รัฐบาลผนึกเอกชน แก้หนี้ครัวเรือน-ดันเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน "พิชัย"ยังหวังจีดีพีโตถึง 2.8 แม้เจอพิษน้ำท่วม สภาหอการค้าไทยให้ไฟแนนซ์ยกเลิกยึดรถกระบะ
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุมครั้งนี้ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และ กกร.โดยเราจะเร่งแก้ปัญหาเรื่องหนี้ ที่มีข้อสรุประดับหนึ่งในเรื่องของการปรับโครงสร้างหนี้ คือ หนี้ครัวเรือน และเอสเอ็มอี โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนในส่วนของรถกระบะที่ใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งในแง่จำนวนหนี้อาจจะลดได้ไม่มาก เขาอาจจะดูเรื่องอัตราดอกเบี้ยและจำนวนเงินต้นบ้าง ให้ยืดยาวขึ้น หนี้อาจจะลดลงมาหน่อย แต่ในส่วนของภาระจะลดให้มีความขีดความสามารถ จะแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว รัฐบาลถือว่า ทั้งสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประไทย และสมาคมธนาคารไทย เป็นพาร์ทเนอร์กันในการแก้ปัญหา ในส่วนภาครัฐนอกจากจะมีนโยบายแล้ว เราก็ต้องแก้ไขเรื่องกฎหมาย ปรับปรุงเชิงโครงสร้าง โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะมีการพบกันบ่อยขึ้น บางเรื่องทำได้เลย แต่บางเรื่องต้องมีการเริ่มต้นก่อน เพื่อเดินไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรับปากตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชน ในการพบกัน 6 เดือนครั้ง เพื่อพูดคุยอย่างเป็นทางการ ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากนี้เรานำเสนอ โดยนายพิชัย ตอบรับว่าจะกระตุ้นเร็ว และเสนอโครงการคนละครึ่ง Easy Recipe E-Recipe และขณะเดียวกัน อยากให้เร่งทำก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมยินดีพิจารณาร่วมกัน
นายสนั่น กล่าวว่า มาตรการที่ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือไม่ให้มีการยึดรถกระบะหรือรถปิกอัพที่ขาดส่งค่างวดสำเร็จแล้ว เพราะเป็นเครื่องมือทำมาหากิน รัฐบาลรับเรื่องนี้ไปดำเนินการแล้ว ก็จะต้องมีการหารือและได้รับความร่วมมือจากธนาคาร และไฟแนนซ์ ซึ่งจะมีมาตรการออกมา เรื่องนี้ใช้เงินไม่มาก แต่ต้องมีการคัดกรอง เช่น รถปิกอัพราคา 800,000 บาท ผ่อนไปแล้ว 400,000 บาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็แซวว่า ธนาคารกำไรดีต้องมาสนับสนุน โดยในการประชุม กกร.วันที่ 4 พ.ย.นี้ จะมีการประกาศมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมทำกันมาตั้งแต่ช่วงที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาตรการไม่ยึดรถปิกอัพ อาจจะประกาศไม่ทันวันที่ 4 พ.ย.นี้
ด้าน นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ทางสมาคมได้เร่งที่จะแก้ไขปัญหาของกลุ่มเปราะบางและหนี้ครัวเรือน ที่อยู่ระหว่างการเร่งสรุปให้เป็นรูปธรรมภายใน 1 - 2 สัปดาห์นี้ จะดูตั้งแต่เรื่องบ้านหลังแรก และรถยนต์ที่ใช้ประกอบอาชีพ รวมถึงเอสเอ็มอีรายเล็กที่ทำให้เขาขึ้นมาประกอบอาชีพนำไปสู่การมีรายได้ และสร้างความมั่นคงในชีวิต คู่ขนานไปกับการหาแหล่งเงินทุนทั้งจากทางภาครัฐและระบบธนาคารพาณิชย์ไปพร้อมๆ กัน รวมไปถึงความร่วมมือให้มีการดำเนินการในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งเรื่องการเพิ่มรายได้และความสามารถในการแข่งขัน ทั้งหมดเพื่อประคับประคองเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการที่จะออกมาจะมีทั้งลดภาระ ลดดอกเบี้ย ลดเงินต้น เราเจาะจงในเรื่องของภาพรวมและแก้ปัญหาเป็นระบบ จะเป็นจุดตั้งต้นนำสู่การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยจะมุ่งไปที่กลุ่มที่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจริงๆ ซึ่งจุดที่เราให้ความสำคัญมากคือ ไม่อยากให้แก้ไขปัญหาเป็นแบบเทศกาล แต่อยากให้เสริมไปกับการแก้ไขปัญหาระยะกลางและระยะยาว เพื่อออกจากกับดักรายได้ปานกลาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟสสอง หากออกมาจริงในช่วงต้นปี 68 จะทำให้จีดีพีตรงตามเป้าหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เวลาเรากระตุ้นเศรษฐกิจ เราไม่ได้คิดทีเดียวหรือจะทำอย่างนั้นตลอดไป แต่เราจะดูเรื่อยๆ ถึงผลได้ ผลเสีย ความเหมาะสม จังหวะ เวลา จึงได้รับข้อคิดเห็นมาว่า จะกระตุ้นแบบไหนแล้วได้ผลที่สุด ประชาชนได้ประโยชน์ที่สุด กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากที่สุด ทั้งนี้ คิดว่า จีดีพีน่าจะโตกว่า 2.4 ที่ได้ตั้งไว้ตอนต้นปี 67 แต่เกิดอุทกภัย ทำให้ดึงลงมาบ้าง แต่เมื่อเราเติมเงิน 1 หมื่น และหลายๆ เรื่องที่เราทำ เชื่อว่าน่าจะดึงกลับขึ้นมาได้ใกล้ๆ กับที่เราตั้งไว้ ยังหวังที่จะเห็นอยู่ที่ 2.7 - 2.8 ขณะที่ นายสนั่น กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นขึ้นมา ฉะนั้น การที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนสามารถเอาไปจับจ่ายใช้สอยได้ ดีกับคนค้าขาย และโรงงานผลิต
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี