‘จตุพร’ฉะยับรัฐบาล

เร่งดันบ่อนกาสิโน

แหล่งฟอกเงินใหม่

ทำลายอนาคตชาติ

“จตุพร”อัด รัฐบาลเพื่อไทย แยบยล คิดใหญ่เร่งดันบ่อน “กาสิโน” รองรับนายทุนพนันย้ายฐานจากมาเก๊าเข้ามาไทย ฉุดเมืองพุทธกลายเป็นแหล่งฟอกเงิน เทียบชั้นเกาะเคย์แมน เตือนหายนะเชื่อมโยงพนันออนไลน์มอมเมาเยาวชนของชาติ-ทำลายบ้านเมือง เชื่อจะถูกประชาชนขวาง วอนพรรคร่วมฯ ต่อต้าน

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ ย้ำถึงรัฐบาลเพื่อไทย เร่งรีบตั้งบ่อนกาสิโน 8-10 แห่งในไทย ว่าส่วนสำคัญเพราะมีความคิดต้องการรองรับการย้ายฐานบ่อนพนันจากเขตบริหารพิเศษมาเก๊า มาตั้งฐานการพนันในไทย เนื่องจากรัฐบาลจีน มีนโยบายลดบ่อนกาสิโน ลงมา พรรคเพื่อไทย เร่งผลักดันให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติออกกฎหมายตั้งบ่อนกาสิโน ในไทย พร้อมตั้งเป้าสภาฯ ผ่านกฎหมายนี้ภายในสมัยประชุมแรกปี 2568 หรืออย่างช้ากฎหมายต้องสำเร็จในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ในอนาคตไทยอาจเป็นประเทศฟอกเงินแห่งใหม่ ไม่แตกต่างจากเกาะเคย์แมน ดินแดนของคนรวยหนีภาษีและฟอกเงิน สิ่งสำคัญผลประโยชน์มหาศาลจากบ่อนกาสิโนได้ซ่อนการหารายได้จากการพนันออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งขณะนี้เว็บพนันออนไลน์ในไทยเชื่อมกับบ่อนต่างประเทศมีมากกว่า 7 แสนเว็บ โดยรัฐบาลไม่ได้ปราบปรามอย่างจริงจัง ทำเป็นปากว่าตาขยิบ เพียงทำท่าจะปราบ แต่ปล่อยปละละเลย เพราะการพนันออนไลน์เป็นแหล่งสร้างผลประโยชน์มหึมาให้เจ้ามือที่เป็นเจ้าของบ่อนกาสิโน นั่นเอง

“การสร้างบ่อนจำนวนมากขนาดนี้ คุณคิดอะไรอยู่ ขณะที่ไทยไม่มีบ่อน แต่ประเทศข้างเคียงมีบ่อน การท่องเที่ยวเรากลับดีที่สุด ดังนั้นการกล่าวอ้างว่าจะมีคนต่างชาติ มาท่องเที่ยวเพิ่ม 20% ถามว่าเขามาไทยเพื่อเล่นการพนันหรือเปล่า ถ้ามาเล่นพนันไปประเทศข้างบ้านซึ่งมีเต็มไปหมดไม่ดีกว่าเหรอ และนักท่องเที่ยวไม่ได้เป็นดัชนีชี้วัด ว่าคนมาท่องเที่ยวเรียกร้องหาบ่อนการพนัน เพียงแต่นักการเมืองหรือผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว มองเห็นผลประโยชน์ทางการเมือง จึงมีอาการเร่งรีบเกิดขึ้น” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า การตั้งบ่อนยังมีสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยราคาความเสียหายของประเทศที่สุดจะประเมินได้ เยาวชนจะถูกมอมเมาในการพนัน ซึ่งไทยควบคุมไม่ได้ หรืออาจจะเจตนาไม่ควบคุมเสียด้วย เมื่อเยาวชนเสียการพนัน ย่อมส่งผลร้ายกลายเป็นภัยต่อสังคมตามมา ทั้งการซื้อขายเสพยาเสพติด จะระบาดไปทั่ว หรือยอมขายเรือนร่างตัวเองหาเงินไปเล่นการพนัน ดังนั้นประเทศแทบจะหาอนาคตไม่เจอ

“ผู้บริหารประเทศต้องสร้างเบ้าหลอมที่ดีให้เยาวชนของชาติ ถ้ารีบเร่งตั้งบ่อนแล้ว เยาวชนเสมือนฐานรากสร้างอนาคตประเทศย่อมถูกทำลาย เพราะบ่อนทำให้เกิดการพนันออนไลน์ตามมา แต่รัฐบาลยังควบคุมไม่ได้ ดังนั้นสังคมที่จะเกิดจากเบ้าหลอมที่ดีจึงส่อพังทลายลง ส่วนการนำรายได้เข้าประเทศนั้น การตั้งบ่อนคาสิโนแต่ละแห่งมีการลงทุนเป็นแสนล้านบาท แต่จ่ายผลประโยชน์ให้ประเทศเพียงแห่งละ 3.5 หมื่นล้านบาทต่ออายุสัญญา 30 ปี หรือคิดเป็นปีละพันล้านบาทเศษเท่านั้น ถ้าเปรียบเทียบกับรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว แต่ละปีมีมากถึง 1.8 ล้านล้านบาท หากผลักดันกันเต็มที่จะทำรายได้เข้าประเทศได้มากถึง 3.3 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งแตกต่างกันมากกับการตั้งบ่อน 8 แห่ง ตลอด 30 ปี รัฐได้ผลประโยชน์เพียง 2.8 แสนล้านบาทหรือปีละกว่า 9 พันล้านบาท ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องหารายได้จากการตั้งบ่อนเลย” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร ตั้งคำถามว่าในด้านสังคม วัฒนธรรมไทย การคิดอ่านตั้งบ่อนกาสิโนแบบนี้ ถ้าพ่อ แม่ รู้ว่าลูกอยู่ในบ่อน จะมีความรู้สึกอย่างไร รัฐยังควบคุมการพนันออนไลน์ไม่ได้ เพราะเยาวชนไทยส่วนใหญ่มีโทรศัพท์มือถือ เมื่อมีบ่อนกาสิโน แล้ว บ้านเมืองในอนาคตจะอยู่ในสภาพอย่างไร ทั้งที่การพนันอื่นๆ ยังแก้ไม่ได้ และบ่อนทั่วไปก็ยังเปิดให้เล่นกันตามปกติ บ่อนกาสิโน มาพร้อมกับความหายนะของชาติ เพราะจะเป็นเจ้ามือให้กับการพนันออนไลน์ เราเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมงดงามดีอยู่แล้ว แต่จะถูกละเลง แล้วพวกละเลงไม่รู้ว่าจะอยู่ในไทยหรือเปล่า มีเรื่องก็หนีคดี

นายจตุพร กล่าวว่า สังคมไทยทุกวันนี้เต็มไปด้วยการหลอกกัน เพราะประเทศเต็มไปด้วยธุรกิจแชร์ลูกโซ่ พวกคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ส่วนวงการทนายความแทบจะซุกหน้าหนี ดังนั้นแต่ละขบวนการล้วนหลอกกันเป็นทอดๆ วันนี้ผู้นำประเทศ คิดเร่งตั้งบ่อนกาสิโน ยิ่งฉุดพาบ้านเมืองเดินไปสู่จุดที่หาความดีงามไม่เจอ หวังว่ากรณีเร่งตั้งบ่อนกาสิโน ในไทย รัฐบาลเพื่อไทย และตัวการทุกคน จะต้องพ้นจากอำนาจรัฐบาลไปก่อนที่จะเกิดหายนะขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงที่สุดบ่อนกาสิโน ก็หนีไม่พ้นถูกประชาชนขัดขวาง ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลใจแข็ง ไม่เปลี่ยนใจไปสนับสนุนบ่อนกาสิโนของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพื่อปกป้องเยาวชนของชาติไว้ไม่ให้ถูกมอมเมาจากการพนันออนไลน์ที่รัฐยังคุมไม่ได้