วางตัว‘ชูศักดิ์’คุมทีมก.ม.แก้เกมนักร้อง
พท.ดินคดียุบพรรค
‘ประเสริฐ-บิ๊กทิน’ยันไม่กังวล
โดดป้อง‘แม้ว’ไม่ได้ครอบงำ
โวพร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหา
‘จตุพร’ชี้รบ.เข้าสู่ภาวะวิกฤต
แกนนำเพื่อไทย “ประเสริฐ-บิ๊กทิน” ไม่กังวล กกต.ตั้งกก.สอบรับคำร้อง ยุบเพื่อไทย-6 พรรคร่วมฯ ดัน “ชูศักดิ์” คุมทีมกฎหมายแก้เกมนักร้อง พร้อมป้อง “แม้ว”ไม่ได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย “จตุพร พรหมพันธุ์” ฟันธงรัฐบาลอาการหนักหลักฐานคำร้องชัด เชื่อปลายปีพรรคเพื่อไทยเข้าสู่จุดวิกฤต
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตั้งคณะกรรมการสอบสวน 6 คำร้องพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำการครอบงำ พรรคกังวลหรือไม่
โดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล เพราะตนดูรายละเอียดที่กล่าวหาแล้ว ไม่ได้ตรงกับข้อเท็จจริงอย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยมีทีมกฎหมายที่จะแก้ข้อกล่าวหาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้วโดยมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าทีม ดำเนินการ
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนจะแพ้คดีมาโดยตลอด นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองอย่างนั้น เพราะที่สำเร็จก็มีหลายเรื่อง ตนคิดว่าศาลและกระบวนการยุติธรรม จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังนั้นขอให้ดูหลักฐานเป็นหลัก ไม่อยากให้คิดว่า อะไรจะเกิดขึ้น
ทีมกม.พร้อมชี้แจงข้อกล่าวหา
ส่วนที่มีการโยงถึง 6 พรรคร่วมรัฐบาล ที่ร่วมวงรับประทานอาหารที่บ้านจันทร์ส่องหล้า อาจทำให้พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดถูกยุบไปด้วย นายประเสริฐ กล่าวว่า ตรงนี้สามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว พร้อมยอมรับว่ามีการพูดคุยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาลต่อประเด็นดังกล่าว และทีมกฎหมายพรรค เพื่อไทยมีการเตรียมชี้แจงไว้แล้ว
เมื่อถามว่าในวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ จะมีการพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า นักการเมืองเจอกันก็ไม่พ้นคุยเรื่องการเมือง ทานข้าวเสร็จ ก็มาคุยเรื่องการบริหารประเทศ และปัญหาของประชาชน ไม่อยากให้คิดว่ามาคุยเรื่องลับอะไร
เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยเรื่องร่างศึกษาการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคการเมืองมีทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก็คงจะพูดคุยกันได้ เมื่อถามย้ำว่าสุดท้ายพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างไรจะถอนร่างรายงานหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการหารือ ยืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่เป็นปมปัญหาของพรรคร่วมฯรัฐบาลยังแน่นแฟ้น รักกัน
เมื่อถามว่าสับสนหรือไม่เพราะตอนตั้งกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญศึกษาเรื่องนิรโทษกรรม เห็นพร้อมกัน แต่พอเสนอรายงาน พรรคร่วมฯกลับเป็นฝ่ายไม่รับเอง นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. หลายเรื่องที่เข้าไปในสภา ก็เคยมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน จึงไม่อยากให้มองเป็นเรื่องแปลกเพราะต่างฝ่ายก็มีความหวังดี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล ต้องการให้ออกมาดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมายหรือรายงานที่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ หรือเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสภาฯ
‘บิ๊กทิน’ไม่ห่วงสอบยุบพท.-6พรรค
ด้าน นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยกล่าวกรณีมีรายงาน กกต.รับคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลกรณีถูกร้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำพรรคว่าภายในพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ ส่วนตัวไม่กังวลในเรื่องดังกล่าว กลับมองในแง่ดีว่าการที่มีผู้มายื่นร้องกับกกตซึ่งทางกกต.ก็ต้องรับเรื่องไว้พิจารณาเพราะกกต.คงเคารพความคิดเห็นของทุกฝ่าย ส่วนที่ข่าวระบุว่ามีมูลจึงรับเรื่อง และสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนนั้น ก็ต้องไปพิจารณากันอีกว่ามีมูลนั้น อยู่ในระดับมากน้อยเพียงใด เรื่องนี้จะต้องพิจารณาองค์ประกอบและรายละเอียดต่างๆอย่างละเอียด ต้องดูเหตุและผล ไม่ใช่ใช้เพียงแค่ความรู้สึก
ชี้ปม‘แม้ว’ครอบงำ-ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
“การที่ไปร้องว่า แกนนำ6พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ไปร่วมประชุมกับนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อพิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกฯหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงนั้นจะเห็นว่าตามข่าวที่ออกมาระบุว่าคนที่จะได้เป็นนายกฯ คือนายชัยเกษม นิติสิริ แต่สุดท้ายกลับเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดังนั้น หากผู้ร้องคิดว่า มีการคุยกันเรื่องนี้จริงก็แสดงว่าไม่ได้มีผลอะไรเกิดขึ้น แล้วแบบนี้จะเรียกว่า ครอบงำได้อย่างไร”นายสุทิน กล่าว
‘ธนกร’ย้ำค้านนิรโทษเหมารวม112
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่าตนได้อภิปรายในสภาฯไปแล้วในการพิจารณาวาระเรื่องรับทราบ รายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับการตราร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม โดยเห็นแล้วว่าในพรรครวมรัฐบาล มีจุดยืนชัดเจนที่ไม่เห็นด้วย หรือคัดค้านการรวมคดีความผิดมาตรา 110 และ 112ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมอยู่ในการได้รับการยกโทษให้นิรโทษกรรมเนื่องจากมองว่าไม่ใช่แรงจูงใจทางการเมือง และเป็นคดีหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นประมุขของประเทศ เป็นความผิดร้ายแรง ไม่สมควรได้รับการยกความผิดนิรโทษกรรมให้อย่างเด็ดขาด ควรดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ยันสภาไม่ควรรายงานฯสุ่มเสี่ยง
นายธนกรยังกล่าวถึงที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ระบุว่าสส.บางพรรคยังไม่เข้าใจหรืออาจจะแกล้งไม่เข้าใจเรื่องนี้ว่าไม่ใช่การยกเลิกมาตรา 112ว่า ตนมองว่ารัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทยควรที่จะมีการหารือพูดคุยให้ตกผลึกทางความคิดเข้าใจให้ตรงกันในพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้เกิดการเดินหน้าพิจารณากฎหมายที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งคดีทางการเมืองที่ไม่ร้ายแรง ตนเห็นด้วยและสนับสนุนให้เกิดการสร้างความปรองดอง ลดความขัดแย้ง เพื่อแก้ปัญหาความแตกแยกทางความคิดแต่ต้องย้ำจุดยืนหลักการให้ชัดทั้งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายการนิรโทษกรรมก็ตามต้องแตะหมวด1-2รวมถึงมาตราสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด ซึ่งการรับทราบรายงานผลการศึกษาต่อสภาฯก็ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่สภาฯจะรับรองรายงานที่มีความสุ่มเสี่ยง ควรต้องพิจารณาให้เกิดความรอบคอบรัดกุมและถูกต้องไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและจริยธรรมได้
ฝากวงดินเนอร์พรรครบ.หาทางออก
“ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ใช้โอกาสรับประทานอาหารค่ำร่วมกันที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคมนี้พูดคุยในประเด็นกฎหมายนิรโทษกรรมให้เกิดความชัดเจนและมีทิศทางที่ถูกต้องเห็นตรงกันยึดหลักการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ อย่าเปิดช่องให้เกิดการลดทอนกฎหมายสำคัญนี้เพราะถือเป็นความเสี่ยงต่ออธิปไตยของชาติ รัฐบาลควรเร่งมือแก้ปัญหาความเดือดร้อนเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนมาเป็นเรื่องแรก ลดความเสี่ยงต่อการสร้างแรงกระเพื่อมเพิ่มความขัดแย้งในสังคมจะดีกว่า”นายธนกร ย้ำ
‘จตุพร’ชี้ปลายต.ค./ต้นพ.ย.รัฐบาลวิกฤติ
ในขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ โดยประเมินว่าปลายตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน อนาคตการเมืองของนายกฯ ละพรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์เปราะบาง เพราะเป็นช่วงศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้อง 6 ประเด็นกล่าวหา นายทักษิณ ชินวัตรกับพรรคเพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง และอาจส่งผลวิกฤตถึงตำแหน่ง นายกฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งย้ำถึงคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นต่อศาล รธน.ใน 6ประเด็นกล่าวหา”ทักษิณ-เพื่อไทยล้มล้างการปกครอง”
“เข้าใจว่าในสัปดาห์หน้า(21-26 ต.ค.)สถานการณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง อีกอย่างที่เคยพูดไว้ให้จับตาดูการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่กลางตุลาคมไป วันนี้เริ่มเห็นอาการเปล่งๆจากกกต.แล้ว เรื่องที่พรรคเพื่อไทยดูว่าเบาหวิว อารมณ์ดี แต่ลึกแล้วอารมณ์ไม่ดีหรอก เพราะรู้ดีว่า กรณีชั้น 14 กรณีของรัฐบาล กรณีของพรรค มันเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกัน และอาจนำพาไปสู่การหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯได้”นายจตุพร กล่าวย้ำ
และว่าในสถานการณ์มากคำร้องกำลังรุกไล่รัฐบาลและนายกฯคงไม่มีที่ปรึกษาคนใดมาช่วยให้หลุดรอดจากหลายข้อกล่าวหาพฤติกรรมเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมซึ่งกำลังจ่อรอไล่กระชันชิดเข้ามาเรื่อยๆทั้งการจัดงานเลี้ยงเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานีดังนั้นท่ามกลางสถานการณ์เปราะบางเช่นนี้ ภาคประชาชนต้องติดตามใกล้ชิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี