‘ศปช.’ย้ำ!ไม่หยุดฟื้นฟูส่ง‘แม่สาย’ให้อปท.ลุยต่อ ‘บิ๊กอ้วน’นำทีมส่วนหน้าคืนรอยยิ้มให้ชาวเชียงราย พร้อมรับนักท่องเที่ยว เผยเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยโอนจ่ายแล้วกว่าพันล้านบาท
28 ตุลาคม 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย (ประธาน ศปช.ส่วนหน้า) และพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม (ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ กำลังพล ภาครัฐ ภาคเอกชน จิตอาสา และประชาชน เข้าร่วมพิธีส่งมอบพื้นที่ที่ได้รับการฟื้นฟูเยียวยาจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
นายโชตินรินทร์ เกิดสม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวรายงานโดยระบุว่า สถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา จังหวัดเชียงรายได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 14 อำเภอ 66 ตำบล โดยมี 2 อำเภอ คือ อ.เมืองเชียงราย และ อ.แม่สายที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักและมีดินโคลนตกค้างในพื้นที่เกินกว่าศักยภาพที่พื้นที่สามารถจัดการได้ แต่หลังจากรัฐบาลได้ตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน 135 หน่วยงาน มีทรัพยากรและเครื่องจักรกลเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ 1,724 หน่วย และกำลังพล 8,826 นาย ทำให้สามารถปฏิบัติงานฟื้นฟูพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถดำเนินการในระยะเร่งด่วน (Quick Win) ได้แล้วเสร็จ พร้อมส่งมอบพื้นที่ให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ดำเนินการฟื้นฟูในระยะต่อไป
ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า กว่า 40 วัน ที่ชาวอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้ฝ่าวิกฤติการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม บางครอบครัวต้องสูญเสียและพรัดพรากจากบุคคคลอันเป็นที่รัก บ้านเรือน ชุมชนและร้านค้าได้รับความเสียหายภายใต้กองโคลนมหึมา ท่านนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้มีข้อห่วงใย และสั่งการให้เร่งรัดช่วยเหลือฟื้นฟูให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตในภาวะปกติโดยเร็วที่สุด จึงได้จัดตั้ง ศปช.ส่วนหน้า โดยมอบหมายให้ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เป็นประธาน และพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นที่ปรึกษา เพื่อบริหารทรัพยากรในการช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จนถึงวันนี้ช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน กว่า 800 หลัง พร้อมกำจัดโคลนในพื้นที่สาธารณะจนแล้วเสร็จ ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าเริ่มกลับมาประกอบอาชีพ กลับมามีรายได้ และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง
“ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวแม่สาย จากนี้ไปจะเป็นการฟื้นฟูระยะที่ 2 ซึ่งจะเน้นด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความแข็งแรงเพื่อป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวหลังน้ำลด ตลอดจนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจะส่งมอบภารกิจให้แก่กระทรวงมหาดไทย จังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย เทศบาลตำบลแม่สาย เทศบาลตำบลแม่สายมิตรภาพ และเทศบาลตำบลเวียงพางคำ ร่วมดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูต่อไป รัฐบาลขอยืนยันและให้ความมั่นใจว่า ภาครัฐไม่ทอดทิ้งชาวแม่สาย และจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติสุขดังเดิม” นายภูมิธรรม กล่าว
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งขณะนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสิน สำหรับโอนเงินให้ประชาชนแล้วทั้งสิ้น 27 จังหวัด 165,047 ครัวเรือน ซึ่งโอนเงินสำเร็จแล้ว 118,921 ครัวเรือน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,070,225,000 บาท สำหรับในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้โอนเงินช่วยเหลือสำเร็จแล้ว 28,659 ครัวเรือน เป็นเงินกว่า 257 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่าผู้ประสบภัยที่ยื่นคำร้องก่อน 16 ต.ค. 67 จะได้รับเงินช่วยเหลือภายใน 31 ต.ค. 67 อย่างแน่นอน
“เพื่อสร้างกำลังใจและความมั่นใจ “รัฐบาลไม่ทิ้งประชาชน” ในเดือนหน้า นายกฯมีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.เชียงราย และเป็นประธานประชุม ครม.สัญจรที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นการประชุม ครม.สัญจรนัดแรกของรัฐบาลชุดนี้ ขณะเดียวกันจะมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักสอดรับกับช่วงไฮซีซัน โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีจะได้แถลงรายละเอียดกิจกรรมการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว (Winter Festival) ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการประกาศความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวของประเทศไทย” นายจิรายุ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี