"กมธ.สันติภาพฯชายแดนใต้"ฝาก"ทัพภาค4-สมช."เข้มดูแลสถานการณ์ชุมนุม-เหตุรุนแรงในพื้นที่จชต. หลัง"คดีตากใบ"หมดอายุความ 25 ต.ค.นี้ ส่อมือเปล่าจับใครไม่ได้ ขอยึดเป็นธรรม-เคารพสิทธิเสรีภาพ-ดูแลขั้นตอนควบคุมตัว อย่าให้ซ้ำรอย"ผู้สูญเสีย"เป็นบาดแผลร้ายแรงของสังคมไทย ด้าน"มทภ.4"รับเป็นความผิดพลาดจนท.ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ฝ่ายตรงข้ามอาศัยช่องโหว่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐ ต้องใช้กระบวนการยุติธรรมเปิดความจริง ขณะที่"สมช."เล็งฟื้น"กระบวนการพูดคุยสันติสุข"ชุดใหม่ ยินดีเปิดพื้นที่แสดงออกการเมืองสร้างสรรค์ เผย"ฝ่ายมาเลเซีย"จริงจังมากในรอบหลายปี
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางส่งเสริมการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุม กมธ.ฯ กรณีคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) ว่า กมธ.ฯ ได้เชิญ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แต่รองนายกฯ มอบหมาย นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาชี้แจงแทน รวมถึง พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) มาชี้แจง
โดยเราได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการช่วยติดตามแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากคดีตากใบกำลังจะหมดอายุความ และอาจจะไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้เลย แต่จะหาทางสร้างสันติภาพ และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
ด้าน แม่ทัพภาคที่ 4 ชี้แจงยอมรับว่า เหตุการณ์ตากใบเป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่มีใครอยากต้องการให้เกิดขึ้น และฝ่ายตรงข้ามพยายามอาศัยความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐ จึงต้องการใช้กระบวนการยุติธรรมเปิดเผยความจริง นอกจากนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมาย ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ 2 ราย ในคดีที่ยังอยู่ในราชการ กำลังพยายามติดตามตัวให้มาต่อสู้คดีในศาลฯ รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมาย
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กมธ.ฯ ยังมีความกังวล ที่มีเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 48 ไปเยี่ยมเยียนประชาชนที่เป็นโจทก์ในคดีนี้บางคน ที่ยื่นฟ้องคดีตากใบ ใน อ.สุไหงปาดี และ อ.เจาะไอร้อง ทำให้ชาวบ้านรู้สึกถูกคุกคาม จึงขอความร่วมมือจากกองทัพภาคที่ 4 รับรองความปลอดภัย และยุติปฏิบัติการเหล่านั้น ทางรักษาการราชการแทนเลขาฯ สมช.ก็รับปากจะพยายามไปสื่อสารไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ขณะเดียวกัน กมธ.ฯ ได้สอบถามกองทัพภาคที่ 4 มีการเตรียมการรับมือกับการจัดการฝูงชนเพื่อควบคุมประชาชนที่ชุมนุมโดยสันติเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียผิดพลาดในอนาคต ทาง พล.ท.ไพศาล ชี้แจงว่า หน้าที่หลักในการควบคุมประชาชนในที่ชุมนุม เป็นหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่ได้รับการอบรมเรื่องการควบคุมดูแลฝูงชน ซึ่งตนให้ข้อสังเกตไปว่า การดำเนินการที่มีหลายหน่วยงานสนธิกำลังกัน จะมีปัญหาเรื่องความรับผิดชอบว่าใครเป็นผู้คุมสถานการณ์หลัก ใครเป็นผู้รับผิดชอบ หรือใครจะชี้แจงกับสาธารณะเพื่อให้ประชาชนเชื่อถือกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงฝากแม่ทัพภาคที่4ไปพิจารณาปรับปรุงเรื่องเหล่านี้เพื่อให้การใช้กระบวนการยุติธรรมเกิดความยุติธรรม
ประธาน กมธ.ฯ สันติภาพชายแดนใต้ กล่าวอีกว่า ส่วนทางเลขา สมช.ชี้แจงว่า ในอดีตที่ผ่านมารัฐบาลได้กล่าวคำขอโทษ และได้เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ตากใบ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามดำเนินการติดตามตัวอย่างเต็มที่ กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไประดับหนึ่ง โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม มีข้อสั่งการให้เฝ้าระวังการก่อเหตุ ติดตามตัวผู้กระทำผิด และยกระดับการเตรียมการเพื่อรับมือการชุมนุมโดยเคารพสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ รักษาความปลอดภัย และป้องกันมือที่สาม และเตรียมมาตรการ 4 ด้าน หลังวันที่ 25 ต.ค.เป็นต้นไปที่คดีหมดอายุความ ได้แก่ 1.สถานการณ์น่าจะมีการก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เข้มข้นมากขึ้น 2.กำชับหน่วยปฏิบัติให้มีการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 เคร่งครัด ห้ามซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัย 3.เยียวยาทางจิตใจผู้ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ตากใบนอกเหนือจากที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ และ 4.รัฐจะเดินหน้าขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยและการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า โดยเฉพาะกระบวนการพูดคุยฯ ทาง สมช.จะเสนอให้มีการแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุขตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ซึ่งภาครัฐยินดีเปิดพื้นที่แสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ทางผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยฝ่ายมาเลเซีย มีความจริงจังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายปีที่ผ่านมา และฝ่ายไทยกำลังพิจารณาลดการใช้กฎหมายพิเศษ และอาจมีการออกกฎหมายอื่นมาใช้แทนที่การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการแยกกลุ่มผู้เห็นต่างเพื่อหามาตรการที่เหมาะสมตามลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น ผู้ที่อยู่ในข่ายที่จะคืนสู่สังคม หรือผู้ต้องขัง ควรได้รับการปฏิบัติ หรือการดูแลอย่างไร ตนในฐานะประธาน กมธ.ฯ จึงฝากความเห็นว่า ควรต้องรีบสรุปประเด็นจากเหตุการณ์ตากใบที่ผ่านมา ตั้งแต่ขึ้นตอนการควบคุมการชุมนุม หรือการดูแลผู้ชุมนุม การดำเนินคดีให้เกิดความยุติธรรม เพราะผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ตากใบ เป็นบาดแผลสำคัญของสังคมไทยอย่างร้ายแรงมากยิ่งขึ้น และอาจไม่สามารถดำเนินคดีใครได้เลยก่อนที่คดีจะหมดอายุความ ที่สำคัญต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมสามารถให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะประชาชน เพื่อฟื้นความไว้วางใจต่อกระบวนการยุติธรรมกลับมา ทั้งนี้ ในโอกาสต่อไป กมธ.ฯ จะเชิญหน่วยงานความมั่นคงมาชี้แจงแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกระบวนการพูดคุยสันติภาพฯ เพื่อให้ได้ข้อมูลสดใหม่มาประกอบในรายงานของ กมธ.ฯ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี