภาวะปกติ ยกเว้นจ.พระนครศรีอยุธยา ที่คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติเดือนพฤศจิกายน

“สทนช. แจ้งที่ประชุมว่าสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง คาดว่าจะปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เหลือ 700 ลบ.ม./วินาทีได้ ภายในวันที่ 27 ต.ค.67 ซึ่งจะทำให้พื้นที่ที่ต่ำที่สุดของลุ่มเจ้าพระยา เช่น คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ตลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบแรกๆ จะคลี่คลายในไม่ช้า” นายจิรายุ กล่าว

เตือน9จว.ใต้เสี่ยงฝนหนัก-ดินถล่ม

และว่า สำหรับฝนที่ตกต่อเนื่องในภาคใต้ ทำให้มีพื้นที่เสี่ยงดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 15-16 ต.ค. ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จ.ภูเก็ต (เมืองภูเก็ต กะทู้ ถลาง) , จ.กระบี่ (เมืองกระบี่ เขาพนม เกาะลันตา) , จ.ตรัง (ย่านตาขาว ปะเหลียน ห้วยยอด นาโยง) , จ.สตูล (ควนโดน ควนกาหลง ละงู ทุ่งหว้า มะนัง) , จ.พัทลุง (กงหรา ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ เขาชัยสน ตะโหมด ควนขนุน) , จ.สงขลา (หาดใหญ่ สะบ้าย้อย จะนะ นาทวี รัตภูมิ สะเดา) , จ.ปัตตานี (โคกโพธิ์ หนองจิก ปานาเระ มายอ ทุ่งยางแดง สายบุรี ยะรัง) , จ.นราธิวาส (บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร แว้ง สุคิริน สุไหงปาดี จะแนะ เจาะไอร้อง) และ จ.ยะลา (เบตง ธารโต กาบัง บันนังสตา ยะหา รามัน กรงปินัง) ทั้งนี้ พื้นที่เสี่ยงทั้ง 9 จังหวัด กรมทรัพยากรธรณี ประสานอาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงทุกช่องทาง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ

5ชุมชนแม่สายโคลน-ขยะตกค้างอื้อ

ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือฟื้นฟูที่ จ.เชียงราย นายจิรายุเผยว่า การฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน ในอ.เมือง จ.เชียงราย มีเป้าหมาย 1,367 ครัวเรือน ดำเนินการแล้ว 1,339 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 28 ครัวเรือน คิดเป็น 98% ส่วนการช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน ในอ.แม่สาย จ.เชียงราย เฟส 2 มีเป้าหมาย 819ครัวเรือน ดำเนินการแล้ว 745 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 74 ครัวเรือน คิดเป็น 91% สำหรับการจัดการขยะมูลฝอยที่เกิดจากอุทกภัย ในจ.เชียงราย พบว่าในอ.เมือง และเทศบาลนครเชียงราย จ.เชียงรายเก็บขยะไปแล้ว 69,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 98.75 เหลือปริมาณขยะตกค้าง 1,000 ตัน คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้ การจัดการขยะมูลฝอย ที่ อ.แม่สายเก็บขยะไปแล้ว 5,400 ตัน คิดเป็นร้อยละ90 คงเหลือปริมาณขยะตกค้าง 600 ตัน คงเหลือชุมชนที่ยังไม่สามารถนำดินโคลนออกได้มีขยะตกค้างอีก 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนเกาะทราย ชุมชนสายลมจอย ชุมชนไม้ลุงขน และชุมชนถ้ำผาจม ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นตามแผนที่กำหนดไว้ตามเดิมวันที่ 21 ตุลาคม

อากาศแปรปรวนฝนหนัก-ตอนเช้าเย็น

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นตอนเช้า สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง