‘จตุพร’ซัด‘คดีตากใบ’ 20 ปีรัฐลอยนวล ปล่อยผู้ต้องหาพ้นผิด รัฐบาลผิดพลาด ชี้ต้นเหตุเกิดสมัย‘ทักษิณ’ถึง‘รัฐบาลลูก’ต้องรับผิดชอบ ระบุคำขอโทษขาดจริงใจ ลบบาดแผลใจญาติผู้สูญเสียไม่ได้ คาดรุนแรงชายแดนใต้จะปะทุเป็น‘โศกนาฏกรรม’รอบใหม่ ท้าใครยกเยียวยาสำคัญกว่าชีวิต ให้มาตายเอาเงินเยียวยา
25 ตุลาคม 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวถึงคดีเจตนาฆ่าในเหตุการณ์ตากใบ ซึ่งหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ว่า เป็นเรื่องร้อนแรงที่สุด จนนายกฯอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ออกมาขอโทษประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาหนีคดีมาขึ้นศาลอาญาได้ จึงต้องปล่อยให้คดีหมดอายุความ 20 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้มีการอธิบายถึงรัฐได้เยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว แต่ตนเชื่อว่า คงไม่มีใครต้องการความตายเพื่อให้ได้เงินเยียวยา หากการเยียวยาสำคัญตามการกล่าวอ้างแล้ว คนที่พูดถึงเงินเยียวยาต้องไปตายดูบ้างจะเอาหรือไม่?
“ถัดจากนี้ไปต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว เพราะมือที่สามบวกสถานการณ์ขัดแย้งของโลกต่างๆ จะมารุมด้วยสาเหตุนี้ (ปล่อยคดีหมดอายุความ) นายกฯ คงซีเรียส (เครียด) กับสถานการณ์นี้ และที่สุดแล้วรัฐบาลคงยากจะรับมือได้”
นายจตุพร กล่าวว่า การต่อสู้กับผู้กดขี่เป็นปรัชญาและเป็นอุดมการณ์ซึ่งจะลุกลามไปไกลมาก หากใครประเมินเหตุการณ์นี้ต่ำ ตนเชื่อว่าคนนั้นไม่มีความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม แม้คดีตากใบหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ แต่ทางความรู้สึกของผู้สูญเสียย่อมไม่มีวันหมด ดังนั้น ถ้าดูปรากฏการณ์ขณะนี้ เชื่อว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้จะปะทุขึ้นมาใหม่
“ถ้าลุกลามและยากต่อการควบคุมแล้ว ใครที่ทำหน้าที่อย่างไรในช่วงที่ผ่านมา จงสำนึกเอาด้วยว่า จงระลึกไว้ด้วยว่า ก่อนหน้านี้การพูดแบบมะนาวไม่มีน้ำสะท้อนถึงความไม่มีน้ำใจ ไม่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่รู้จักสร้างอารมณ์ร่วม ไม่มีอารมณ์สะเทือนใจ คิดแต่เพียงเสมือนหนึ่งว่ามันควรจะจบ”
นายจตุพร กล่าวถึงบรรดาติ่งหน้าโง่อธิบายช่วยรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยว่า แสดงถึงการโยนฟืนเข้ากองไฟ พยายามจับคำพูดคนโน่นมาต่อขยาย แล้วอวดรู้ในสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งจะส่งผลเสียให้บ้านเมืองเพราะไปกระทบกับอารมณ์และความรู้สึกของประชาชนชายแดนใต้
“ดังนั้น หลังจากวันที่ 25 ต.ค.67 ประเมินว่า เราคงจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่คาดฝัน และฝ่ายความมั่นคงอาจมองในมิติที่ไม่แตกต่างกัน”
นายจตุพร กล่าวว่า การอธิบายถึงผู้หลบหนีคดีเมื่อลาออกจาก สส.ก็หมดความรับผิดชอบของพรรคเพื่อไทย แต่ลืมไปแล้วหรือไม่ว่า เหตุทั้งหมดเกิดขึ้นจากการดำเนินนโยบาย 3 จังหวัดชายแดนใต้ผิดพลาดในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยยกเลิก ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ 43 หรือ พตท. 43 ซึ่งจัดระบบ วางเครือข่ายไว้มากมายในดินแดนที่มีความอ่อนไหว กลไกที่วางไว้เมื่อยกเลิกจึงกลายเป็นช่องว่าง
นายจตุพร ระบุว่า อีกอย่างการประเมินทางการข่าวในรัฐบาลทักษิณ ยังผิดพลาดข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในเหตุการณ์ปล้นปืน 413 กระบอก จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ‘ค่ายปิเหล็ง’ แล้วยังอุ้มฆ่านายสมชาย นิละไพจิตร ที่เป็นทนายความจำเลย นอกจากนี้ศาลฎีกายังยกฟ้องจำเลย ซึ่งติดคุกฟรีนานกว่า 3 ปี แม้ภายหลังรัฐบาลจะนำกลไก ศอ.บต.กลับมา แต่สถานการณ์รุนแรงไปไกลเสียแล้ว
“การคิดว่าการใช้มาตรการความรุนแรงที่ฆ่าคนกว่า 2 พันคนในสถานการณ์ปราบปรามยาเสพติดจะเอาอยู่ แต่เป็นคนละเรื่องกับสถานการณ์ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่มีประวัติศาสตร์ ดังนั้น การใช้ความรุนแรงก็ตายสิบเกิดแสนไม่มีวันจบจนถึงปัจจุบัน และยิ่งซับซ้อนมากยิ่งขึ้น”
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อปฐมเหตุมาจากรัฐบาลทักษิณ แล้ววันนี้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล อุ๊งอิ๊งค์เป็นนายกฯ การตัดสินใจผิดพลาดที่ผ่านมาจึงเป็นความรับผิดชอบที่มากกว่า เพราะรัฐบาลต่อจากทักษิณมานั้น ไม่อาจพาสถานการณ์ 3 จังหวัดแดนใต้กลับมาได้เลย ดังนั้น ที่พังจึงมาจากปฐมบทที่ผิดพลาดจนเป็นตราบบาปมานานถึง 20 ปีก็ยังไม่จบและยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อีกต่อไป
“วันนี้แม้จะมีคำขอโทษ แต่มนุษย์ต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและตั้งใจจะแก้ไขปัญหาด้วย โดยต้องเข้าใจความรู้สึกของญาติผู้สูญเสีย ท่วงทำนองเช่นนี้ ช่วงหลายวันที่ผ่านมายังไม่แลเห็น ดังนั้น การกล่าวขอโทษในวันนี้จึงสายเกินแก้ เพราะไม่เห็นความพยายามอย่างจริงจังของรัฐบาล”
นายจตุพร กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุกรณีตากใบ รัฐบาลช่วงนั้นยังภูมิใจกับการปราบปรามยาเสพติด แล้วนำความรู้สึกของประชาชนนอกพื้นที่เกิดเหตุที่ชื่นชมรัฐบาลมาคิดว่าเป็นความสำเร็จท่ามกลางน้ำตาเป็นสายเลือดของครอบครัวผู้สูญเสียในกรณีตากใบ
“ทำไมญาติผู้สูญเสียยังพูดถึงกรณีตากใบซึ่งจะครบ 20 ปีในวันที่ 25 ต.ค.นี้ เพราะที่ผ่านมาเขาไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง รัฐเข้าใจผิดว่า ให้เงินก็จบไป มันไม่ใช่คดีอุบัติเหตุ แต่เป็นคดีเจตนาฆ่าคนตายในช่วงเทศกาลถือศีลอด เช่นเดียวกับการฆ่าในมัสยิดกรือเซะ สถานที่มีความศักดิ์สิทธิ์”
นายจตุพร เตือนรัฐบาลว่า หลังจากนี้ต้องยอมรับถึงการเจอปัญหาอย่างมากมาย แม้ทุกรัฐบาลหรือมีสภาล้วนตั้งกรรมาธิการหรือคณะขึ้นมาศึกษากรณีตากใบ แต่เป็นการศึกษาที่ไม่เคยจบเพราะปัญหาไม่เคยได้รับการแก้ไข ดังนั้น เมื่อครบ 20 ปีของเหตุการณ์ตากใบอาจเริ่มถึงโศกนาฏกรรมรอบใหม่อย่างที่แสดงความกังวลไว้ล่วงหน้า หากหวังให้เจตนาฆ่ากรณีตากใบไปถึงเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะประเทศไทยไม่ได้ลงสัตยาบันยอมรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ
“แม้ต้องการให้กรณีตากใบอยู่ในเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ได้แต่หวังให้เป็นจริง ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการปล่อยหมดอายุความคือการตัดตอนอย่างหนึ่ง เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาขึ้นสืบพยานในศาล เพราะไปถึงใครต่อใครที่สั่งการเบื้องหลังหรือไม่?” นายจตุพร กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี