"ไพบูลย์"แย้ง"ชูศักดิ์" ใช้คำวินิจฉัยส่วนตน 6 ตุลาการศาลรธน. อ้างทําประชามติ 2 ครั้งไม่ได้ ระบุต้องยึดคําวิฉัยกลาง เพราะ รธน.กำหนดให้มีผลผูกพันทุกองค์กร เชื่อสภาไม่กล้าบรรจุร่างแก้ไข รธน.เข้าวาระเหมือนเดิม
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอแนวทางเร่งรัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจลดการทําประชามติเหลือ 2 ครั้ง เพราะคำวินิจฉัยส่วนตนของศาลรัฐธรรมนูญ มี 6 เสียง ที่บอกว่าเพียงพอแล้ว ว่า การไปนำคำวินิจฉัยส่วนตนมาใช้พิจารณาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ น่าจะไม่ถูกต้อง เพราะตามรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าให้มีผลผูกพันทุกองค์กร ซึ่งศาลได้วินิจฉัยไว้ชัดเจนแล้วว่า ก่อนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน ดังนั้น มองว่าการจะใช้เรื่องนี้เพื่อทำประชามติ 2 ครั้ง จึงไม่ถูกต้อง หากดําเนินการไป ก็จะมีปัญหาเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรค พท.ยืนยันจะใช้แนวทางดังกล่าว จะขัดต่อข้อกฎหมายใดหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เชื่อว่าสภาจะไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนเดิม เพราะครั้งก่อนประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ฝ่ายกฎหมายของสภาพิจารณา ซึ่งเขาไม่กล้าบรรจุเป็นวาระ เพราะถือว่าเป็นญัตติที่ไม่ชอบ ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามยํ้าว่า นอกจากการทำประชามติ 3 ครั้งแล้ว มีทางอื่นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ต้องแก้ไขรายมาตราเท่านั้น ถึงจะไม่ต้องทำประชามติก่อน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี