(ต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว)

5.ส่วนที่ 2 ความเห็นของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนหรือสำนักงานก.พ.ที่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการล้างมลทินแก่ส่วนราชการตลอดบุคคลที่เคยรับราชการมาก่อน ดังนี้

1) พ.ศ.2526

(1.1) สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท(สำนักงานรพช.) หารือเกี่ยวกับการเพิ่มโทษข้าราชการกรณีเมื่อครั้งมีข้าราชการส่วนจังหวัดสามัญองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งหนึ่งได้กระทำผิดวินัย ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดนั้นได้มีคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือน 10% มีกำหนด 4 เดือน หลังจากนั้น ข้าราชการรายนี้ได้โอนมารับราชการที่สำนักงานรพช.ต่อมาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนั้นได้แจ้งมายังสำนักงานรพช.ว่า ก.จ.ได้มีมติให้เพิ่มโทษข้าราชการรายนี้เป็นลดขั้นเงินเดือนจำนวน 1 ขั้น จึงหารือว่าจะลงโทษผู้นี้ตามมติของก.จ.ได้หรือไม่และหากลงโทษได้จะอาศัยอำนาจในการสั่งลงโทษตามมาตรา 85 หรือมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2518

สำนักงานก.พ.ขอเรียนว่า โดยที่ผู้นี้กระทำผิดเมื่อเดือนเมษายน 2522 และถูกสั่งลงโทษตัดเงินเดือนเมื่อเดือนมิถุนายน 2522 ผู้นี้จึงเป็นผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ.2526แล้ว จึงไม่อาจสั่งเพิ่มโทษผู้นี้ได้อีก (หนังสือสำนักงานก.พ.ที่นร 0611/ป796 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2526)

(1.2) กรมการปกครอง หารือกรณีจังหวัด น.ได้มีคำสั่งลงโทษให้ปลัดอำเภอ ก. ออกจากราชการ ตามมติอ.ก.พ.จังหวัด น. กรณีครั้งดำรงตำแหน่งเสมียนตรา และเป็นสมุห์บัญชีสุขาภิบาลด้วยได้ลงบัญชีจ่ายเงินค่าซ่อมแซมบ่อน้ำจำนวน 3,000 บาทโดยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินและไม่ได้รับอนุญาตจากประธานกรรมการสุขาภิบาล เมื่อผู้บังคับบัญชาตรวจพบจึงได้ส่งเงินคืนกรมการปกครองพิจารณาแล้วเห็นชอบด้วยจึงเสนอปลัดกระทรวงมหาดไทยซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้นำเสนออ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยพิจารณา ปลดข้าราชการรายนี้ออกจากราชการ โดยกรมการปกครองไม่เห็นด้วยกับความเห็นของปลัดกระทรวงมหาดไทยจึงหารือมายังสำนักงานก.พ.