รัฐบาลผนึกเอกชน
ลุยแก้หนี้ครัวเรือน
ดัน SME เข้าถึงทุน
หวังจีดีพีโตถึง 2.8
“นายกฯ”เปิดทำเนียบฯคุย“กกร.”รับมอบ“สมุดปกขาว”ข้อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศ จับมือเอกชนหารายได้ใหม่เข้าประเทศ ไม่ใช่ปรับโครงสร้างหนี้อย่างเดียว“พิชัย”แถลงผลประชุม รัฐบาลผนึกเอกชนแก้หนี้ครัวเรือน-ดันเอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินทุน “พิชัย”ยังหวังจีดีพีโตถึง 2.8 แม้เจอพิษน้ำท่วม ฝากให้ไฟแนนซ์ ยกเลิกยึดรถกระบะ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2567 ที่ห้องม่วง ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหารือประชุมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)นำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ในฐานะประธานกกร.และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย และนายสุธีร์ สธนสถาพร ผู้อำนวยการสำนักงานกกร.
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายสนั่นได้มอบ‘สมุดปกขาว’ข้อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศจัดทำโดยกกร.มอบให้นายกรัฐมนตรี
โดยน.ส.แพทองธารกล่าวว่าอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าประเทศไทยประสบปัญหาเรื่องศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี และแน่นอนว่าผลกระทบนี้ส่งผลถึงประชาชนมีหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น อยากให้ภาครัฐและภาคเอกชนได้พูดคุยร่วมมือกัน เราไม่สามารถจะพูดได้แค่เรื่องการปรับโครงสร้างหนี้อย่างเดียว ที่เป็นปัญหา แต่ต้องมีการหารายได้ใหม่เข้าสู่ประเทศ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจโตได้
“สิ่งที่รัฐบาลทำขณะนี้มีเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์และมีความร่วมมือกับเอกชนจำนวนมากเพราะมองว่าเอกชน คือภาคสำคัญที่จะทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มและสนับสนุนประชาชนด้วย จึงอยากจะให้รัฐกับเอกชนทำงานร่วมกันเยอะขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจและโอกาสใหม่ๆให้กับประชาชนซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก วันนี้รัฐบาลพร้อมที่จะซัพพอร์ตรับฟังจากภาคเอกชนเพื่อให้สามารถปรับให้เข้านโยบายของรัฐบาลต่อไป”นายกฯย้ำ
ด้านนายสนั่น กล่าวว่าเชื่อมั่นรัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯแพทองธารซึ่งสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทาย และปัญหาหลากหลายมิติกกร.จึงได้ระดมความคิดเห็นจากภาคธุรกิจในสาขาต่างๆ จัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการทั้งในระยะเร่งด่วนระยะกลาง และระยะยาว
โดยมีทั้งหมด4ประเด็นได้แก่ 1.การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 2.การช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs 3.การบริหารจัดการน้ำและ 4.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น ระยะเร่งด่วน เสนอมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชน ลดต้นทุนของผู้ประกอบการทั้งการควบคุมราคาสินค้าพื้นฐาน และบริการที่จำเป็น ตรึงราคาค่าไฟ น้ำมันดีเซล เพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ และลดภาระประชาชน รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยเอกชนขอให้เป็นไปตามกลไกของคณะอนุกรรมการไตรภาคี
นายสนั่นกล่าวว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ควรแยกวิธีให้เหมาะสมและใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเป้ากระตุ้นไปยังกลุ่มเปราะบาง ถือเป็นสิ่งเร่งด่วนที่รัฐบาลทำไปแล้ว ขณะที่ประชาชนกลุ่มที่ยังพอมีกำลังซื้อ สามารถดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะโครงการคูณสอง เพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจทำให้รัฐบาล ไม่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณมาก ส่วนกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง สามารถออกมาตรการดึงการจับจ่ายใช้สอยให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นเช่นมาตรการทางภาษี ที่รัฐไม่ต้องใช้งบประมาณเลย
นายกฯกล่าวช่วงท้ายว่าจะติดตามดำเนินการตามนโยบายต่างๆในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสินที่ทำไว้ดีอยู่แล้วให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ให้เกิดความสะดุด ทีมงานยังคงเป็นทีมงานเดิม ขอบคุณคำแนะนำแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของกกร.และเห็นด้วยที่จะมีการนัดหารือลักษณะนี้ต่อไป ซึ่งประชุมครั้งหน้าจะเพิ่มเติมข้อมูลเข้าไปอีก ขณะที่นายสนั่น กล่าวว่า ในปีหน้าจะต้องช่วยกันทำให้จีดีพีเติบโตขึ้น4%และให้คำมั่นว่าสามารถเรียกใช้ กกร.ได้ซึ่งนายสนั่นยังชื่นชมว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯแก้ปัญหาเศรษฐกิจเก่งที่สุด
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมกกร.ว่าที่ประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกกร.โดยเราจะเร่งแก้ปัญหาเรื่องหนี้ที่มีข้อสรุประดับหนึ่ง ในเรื่องของการปรับโครงสร้างหนี้ คือ หนี้ครัวเรือนและเอสเอ็มอี โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน ส่วนของรถกระบะที่ใช้ในการประกอบอาชีพในแง่จำนวนหนี้อาจจะลดได้ไม่มาก เขาอาจจะดูเรื่องอัตราดอกเบี้ยและจำนวนเงินต้นบ้าง ให้ยืดยาวขึ้น หนี้อาจจะลดลงมา ในส่วนของภาระจะลดให้มีความขีดความสามารถ จะแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว
“รัฐบาลถือว่าทั้งสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประไทย และสมาคมธนาคารไทยเป็นพาร์ทเนอร์กันในการแก้ปัญหา ในส่วนภาครัฐนอกจากจะมีนโยบายแล้วเราก็ต้องแก้ไขเรื่องกฎหมาย ปรับปรุงเชิงโครงสร้าง โดยนายกฯย้ำว่าจะมีการพบกันบ่อยขึ้น บางเรื่องทำได้เลย แต่บางเรื่องต้องมีการเริ่มต้นก่อน เพื่อเดินไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง”นายพิชัย ย้ำ
นายสนั่น กล่าวว่า นายกฯรับปากตั้ง คณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.)ระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชน จะพบกัน 6 เดือนครั้งเพื่อพูดคุยอย่างเป็นทางการ ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากนี้โดยนายพิชัยตอบรับว่าจะกระตุ้นเร็ว และเสนอโครงการคนละครึ่ง Easy Recipe E-Recipe ขณะเดียวกัน อยากให้เร่งทำก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมยินดีพิจารณาร่วมกัน
ส่วนมาตรการที่ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือไม่ให้มีการยึดรถกระบะหรือรถปิกอัพ ที่ขาดส่งค่างวดสำเร็จแล้วเพราะเป็นเครื่องมือทำมาหากิน รัฐบาลรับเรื่องนี้ไปดำเนินการแล้ว จะต้องหารือและได้รับความร่วมมือจากธนาคารและไฟแนนซ์จะมีมาตรการออกมาเรื่องนี้ ใช้เงินไม่มาก แต่ต้องมีการคัดกรองเช่นรถปิกอัพราคา800,000บาทผ่อนไปแล้ว400,000บาท ซึ่งนายกฯก็แซวว่าธนาคารกำไรดี ต้องมาสนับสนุน โดยในการประชุมกกร.วันที่4พ.ย.นี้ จะมีการประกาศมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมทำกันมาตั้งแต่ช่วงที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ แต่มาตรการไม่ยึดรถปิกอัพ อาจจะประกาศไม่ทันวันที่ 4 พ.ย.นี้
ด้านนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทยกล่าวว่าทางสมาคมฯได้เร่งที่จะแก้ไขปัญหาของกลุ่มเปราะบางและหนี้ครัวเรือน ที่อยู่ระหว่างการเร่งสรุปให้เป็นรูปธรรมภายใน1-2 สัปดาห์นี้ จะดูตั้งแต่เรื่องบ้านหลังแรก และรถยนต์ที่ใช้ประกอบอาชีพรวมถึงเอสเอ็มอีรายเล็ก ที่ทำให้เขาขึ้นมาประกอบอาชีพนำไปสู่การมีรายได้ และสร้างความมั่นคงในชีวิต คู่ขนานไปกับการหาแหล่งเงินทุนทั้งจากทางภาครัฐและระบบธนาคารพาณิชย์ไปพร้อมๆ กัน รวมไปถึงความร่วมมือให้มีการดำเนินการในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งเรื่องการเพิ่มรายได้และความสามารถในการแข่งขัน ทั้งหมดเพื่อประคับประคองเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการที่จะออกมา จะมีทั้งลดภาระ ลดดอกเบี้ย ลดเงินต้น เราเจาะจงในเรื่องของภาพรวมและแก้ปัญหาเป็นระบบ จะเป็นจุดตั้งต้นนำสู่การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยจะมุ่งไปที่กลุ่มที่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจริงๆซึ่งจุดที่เราให้ความสำคัญมากคือ ไม่อยากให้แก้ไขปัญหาเป็นแบบเทศกาล แต่อยากให้เสริมไปกับการแก้ไขปัญหาระยะกลางและระยะยาว เพื่อออกจากกับดักรายได้ปานกลาง
นายพิชัย ยังกล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2หากออกมาจริงในช่วงต้นปี 68 จะทำให้จีดีพีตรงตามเป้าหรือไม่ว่าเวลาเรากระตุ้นเศรษฐกิจ เราไม่ได้คิดทีเดียว หรือจะทำอย่างนั้นตลอดไปแต่เราจะดูเรื่อยๆถึงผลได้ ผลเสีย ความเหมาะสม จังหวะ เวลา จึงได้รับข้อคิดเห็นมาว่าจะกระตุ้นแบบไหนแล้วได้ผลที่สุด ประชาชนได้ประโยชน์ที่สุด กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากที่สุด ทั้งนี้ คิดว่าจีดีพีน่าจะโตกว่า 2.4 ที่ได้ตั้งไว้ตอนต้นปี 67 แต่เกิดอุทกภัยทำให้ดึงลงมาบ้าง แต่เมื่อเราเติมเงิน1หมื่น และหลายๆ เรื่องที่เราทำ เชื่อว่าน่าจะดึงกลับขึ้นมาได้ใกล้ๆกับที่เราตั้งไว้ ยังหวังที่จะเห็นอยู่ที่ 2.7 - 2.8
ขณะที่ นายสนั่น กล่าวว่าขณะนี้เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นขึ้นมา ดังนั้นการที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ประชาชนสามารถเอาไปจับจ่ายใช้สอยได้ ดีกับคนค้าขายและโรงงานผลิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี