ปัดพัลวันถูกโยงเอี่ยว‘ดิไอคอน’
‘เพื่อไทย’โต้เดือด
‘สรวงศ์’ฉุนขู่ฟ้องกลับพปชร.
‘มนพร’โต้ลั่นพท.ไม่มีเทวดา
‘อิ๊งค์’สั่งสอบพรรคถูกพาดพิง
DSIเล็งเรียก‘โฆษกพปชร.’แจง
“เพื่อไทย”ดาหน้าโต้ “โฆษกพลังประชารัฐ”ปูดชื่อย่อ คน“เพื่อไทย” เอี่ยว เทวดาดิไอคอน “ภูมิธรรม” ท้าเปิดหลักฐานอย่าเดาส่ง หวั่นดราม่า เลขาฯพท.ฉุนไม่ทน ให้ฝ่าย กม.เอาคืนกล่าวหาพรรค จวกยับ เพราะนิสัยแบบนี้เลยทำงานร่วมกันไม่ได้ ‘ดนุพร’งัดผลงานสมัยพรรค เป็นฝ่ายค้านช่วยเหยื่อที่มาร้องเรียนได้เยียวยา โต้พปชร.โยนพรรคอื่นแก้เก้อ ส่วนนายกฯบอกสั้นๆ ‘ตรวจสอบอยู่’ ด้าน’มนพร’ หอบหลักฐาน-จูงพยาน โต้ลั่นหลังมีชื่อเป็นเทวดา ม. ยันทำทุกอย่างตามขั้นตอน กมธ.ไล่ ‘พปชร.ย้อนดูตัวเอง จวกปกติคนไม่ดีมักอ้างคนดี เป็นเกราะกำบังความผิด ขระที่โฆษกพปชร.สวนเดือดไล่‘เพื่อไทย’ปัดกวาดบ้านตัวเอง อย่าเล่นการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสี เล็งฟ้องทนายทำ “ลุงป้อม”เสียหายปม ตั้งนอมินีถือหุ้น
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงข่าวเปิดเผยอักษรย่อชื่อบุคคลในพรรคเพื่อไทย (พท.) มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทวดาคดีบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ปว่า เราอย่าอยู่กับการคาดเดา เพราะถ้าพลาดขึ้นมา จะทำให้คนที่ถูกคาดเดาเสียหาย เราต้องอยู่กับความเป็นจริง กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมพร้อมทำหน้าที่ เอาข้อเท็จจริงมาดู
พท.ท้าเปิดหลักฐานอย่าเดาห่วงดราม่า
ส่วนที่โฆษกพรรคพลังประชารัฐแถลงชื่อตัวย่อ โยงคนในพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรมมองว่า เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่ถ้าจะให้รัฐบาลทำหน้าที่เต็มที่ ส่งหลักฐานมา ไม่ใช่คาดเดา และดูกระบวนการตรวจสอบของเราดี สมบูรณ์แล้วหรือยัง ตนเป็นห่วงดราม่า อย่าให้ดราม่ามากำหนดความเป็นจริง
“สรวงศ์”ไม่ทนให้ฝ่ายกม.เอาผิด
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าวว่า ผิดหวังกับการแถลงข่าวของโฆษก พปชร.ที่ระบุมีคนของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวข้องคดีดิไอคอน ผิดหวังที่อดีตข้าราชการระดับสูงมารับตำแหน่งโฆษกพรรคการเมืองแล้วให้สัมภาษณ์โจมตีพรรคการเมืองอื่น ทั้งนี้ เรื่องที่เขาพูดถึง เป็นการทำงานในคณะกรรมาธิการที่เป็นอดีตทั้งหมด ไม่ควรเอาชื่อพรรคการเมืองมาข้องเกี่ยวด้วย
“ที่เขาไม่กล้าเอ่ยชื่อบุคคล เพราะกลัวถูกฟ้อง แต่มาเน้นชื่อพรรคเพื่อไทยที่เป็นองค์กร แบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง และขออย่าตีกินทางการเมืองเช่นนี้ เราจะไม่ยอมแล้ว เพราะทนมาหลายครั้งกับการเอ่ยชื่อพรรคเช่นนี้ ขนาดพรรคเขา ผมยังไม่อยากเอ่ยถึง เพราะมองว่าพรรคการเมืองเป็นองค์กร เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป อีกทั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นก็เกิดในสมัยที่พรรคเขาเป็นรัฐบาล ชื่อที่อ้างมาก็เคยอยู่ในพรรคเขาทั้งสิ้น จะมาโยนว่าตอนนี้อยู่พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยเกี่ยวอะไร” นายสรวงศ์กล่าว และว่า จะให้ฝ่ายกฎหมายตั้งคณะกรรมการเพื่อเอาผิดแน่นอน เพราะถือเป็นการกล่าวหาพรรคการเมืองว่ามีส่วนร่วม และขอพูดตรงๆว่าการกระทำแบบนี้ เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนว่าด้วยนิสัยแบบนี้ เราจึงร่วมงานกันไม่ได้
โฆษกพท.งัดข้อมูลปี66โต้ยิบ
ขณะที่นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่โฆษก พปชร.โยงประธานกรรมาธิการ (กมธ.)การคุ้มครองผู้บริโภค ของพรรคเพื่อไทย เพิกเฉยกรณีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบริษัท ดิไอคอนปีที่ผ่านมาว่า ที่โฆษก พปชร.อ้างถึงเกิดขึ้นปี 2566 ก่อนพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียหาย เป็นข้าราชการเกษียณจาก จ.ชลบุรี ร้องเรียนหน่วยงานหลายแห่ง แต่ไม่มีหน่วยงานใดรับ เมื่อเรื่องมาถึงสภาผู้แทนราษฎร กมธ.คุ้มครองผู้บริโภคส่งเรื่องให้คณะอนุ กมธ.ศึกษากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนและสภาพปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ในกมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินการต่อ โดยเรียกผู้แทนจาก สคบ. และบริษัท ดิ ไอคอน เข้ามาสืบค้นความจริง ชี้แจงและไกล่เกลี่ย จนท้ายที่สุด บริษัท ดิ ไอคอนได้จ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายไม่ประสงค์ดำเนินคดี มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรีเป็นหลักฐาน และการประชุมของอนุ กมธ.กลั่นกรองฯมีบันทึกข้อยุตินี้ไว้ แสดงว่าพรรคเพื่อไทยในฐานะกรรมาธิการและอนุฯ กลั่นกรองฯขณะนั้น ใช้อำนาจที่มีของ กมธ.สอบตรวจสอบไกล่เกลี่ย ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทวงคืนความเสียหายให้ประชาชนได้
เย้ยกลับพปชร.แค่แถลงแก้เก้อ
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า ขณะนี้คดีของดิไอคอนรัฐบาลเดินหน้เต็มที่ทุกฝ่าย นายกฯสั่งให้เร่งแก้ปัญหา ระยะเวลา 1 ปี รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน ขณะที่ 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลที่นำโดยพรรคพปชร.แก้ปัญหาดังกล่าวคืบหน้าหรือไม่ ทั้งที่บริษัทดังกล่าวดำเนินกิจการตั้งช่วงโควิดระบาด ปี 2562 เป็นช่วงที่พปชร.เป็นแกนนำรัฐบาล ดังนั้น โฆษก พปชร.ควรทบทวนตัวเองก่อนพาดพิงผู้อื่น
“การกล่าวหาของโฆษก พปชร.เป็นแค่การแก้เก้อ พยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจของสังคม จากการที่คนในพรรค พปชร.มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ คดีเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดำเนินมากี่ปี จนปัญหาปะทุขึ้นในตอนนี้ ตอนที่เราเป็นฝ่ายค้านเราทำเต็มที่ใช้ทุกช่องทางที่มีช่วยประชาชน เมื่อเป็นรัฐบาล ผมเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเองก็ทำเต็มที่เหมือนกัน” นายดนุพร กล่าว
“มนพร”หอบหลักฐานผลงานโต้
ส่วนนางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์หลังมีกระแสข่าวพาดพิงว่าเป็นเทวดาอักษรย่อ ม. ในกรรมาธิการ (กมธ.) คุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรสมัยที่ผ่านมา และเกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอน ซึ่งนางมนพรพานายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ซึ่งเป็นกรรมาธิการขณะนั้นและปัจจุบัน มาร่วมสัมภาษณ์ ยืนยันข้อเท็จจริง พร้อมนำเอกสารแจ้งผลดำเนินการไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายมาให้ผู้สื่อข่าวมาดูด้วย
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าว มีสาระสำคัญว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 กมธ.คุ้มครองผู้บริโภคฯตั้งคณะอนุ กมธ.มีนางมนพรเป็นประธานหารือเรื่องร้องทุกข์จากหญิงคนหนึ่งที่ร้องเรียนว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ชักชวนให้สมัครสมาชิกและซื้อสินค้า เป็นยาสีฟัน 211,115 บาท แต่กลับได้ยาสีฟันเพียงแค่ 50 หลอด ผลดำเนินการของอนุ กมธ.พบว่าส่งเรื่องให้สำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ไกล่เกลี่ย และทั้งคู่เจรจากันได้ โดยบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป คืนเงินทั้งหมด
ยอมรับอักษรย่อ “ม.”คือตัวเอง
โดยนางมนพรกล่าวต่อว่า ตัวย่อ ม. สองตัวนั้น ม. ตัวแรกคงหมายถึง นายมานะ โลหะวณิชย์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย จ.ชัยภูมิ และ ม. ตัวที่สองคือ นางมนพร หรือตัวเอง ยืนยันว่า กมธ.ขณะนั้นดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีการดอง หรือพยายามให้จบเรื่อง เมื่อประชาชนเดือดร้อนต้องการเงินคืน เราก็เร่งเอาเงินคืนให้ผู้ร้อง ซึ่งเราได้ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 เดือนหลังรับเรื่อง ทั้งนี้ ในฐานะเป็นสส.ของพรรคเพื่อไทยมองว่า คนที่ให้ข่าว เขายังไม่เข้าใจระบบ เพราะอำนาจของ กมธ.ไม่ใช่การเอาถูกหรือผิด ตอนนั้นตนเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลด้วยซ้ำ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องไปสืบค้นต่อว่า บริษัทนี้ มีลักษณะฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องไปตรวจสอบว่า สินค้ามีคุณภาพหรือไม่อย่างไร อยากตั้งข้อสังเกตว่า ขณะที่เขาเป็นพรรครัฐบาล ทำไมจึงปล่อยให้ปัญหาเกิดขึ้นเรื้อรัง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอยู่อย่างนี้
ลั่นพท.ไม่มีเทวดา-ปัดแซมเป็นสมาชิกพรรค
ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแซม ซึ่งเคยเป็นผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย นางมนพร กล่าวว่า นายยุรนันท์ออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยนานแล้ว ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่วนการทำธุรกิจส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพรรคเพื่อไทย มีเทวดาหรือไม่ นางมนพรกล่าวว่า ไม่มี มีแต่สส. และผู้บริหาร ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน อย่างไรก็ตาม คงไม่ดำเนินคดีกับ พปชร.เพราะนักการเมืองจะไม่หาเรื่องกับประชาชน ส่วนตัว ตนไม่รู้จักกับบอสสักคน แต่อยากขอให้พปชร.ไปดูเทวดาในพรรคของตัวเอง
ขณะที่นายประเสริฐพงษ์ กล่าวเสริมว่า การที่มีข่าวออกมาเช่นนี้ ตนคิดว่าไม่ให้ความเป็นธรรม สำหรับนายมานะ และนางมนพร เพราะตอนนั้นเราทำงานกันตรงไปตรงมาจนได้ข้อยุติ แต่หากรัฐบาลใส่ใจตั้งแต่ตอนนั้นว่า มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และดูแลเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีก เรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น รวมถึงต้องไปดูในกระบวนการที่บกพร่อง ว่าเกิดจากอะไร เป็นความบกพร่องใน สคบ. หรือไม่
ปธ.กมธ.ปปง.โต้ไม่มีสาระ-ยันพท.ไม่เกี่ยว
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะเป็นประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สภาฯ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่กมธ.คณะนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ดิ ไอคอน ไม่มีแม้กระทั่งของสภาฯ ชุดที่แล้ว สบายใจได้ว่าเรามีความบริสุทธิ์ใจในการตรวจสอบเรื่องนี้เต็มที่ ส่วนอักษรย่อก็คงต้องตรวจสอบ และหาให้ได้ว่าชื่อจริงคือใคร หากเชื่อมโยงอาจเชิญมาชี้แจง
ผู้สื่อข่าวถามว่าบุคคลที่ถูกระบุในอักษรย่อดังกล่าว เคยเป็นประธานกรรมาธิการฯ ของสภาฯ ชุดที่แล้ว นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ของกมธ.ปปง.แต่อาจเป็นคณะอื่นหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าไม่มีสาระ เพราะ กมธ.ที่เกี่ยวข้องในอดีตเรื่องนี้ที่ผ่านมา ก็มีแค่ กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค และ กมธ.ปปง.แต่ กมธ.ก็ไม่ได้มีเหตุให้ตรวจสอบทุกเรื่อง ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มองว่าเป็นมารยาทของพรรคการเมือง
ควรแก้ปัญหาของตนให้เรียบร้อย ไม่ใช่มาโยนพาดพิงพรรคอื่น ตนคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสม ต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาดีๆ เรื่องนี้โดยตรงไปเกี่ยวข้องกับบุคคลในพรรคการเมืองที่อาจพูดถึง
“สส.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน ตามที่ข้อกล่าวอ้างของพรรคการเมืองบางพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในกมธ.ไม่เกี่ยวแน่นอน แต่คนที่ไม่ใช่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วเอาตำแหน่งใน กมธ.ที่ได้รับแต่งตั้งไปใช้ประโยชน์ไปหากิน อันนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ถ้าอยู่ในพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองนั้นต้องดูแลและจัดการให้เรียบร้อย” นายเลิศศักดิ์ กล่าว
‘อิ๊งค์’ตอบสั้นๆ“ตรวจสอบอยู่”
มีความเห็นของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุมีคนของพรรคเพื่อไทย เกี่ยวข้องกับดิไอคอน ว่า พรรคตรวจสอบอยู่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคจะชี้แจงอย่างไร น.ส.แพทองธาร หันมายิ้มกับสื่อพร้อมระบุว่า ตรวจสอบอยู่
โฆษกพปชร.สวนพท.หนีไม่ได้
ทางด้านพล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกมาตอบโต้หลังตนเองแถลงข่าวโยงกรณี ดิไอคอน กรุ๊ป กับพรรคเพื่อไทยว่า เราไม่ได้กล่าวหา แต่อยากให้ไปดูเรื่องความเชื่อมโยง เช่น บอสแซม ก็เป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย อันนี้ชัดเจน และบอส ก.ก็เคยเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะหนีเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วจะมาบอกว่า นาย ส.จะไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตร หรือพรรคเพื่อไทยไม่ได้ เพราะเคยถูกตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร อันนี้มีหลักฐานชัดเจน
เล็งฟ้องทนายกล่าวหาลุงป้อมเสียหาย
“ส่วนที่มีทนายออกมากล่าวหาหัวหน้าพรรคของเรา โยงเงิน 31 ล้านบาท และพยายามโยงว่า การถือหุ้น 21% เป็นทุนจีนสีเทา แต่ก็ปรากฏชัดออกมาแล้ว และอีกไม่กี่วันตำรวจ คงจะเปิดเผย และที่เรารู้กันดีคือ 21% ที่ถือหุ้นบอสพอลคือแม่ของบอสพอล ไม่ใช่นอมินี ไม่ใช่ทุนจีน แต่มีความพยายามโยง เพื่อให้ประชาชนไขว้เขว เรื่องนี้อาจต้องดำเนินการทางกฎหมายอีกครั้ง”พล.ต.ท.ปิยะกล่าว
ดอกอย่าเล่นการเมืองแบบเก่าใส่ร้ายป้ายสี
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยควรแถลงข่าวชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า คงไม่ต้องชี้แจง เพราะสื่อมวลชนและประชาชนทราบดีอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องพยายามทำคือ ปัดกวาดบ้านตัวเองดีกว่า ปัดกวาดคนไม่ดี คนมีพฤติกรรมไม่ดีออกไป การเมืองจะได้ใสสะอาดขึ้น อย่าเล่นการเมืองแบบเก่าๆ หรือการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสีกันเลย เรามาช่วยกันพัฒนาประเทศดีกว่า
คำร้องฟันสส.เอี่ยวอิไอคอนยังไม่ถึงมือ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้ประธานสภาฯ ตรวจสอบนักการเมืองที่อยู่ในฝั่งพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนว่า ถ้ามีหนังสือมาให้ตนรับทราบ ตนจะพิจารณาดำเนินการตามกฏหมายและข้อบังคับ แต่ถ้าเป็นข่าวทั่วไปโดยที่ตนไม่ได้รับเรื่องเป็นทางการ แถลงไปคงไม่ดี เพราะตนต้องเป็นกลางทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีคำถามว่าประธานจะกล้าตรวจสอบหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องกล้าหรือไม่กล้า เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ตนพร้อมทำหน้าที่ มีกฎหมายต้องปฏิบัติตามกฎหมาย มีข้อบังคับก็ต้องปฏิบัติตาม ตนเคร่งครัดแล้วกรรมาธิการทั้งหลายหรือบุคคลทั้งหลาย ที่จะมาใช้สภาหากประโยชน์ใดๆ เราต้องดำเนินการเด็ดขาด
ขึงขังขจัดเหลือบสังคมอาศัยสภาหากิน
นายวันมูหะมัดนอร์ยังกล่าวถึงนักการเมือง ส. ที่ปรากฏในคลิปเสียงก่อนหน้านี้ว่า ตนอยากใช้คำที่ประชาชนเข้าใจง่ายว่า ไอ้พวกเหลือบสังคมทั้งหลาย ที่มาอาศัยหากินในนี้ เราต้องขจัดให้หมด เพราะประชาชนเอือมระอา ประธาน กมธ.ทั้งหลายก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะไปแต่งตั้งบุคคลใด แล้วบุคคลนั้นทำความเสียหายต่อสภาฯ ประธานกรรมาธิการทุก รวมทั้งเลขาสภา ผู้ที่แต่งตั้งต้องรับผิดชอบ กฎหมายอย่างเดียวอาจจะก้าวไปไม่ถึง แต่ประมวลจริยธรรม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดมาให้สภาต้องปฏิบัติ อันนั้นถึงแน่นอน ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าผิดร้ายแรงตัว คนตั้งก็ผิดร้ายแรงด้วย ตนอยากให้สถาบันนี้เป็นที่ไว้ใจของประชาชน ไม่ทำอะไรที่เสื่อมเสียแอบอ้าง จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายว่าต้องรับผิดชอบด้วย ถ้าไม่แต่งตั้ง คนก็มาไม่ได้ ทั้งนี้ ถ้าเกิดความเสียหายแล้วมีคนร้องก็ดำเนินการได้ แต่ประมวลจริยธรรมใช้ได้กับคนที่อยู่ปัจจุบัน ไม่ย้อนหลัง เพราะไม่ใช่กฎหมาย
แม่ข่ายกว่า100คนจ่อถอนแจ้งความ
วันเดียวกัน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เปิดเผยว่า ตนรู้มาว่า มีกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มใหญ่กว่า 100 คน ที่เคยไปแจ้งความที่กองปราบฯก่อนหน้านี้เตรียมถอนแจ้งความ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ซื้อสินค้าไปและขายต่อไม่ได้ ไม่ใช่ถูกหลอก และรู้มาว่าคนกลุ่มนี้ได้ไปปรึกษาทนายและมีคนอื่นได้รับคำแนะนำเรื่องการแจ้งความว่า ถ้าไม่มาแจ้งความจะกลายเป็นผู้ทำผิดไปด้วย ทุกคนเลยแห่มาแจ้งความกัน เลยทำให้มียอดผู้เสียหายสูงมากกว่า 9,000 คน ซึ่งตนยอมรับว่าที่ออกมาให้ข่าวทุกวันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แม่ทีมกลุ่มนี้มาถอนแจ้งความด้วย นอกจากนี้ ยังมีคนที่ชื่อ ฟ้าใส ได้รวบรวมกลุ่มผู้เสียหายและแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ เพื่อให้บริษัทฯเข้าข่ายทำผิด ตอนนี้ฟ้าใสก็คือ 1 ในออเดอร์ที่จะดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี