"สส.จิรัฏฐ์"พรรค ปชน.สู้คดีปลอมใบ สด.43 อัยการนำพยานเอกสารและแฟลชไดฟ์สืบมัด ส่วน"สส.จิรัฏฐ์"นำพยานสืบหักล้าง 4 ปาก ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก 17 ตุลาคม ปีหน้า
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีปลอมแปลงใบ สด.43 หมายเลขดำ อทย.155/2567 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ อายุ 36 ปี สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 พรรคประชาชน (ปชน.) (พรรคก้าวไกลเดิม) เป็นจำเลย ในความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
โดยอัยการโจทก์ ระบุฟ้องความผิดสรุปความว่า เมื่อระหว่างประมาณต้นเดือนมกราคม 2567 วันเวลาใดไม่ปรากฎชัด ถึงวันที่ 25 มกราคม 2567 เวลากลางวัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้บังอาจทำปลอมใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (แบบ สด.43) อันเป็นเอกสารราชการของกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายขึ้นทั้งฉบับ โดยจำเลยเขียนข้อความลงในแผ่นกระดาษ ซึ่งมีลักษณะเหมือนแบบฟอร์มใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (แบบ สด.43) ให้ปรากฏข้อความเท็จ ในช่อง ฉบับที่ ว่า “352” ในช่องใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ พ.ศ.ว่า “2555” ในช่อง 1.1 ชื่อว่า “จิรัฏฐ์” ในช่องชื่อสกุลว่า “ทองสุวรรณ์” และในช่อง 2.4 ผลการจับสลากว่า “ดำ” เพื่อให้เอกสารดังกล่าวปรากฏความหมายว่า จำเลยเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการในปี พ.ศ.2555 และได้รับผลการจับสลากเป็นใบดำ โดยจำเลยได้กระทำเพื่อให้บุคคลอื่นที่พบเห็นเอกสารราชการที่ทำปลอมขึ้นดังกล่าวหลงเชื่อว่าเป็นใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (แบบ สด.43) ที่แท้จริงที่กองทัพบกได้ทำขึ้น ซึ่งความจริงแล้วในปี พ.ศ.2555 จำเลยไม่ได้ไปเข้ารับตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการในปีดังกล่าวและไม่ได้รับผลการจับสลากเป็นใบดำแต่อย่างใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่กองทัพบก ผู้อื่น หรือประชาชน
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 ภายหลังจากที่จำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องแล้ว จำเลยได้นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยนำใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (แบบ สด.43) ซึ่งเป็นเอกสารราชการที่จำเลยทำปลอมขึ้นตไปใช้อ้างแสดงเป็นหลักฐานทางช่องมติชน tv ในรายการ The Politics ที่เผยแพร่โดยการถ่ายทอดสด และบันทึกภาพและเสียงย้อนหลังเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูป (Youtube) อันเป็นระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงและพบเห็นได้ เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า จำเลยเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการในปี พ.ศ.2555 และได้รับผลการจับสลากเป็นใบดำ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่กองทัพบก ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นการโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่กองทัพบก ผู้อื่น หรือประชาชน
เหตุตามฟ้อง เกิดที่ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยและทำการสอบสวนแล้ว
ชั้นสอบสวน และชั้นพิจารณาของศาล จำเลยให้การปฏิเสธโดยตลอด
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268, 91 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา 4 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 8 โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
คดีนี้ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบถาม ปรากฏว่า จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว
นัดตรวจพยานหลักฐานวันนี้ทั้งสองฝ่าย อัยการโจทก์และจำเลยเดินทางมาศาล
โดยอัยการโจทก์เสนอพยานเอกสารต่อศาล 14 ฉบับ และอ้างส่งวัตถุพยานคือสื่อบันทึกข้อมูล (แฟลชไดรฟ์) 1 อัน เข้าสืบพยาน ใช้เวลา 1 นัดครึ่ง ขณะที่ นายจิรัฏฐ์ จำเลย ทนายจำเลย นำพยานเข้าสืบหักล้าง จำนวน 4 ปาก ใช้เวลา 1 นัด
ศาลจึงนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก วันที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น.
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี