'นายกฯ'คิกออฟ'โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ'ต่อยอดเงินหมื่น หลังผลตอบรับดี ชี้ช่วย'ลดต้นทุนผู้ประกอบการรายเล็ก-เพิ่มพื้นที่ค้าขาย-ลดค่าครองชีพ' คาดกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.1 แสนล้าน ก่อนวิดีโอคอลทักทายตัวแทน 5 จว. ขอให้ 'รวยๆๆ '
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2567 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานแถลงข่าว Kick Off เปิดตัว “โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์
โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน ถือว่าเป็นกำลังใจที่ดีมากของรัฐบาล วันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเสมอ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ววันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ นั่นคือการเติมเงินลงไปในระบบครั้งใหญ่ถึง 145,552 ล้านบาท คือเงิน 10,000 บาท เป็นเงินสดแจกถึงมือพี่น้องประชาชน และเราได้เก็บในเรื่องผลตอบรับต่างๆ ที่มาจากประชาชนกลุ่มที่ได้รับเงิน 10,000 บาทกลุ่มแรก ซึ่งทุกคนได้รับประโยชน์มาก บางบ้านได้มากกว่า 10,000 เพราะมีหลายคน บางบ้านได้ 2-3 หมื่นบาท หรือมารวมกันเพื่อทำธุรกิจเล็กๆ ก็สามารถเกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมาได้สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ นั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลรู้สึกภาคภูมิใจ และคิดต่อว่าเราจะกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบนโยบายต่างๆ ซัพพอร์ตโครงการต่างๆ ให้กับพี่น้องประชาชน และวันนี้ที่เราได้ทราบว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่ต่อยอดจากการที่แจกเงินสดไปแล้วเข้าไปในระบบ
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้การฟื้นฟูเศรษฐกิจจะรับไม้ต่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยอย่างต่อเนื่อง และช่วยส่งเสริมให้โครงการเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่ากับภาษี โดยโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจในรอบนี้จะเน้นผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งมีถึง 95% ของผู้ประกอบการทั้งหมด ถือว่าเป็นส่วนใหญ่มาก และเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทย วันนี้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจเราจะทำเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มการขยายโอกาส โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 5 เดือน ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน แล้วจะจบลงเดือนมกราคมนี้ ซึ่งโครงการนี้มี 3 ส่วนที่สำคัญ โดยส่วนแรกลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งการลดต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญมาก จะสามารถทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนต่ำลง และสามารถหายใจได้โล่งขึ้น เพราะต้นทุนน้อยลง มีโอกาสทำกำไรมากขึ้น จะมีการลดค่าเช่าร้านแผง และพื้นที่ของหน่วยราชการ และเอกชนเข้าร่วมด้วย เช่นในพื้นที่กรุงเทพฯ
ซึ่งต้องขอบคุณ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ให้ความร่วมมือลดค่าเช่าถึง 50% ในตลาด 12 ตลาดใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่กทม.รับผิดชอบอยู่ โดยมีพ่อค้าแม่ค้าประมาณ 11,000 ราย ที่ได้ลดค่าเช่าถึงสิ้นปีนี้ รวมถึงพื้นที่กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยราชการมีการยกเว้นค่าเช่าให้ผู้ประกอบการกว่า 3,000 ราย ค่าเช่าพื้นที่การขายถือเป็นต้นทุนสำคัญ
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากการลดค่าเช่าแล้วยังมีการลดราคาค่าส่งสินค้า ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างไปรษณีย์ไทยกับหน่วยงานราชการให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ หอการค้าไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้ลดค่าส่งสินค้าทั้งหมด ในส่วนที่ 2 การเพิ่มพื้นที่ขายให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก โดยสนับสนุนพื้นที่จากหน่วยงานของราชการและพื้นที่ของเอกชนให้ผู้ประกอบการรายเล็กได้มีช่องทางทำมาหากิน เพิ่มมากขึ้น และมีหลายหน่วยงานเข้ามาให้ความร่วมมือในส่วนนี้ เช่น กระทรวงกลาโหม ได้นำพื้นที่ค่ายทหารมาทำเป็นตลาดนัด รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ในการใช้ลานหน้าศาลากลางจังหวัด รวมถึงการจัดตลาดพาณิชย์กว่า 1,300 ครั้ง ในพื้นที่ทั่วประเทศไทย
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่ 3 คือการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนโดยการจับมือกับผู้ผลิตและผู้ค้าส่งรายใหญ่เพื่อลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และจัดงานมหกรรมลดราคาสินค้า โดยมีทั้งภาคเอกชน และผู้ผลิตรายใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ผู้ให้บริการในปั๊มน้ำมัน แพลตฟอร์มการขายออนไลน์รวม 130 ราย ซึ่งมีสาขาย่อยกว่าแสนสาขา ร่วมกันในการลดราคาสินค้าในโครงการนี้ และจากโครงการนี้รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากถึง 110,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นผลลัพธ์ของการที่ผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นของรัฐ เอกชน และนโยบายนี้รัฐอยากให้เกิดเป็นรูปธรรมจึงดึงความร่วมมือของเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ต้องขอบคุณภาคเอกชน ณ ที่นี้ด้วย รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานเรื่องนี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยให้กลับมาเดินหน้าอย่างเข้มแข็งมั่นคง โดยเราจะมีแผนไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อให้พี่น้องประชาชนค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา และสามารถสร้างสิ่งดีๆ ให้กับประเทศชาติต่อไปอย่างเข้มแข็ง ขอให้ทุกท่านได้ติดตามนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลจะเสนอต่อพี่น้องประชาชนในภายภาคหน้านี้ สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้สนับสนุนโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจนี้กับรัฐบาล และขอให้ความร่วมมือนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกๆ คน
จากนั้นนายกฯ ได้วิดีโอคอนเฟอเรนท์ พูดคุยกับพื้นที่ต่างๆ ที่มีการจัดงานพร้อมกับกรุงเทพฯ โดยเริ่มจาก จ.ขอนแก่น นายกฯ ได้ทักทายเป็นภาษาอีสานว่า “สวัสดีค่ะ” ขณะที่ทางจังหวัดได้มีการนำเสนอสินค้า และผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด เช่น ไก่ย่างเขาสวนกวาง ขณะที่ผู้ประกอบการได้ขอบคุณนายกฯ ที่จัดงานลักษณะนี้ขึ้น และขอให้นายกฯ ได้มาชิมไก่ย่างเขาสวนกวาง
โดยนายกฯ กล่าวว่า ไก่ย่างเขาสวนกวางรับประทานแล้วตั้งแต่เด็กๆ ระหว่างลงพื้นที่กับคุณพ่อ ทานในรถ ยิ่งรับประทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ ถือว่าสุดยอด พร้อมยกนิ้วโป้งให้
จากนั้นนายกฯ ได้พูดคุยกับตัวแทน จ.ลพบุรี ซึ่งได้เปิดค่ายทหารให้เป็นพื้นที่จัดงาน ซึ่งนายกฯ ได้ฝากให้ประชาสัมพันธ์งานนี้เพื่อให้ประชาชนรับรู้ได้มาร่วมกิจกรรมภายในงานอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ทักทายผู้ประกอบการโดยตรงในพื้นที่ จ.อุดรธานี ภูเก็ต เชียงราย ซึ่งผู้ประกอบการมั่นใจว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างแน่นอน และช่วงหนึ่งนายกฯ ได้ทักทายกับทุกจังหวัดที่มีการวิดีโอคอนเฟอเรนท์เข้ามาแต่ไม่ได้พูดคุยโดยตรง โดยระบุว่าขอให้กำลังใจกับทุกๆ คน และขอให้รวยๆๆ
ภายหลังงานแถลงข่าวนายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการจากผู้ประกอบการที่นำสินค้าเข้าร่วมโครงการมาออกบูธ ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี