หวั่นไทยเสียอธิปไตย
จี้รบ.ไม่รับพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูด
กลัวมีไอ้โม่งลักลอบขายชาติ
“หมอวรงค์”จี้รัฐบาล ไม่ยอมรับพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูด ทำไทยเสียอธิปไตยย้ำคนเกาะติดสถานการณ์เพราะรัก หวั่นถูกคนลอบขายชาติ ด้านโฆษกรัฐบาลยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มีแอบคุยปมพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี กล่าวถึงกรณีที่ตนโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้รัฐบาลมีการชี้แจงเรื่องเกาะกูด และการลงนาม MOU 2544 การแบ่งปันผลประโยชน์พื้นที่ทางทะเลอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ตอบเพียงว่าเกาะกูดเป็นของประเทศไทย แล้วตำหนิคนเห็นต่างว่าเป็นคนคลั่งชาติ ว่า ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การคลั่งชาติแต่เป็นเรื่องการรักชาติของประชาชน ประเด็นหลักๆ คือการขายชาติ เพราะหากไปศึกษาในรายละเอียดของ MOU 2544 ศึกษาในทางประวัติศาสตร์จริงๆ แล้ว สิ่งที่ต้องถามคือการลากเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลของกัมพูชา เป็นการลากเส้นแบบไม่ถูกต้อง แล้วรัฐบาลไทยไปยอมรับได้อย่างไร
“และคำถามต่อมาคือ แม้ว่ากัมพูชาจะยอมรับเอกสารแนบท้ายของเอ็มโอยูดังกล่าว ที่ตีเส้นอ้อมเกาะกูดแต่อย่าลืมว่าเกาะกูดมีอธิปไตยทางทะเลเหมือนกัน เหตุใดต้องไปรับเฉพาะเกาะ แล้วไม่ยอมรับเอาพื้นที่ทางทะเล ไปยอมให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนได้อย่างไร และประเด็นการเจรจาจึงอ้างประเทศมาเลเซีย ว่าด้านบนมีการเจรจาเขตแดน ส่วนด้านล่างบางผลประโยชน์ ทั้งๆ ที่ตามหลักการแล้ว ต้องเรจจาเรื่องเขตแดนให้จบ แล้วค่อยมาแบ่งผลประโยชน์ ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่มามาที่พิสูจน์ว่า คุณจงใจเอื้อประโยชน์ให้กับกัมพูชา นี่คือพฤติกรรมกรรมขายชาติอย่างชัดเจน” นพ.วรงค์ กล่าว
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับทีมกฎหมายหลายคน ยืนยันว่า หากรัฐบาลยังคงเดินหน้า แม้ว่าจะได้ผลประโยชน์ร่วมกันมาแล้ว ประเทศไทยก็ยังมีความเสี่ยงสูญเสียดินแดนทางทะเล มีความเป็นไปได้สูงมากที่เหตุการณ์นี้จะซ้ำรอยการสูญเสียเขาประวิหารให้กับกัมพูชา ดังนั้น เรื่องนี้หากไปยอมรับทำเอ็มโอยูแล้ว หากมีการขึ้นสู่ศาลระหว่างประเทศ จะทำให้ไทยเสียเปรียบ เพราะไปทำเอ็มโอยูยอมรับการรุกล้ำทางทะเล และทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อน ดังนั้น รัฐบาลต้องไม่ยอมรับ เพราะมีความเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยเสียพื้นที่ทางทะเล ย้ำว่า เกาะกูดเป็นเพียงเป้าลวง เพราะถ้าดูตามเอกสารแนบท้ายเอ็มโอยู 2544 มีการตีเส้นเว้าโค้ง ทิ้งเกาะกูดเอาไว้ให้ แต่ที่เขาต้องการจริงๆ คือพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งไม่ควรจะให้เกิดขึ้น
ทางด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่ารัฐบาลไทยมีการเจรจาเรื่องแหล่งพลังงาน บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชา ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44-45 ที่ สปป.ลาว เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมว่า ไม่มีการคุยเลย ยืนยันว่าไม่มี ถ้าคุยกันก็ต้องเป็นข่าว จะไปแอบทำไม นักข่าวก็ต้องรายงาน
“หากมีการคุยกันเรื่องระดับนี้ไม่มีการปกปิดข้อมูลกันอยู่แล้ว ส่วนที่มีกระแสออกมานั้นน่าจะมาจากพวกที่ไม่อยากให้ประเทศเดินหน้าได้หรือไม่ โฆษกรัฐบาลยืนยันว่า ไม่มีการคุยเรื่องนี้ล้านเปอร์เซ็นต์” นายจิรายุ ยืนยัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี