‘อี้ แทนคุณ’นำผู้เสียหายลงทุนคอนโดมิเนียม เอี่ยว‘จำนำข้าว’ยื่นหนังสือถึง‘ปธ.สภาฯ’เร่งรัดคืนเงินเกือบ 400 ล้านบาท

30 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมผู้เสียหาย เข้ายื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดให้มีความคืบหน้าคดีที่มีผู้เสียหายจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการจำนําข้าว รวมทั้งหามาตรการในการช่วยเหลือนําทรัพย์ที่ยึดได้เฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย โดยมีนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯ เป็นตัวแทนรับหนังสือ

นายแทนคุณ กล่าวว่า ขอความเป็นธรรมเร่งรัดเรื่องนี้ เนื่องจากมีผู้ร่วมลงทุนในคอนโด แต่ปรากฏว่า วันดีคืนดีกลับถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดไปหมด โดยอ้างว่าเกี่ยวโยงกับโครงการทุจริตจำนำข้าว ยืนยันว่า ผู้เสียหายทั้งหลาย ไม่มีใครไปเอาเงินทุจริตไปใช้จ่าย แต่เป็นเงินโดยสุจริต วันนี้จึงมาขอกราบเรียนต่อท่านประธานสภาฯ เพราะมีโครงการทั้งหมด 5 โครงการ ผู้เช่า 1,000 กว่าราย มูลค่าประมาณเกือบ 400 ล้านบาท ยืดเยื้อมากกว่า 10 ปีแล้ว

นายแทนคุณ เปิดเผยด้วยว่า จะทำหนังสือถึงรัฐบาลด้วย เพื่อขอให้ใช้อำนาจผ่านกลไกการบริหาร ให้คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายโดยเร่งด่วน

“10 ปีแล้ว หลายคนทุกข์ทรมานใจเดือดร้อนสาหัส มีความเครียดหนัก บางคนถึงขนาดมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ต้องเข้าโรงพยาบาล ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต และหนี้สิน ที่เกิดจากการลงทุนด้วยเงินบริสุทธิ์ และจิตบริสุทธิ์ รวมเป็นเงิน 366,939,851 บาท บัดนี้ เงินอยู่ที่ ปปง. เป็นเรื่องที่เราควรจะช่วยกันแก้ปัญหา เพราะการทุจริตคอร์รัปชันเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่ง ไม่อาจปล่อยปละละเว้นได้ แต่การให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานของรัฐ ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการทุจริตโดยโครงสร้างของรัฐหรือไม่ ดังนั้น ช่วยเมตตาหาช่องทางในการคืนเงินให้กับผู้ที่เสียหาย” นายแทนคุณ กล่าว

ด้านตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า 1,000 กว่าชีวิต ที่เราร่วมชะตากรรม และต่อสู้ร่วมกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปี เพื่อที่จะให้ได้เงินของเราที่จ่ายไป หวังว่าจะได้คืนมาโดยเร็ว เราติดตามเรื่องนี้มาตลอด พยายามยื่นทุกวิถีทางเท่าที่ทางกฎหมาย หรือภาครัฐเอื้ออำนวยให้ เพราะฉะนั้น จึงขอความเมตตา โปรดคืนเงินอันบริสุทธิ์ให้กับพวกเรา ผู้เดือดร้อน เพราะเราเป็นประชาชนหาชาวกินค่ำ ดิฉันเอาเงินเกษียณก้อนสุดท้ายของดิฉันมา เพื่อหวังว่าจะมีที่อยู่หลังเกษียณ แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็ล้มไม่เป็นท่า ด้วยความ ประมาทของเราเองก็ว่าได้ เพราะเราไม่ทราบเหมือนกันว่า เจ้าของโครงการคือใคร มีส่วนร่วมในการทุจริตอะไรมาหรือไม่ โปรดเห็นใจพวกเรา โปรดคือเงินอันบริสุทธิ์ของพวกเรามาให้โดยเร็วที่สุด

ขณะที่นายคัมภีร์ กล่าวว่า สิ่งที่ประสบกับพี่น้องชาวไทยของเราเอง อันเนื่องมาจากส่วนราชการ ซึ่งจริงๆ แล้ว เราก็ไม่รู้ว่าการพิจารณาของ ปปง.นั้น เป็นอย่างไร แต่การที่นายทุนนำเงินจากโครงการทุจริตจำนำข้าวมาสร้างคอนโด ซึ่งพี่น้องก็ไม่ทราบว่า ต้นสายปลายเหตุของเงินนั้นมาจากที่ไหน เราจึงเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น เพื่อเป็นการอยู่ในบ้านปลายชีวิต ดังนั้น พี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ ก็ถือว่าจะต้องเยียวยา ซึ่งตนนำไปเรียนให้ประธานสภาฯ รับทราบ และหาทางแก้ไข เพื่อส่งไปยังคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาโดยด่วน

-005