‘จตุพร’ถล่มยับ‘แม้ว’ป่วยทิพย์
รพ.ชน14พ่นพิษ
จับพิรุธ‘ตร.-กรมราชทัณฑ์’
ไม่ส่งเวชระเบียน-ภาพถ่าย
‘เสรีพิศุทธ์’แฉนักโทษวิกฤต
ใส่ขาสั้น-เสื้อเชิ้ต/มีเด็กรับใช
“ชั้น 14” พ่นพิษ “จตุพร” จับพิรุธ“รพ.ตำรวจ-ราชทัณฑ์”ไม่ส่งเวชระเบียน“ทักษิณ”และภาพถ่าย ส่อไม่มีจริงเตือนเจ้าหน้าที่ลาภมิควรได้แลกกับชีวิตราชการคุ้มกันหรือไม่ จ่อรับกรรมบั้นปลายชีวิต “เสรีพิศุทธ์”ชนหนักเล่าสภาพนักโทษวิกฤต ใส่กางเกงขาสั้น-เสื้อเชิ้ต มีเด็กรับใช้ คอยบริการเสิร์ฟ ใช้ห้องคนป่วยพิเศษรับแขก ด้าน‘เทพไท’ฟันเปรี้ยง เชื่อมีการทำหนังสือช่วย‘ทักษิณ’เตรียมไว้ล่วงหน้า
เมื่อวันที่ 6พฤศจิกายน2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เกาะติดการประชุมของศาล รธน.วันพุธที่ 6พ.ย.นี้ จะรับพิจารณาคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร หรือไม่ แต่แนวโน้มค่อนข้างเชื่อว่า จะรับไว้พิจารณา หรือถ้ากระบวนการยังไม่พร้อม คงเลื่อนไปเป็นสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตาม คำร้องของ นายธีรยุทธ ยื่นไป 6ประเด็น ที่สาหัสหนักหนาอยู่ที่ ทักษิณ ชินวัตร อ้างป่วยพักรักษาอยู่ชั้น14รพ.ตำรวจ แต่ไม่ยอมติดคุกสักวัน กรณีชั้น14 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ให้สัมภาษณ์สื่อ เล่าถึงวันไปพบทักษิณ ที่ รพ.ตำรวจ ทักษิณ ไม่ได้แต่งตัวในชุดคนป่วย แต่ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น ไม่มีอุปกรณ์การแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีคนติดตามมารับใช้ คอยเสิร์ฟข้าวเหนียวมะม่วง รอถามเพิ่มน้ำส้มคั้นด้วยหรือไม่ สิ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่ เพราะนักโทษอยู่ รพ.ตำรวจ ต้องป่วยวิกฤต อาการหนักเกินกว่า รพ.ราชทัณฑ์จะรักษาได้ แต่สภาพที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บรรยายมา ทักษิณ ไม่ได้ป่วย กลับใช้ รพ.ตำรวจ เป็นที่รับแขก
‘ตู่’ชี้ไม่แจงเวชระเบียน’แม้ว’ส่อพิรุธ
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การส่งเวชระเบียนผู้ป่วยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เป็นเรื่องง่ายของ รพ.ตำรวจ แต่กลับบอกเป็นความลับ ทั้งที่ไม่ได้นำมาเผยแพร่ เพราะต้องการใช้เป็นหลักฐานสอบสวนดำเนินคดีในชั้นการตรวจสอบของ ปปช. ที่มีคำร้องจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยื่นร้องเรียนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเอื้อประโยชน์ให้นักโทษไม่ได้ป่วยวิกฤตมาพักห้องพิเศษ ชั้น 14นานถึง181วัน แล้วได้พักโทษ ไม่ยอมติดคุกที่เหลือ 1 ปีสักวันและคืนเลย ดังนั้นการขอเวชระเบียนรักษาทักษิณ จึงเป็นคนละเรื่องกับการเผยแพร่ความลับของผู้ป่วย เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเกิดความสงสัยว่า รพ.ตำรวจ ได้รักษาและบันทึกเวชระเบียนของทักษิณหรือไม่ เนื่องจากแสดงพฤติกรรมปกปิดเป็นความลับ ถึงขนาดยอมติดคุก อย่างไรก็ตาม จะอ้างเหตุอะไรก็ตาม แต่อย่าไปแบกไว้ มันเป็นของร้อน
มีชื่อเข้าเยี่ยมระวังช่วยปกปิดส่อคุก
นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อ 10ผู้มีสิทธิเข้าเยี่ยมได้ ซึ่งในนั้นมีนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร อยู่ด้วย ถ้าผลสอบออกมาว่า ทักษิณ ไม่ได้ป่วยจริง คนเหล่านี้ต้องเจอข้อหาร่วมกันปกปิดเพื่อไม่ให้นักโทษได้รับโทษติดคุกที่เหลือ 1ปี เรื่องเวชระเบียนเมื่อไม่ส่งให้ ปปช. ย่อมเท่ากับยอมรับว่า ไม่มี อีกอย่างห้องผู้ป่วยวิกฤตนั้น นอกจากพยาบาลแล้ว คนภายนอกจะเข้าไม่ได้ แต่มีคนมาเสิร์ฟน้ำส้ม ข้าวเหนียวมะม่วง สิ่งนี้มีได้ด้วยหรือ “ขอเตือนเจ้าหน้าที่ รพ.ตำรวจและราชทัณฑ์ ให้ไปดูตัวอย่างข้าราชการสูงระดับอธิบดี รองอธิบดี หรือผู้อำนวยการของกระทรวงพาณิชย์และก.คลัง ซึ่งบัดนี้ยังติดคุกอยู่ ส่วนอดีตองค์การโทรศัพท์ที่ติดคุกได้พ้นโทษออกมาเมื่อวัย 80ปี ดังนั้นการเอาชีวิตราชการมาแลกกับลาภไม่ควรได้ จึงต้องชดใช้กันในเรือนจำ แล้วถามว่า มีใครมาดูแลหรือไม่ โดยมี อดีต รมต.บางคนติดคุก ยังกู้เงินมาประกันตัวเองเลย นั่นคือโลกแห่งความเป็นจริง ถ้าศาล รธน.รับคำร้อง 6ประเด็นและวินิจฉัยว่า มีการครอบงำจริง มีการทำลายพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวจริง อีกทั้งถือเป็นการล้มล้างการปกครองและสั่งให้ยุติการกระทำ
คดีม.112อาจถูกถอนประกันตัวได้
ดังนั้นต้องเตือนอีกครั้งว่า คดี ม.112 ที่ทักษิณ ได้รับการประกันตัว อาจถูกถอนการประกันด้วย นอกจากนี้ คดีโทษเหลือ1ปี จะมีคำร้องตามมามากมาย ครั้งนี้ยากที่จะมีคนกล้าพามา รพ.ตำรวจอีก ให้ดูลีลา นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯบอกคิดว่าป่วย 2-3วัน ย่อมรู้อยู่ว่า ชะตาปลายทางเป็นอย่างไรกับการเอื้อประโยชน์ให้นักโทษ กรณีความผิดของทักษิณนั้น ทุกอย่างเริ่มใกล้เข้ามาเล่นงานในวัยบั้นปลายชีวิต เพราะทุกอย่างเต็มไปด้วยหลักฐานแสดงถึงกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา โดยความจริงแล้วถ้าป่วยจริง ทำเวชระเบียนรักษาจริง ควรส่งเป็นเอกสารประทับลับให้ ปปช.แค่นี้ก็เผยแพร่ไม่ได้ ส่วนเรื่องภาพถ่าย เป็นเรื่องระหว่าง ปปช.กับรพ.ตำรวจและราชทัณฑ์ หรือกับศาลรธน.โดยหลักคิดแล้ว หากหน่วยงานทำงานอย่างโปร่งใส มีหลักฐานอยู่จริง ย่อมไม่มีใครเสี่ยงเอาชีวิตราชการไปแลกกับคดีอาญาที่ต้องติดคุก
‘เทพไท’ฟันเปรี้ยงเตรียมล่วงหน้า
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมเนื้อหาผ่านเฟซบุ๊ก“เทพไท – คุยการเมือง” ในหัวข้อ “มีการทำหนังสือล่วงหน้าช่วยทักษิณ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ผมเชื่อ!!!” ระบุว่า...มีการทำหนังสือล่วงหน้าช่วยทักษิณใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ผมเชื่อ!!!ตามที่ปรากฏข่าวว่ามีการเตรียมหนังสือส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจล่วงหน้า ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางจนเกิดข้อสงสัยว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ ผมในฐานะผู้มีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้ ขอยืนยันว่าส่วนตัวผมเชื่อว่าเป็นความจริงต้องมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เพราะการกลับมาประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่เรื่องปกติเหมือนนักโทษทั่วไป แต่เป็นการกลับมาโดยภายใต้เงื่อนไขดีลลับทางการเมือง จึงทำให้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าทุกอย่างการที่นักโทษคนหนึ่งที่อยู่ในเรือนจำ จะออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีกระบวนการขั้นตอนทำเรื่องและขออนุมัติ ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่กรณีของนายทักษิณได้ใช้กระบวนการนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในทันที เสมือนกับได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าในเรื่องธุรการไว้พร้อมสรรพ
เชื่อมีการทำหนังสือช่วย‘ทักษิณ
’นายเทพไท ระบุอีกว่า เรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษก็เช่นเดียวกัน กระบวนการทั่วไปใช้เวลากว่าจะรวบรวมหลักฐานประกอบหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ ใช้เวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน แต่ของนายทักษิณใช้เวลาดำเนินการเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษเพียงแค่1วัน ซึ่งถ้าไม่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพียงแค่รวบรวมเอกสารส่วนบุคคล และผลงานคุณงามความดีประกอบหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ ก็ใช้เวลาหลายวัน “เมื่อเปรียบเทียบกับการขอพระราชทานอภัยโทษของผมแล้ว ผมใช้เวลารวบรวมเอกสาร กรอกแบบฟอร์ม ทำหนังสือทูลเกล้าใช้เวลา1เดือน กว่าจะผ่านกระบวนการจากเรือนจำไปถึงกรมราชทัณฑ์ จนถึงบัดนี้ผมได้พ้นโทษออกมาจากเรือนจำแล้ว ยังไม่ได้รับทราบความคืบหน้า เรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษเลย ถ้าเปรียบเทียบระหว่างผมกับนายทักษิณแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ของนายทักษิณใช้เวลาเพียง1วัน ผมใช้เวลา2ปี ก็ยังไม่ทราบผล และเชื่อว่าในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ไม่เคยมีนักโทษคนใดใช้เวลาเพียง1วันยื่นหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษเหมือนกับนายทักษิณเมื่อเป็นอย่างนี้ จะไม่ให้เชื่อได้อย่างไรว่า มีการเตรียมการ เตรียมหนังสือให้กับนายทักษิณล่วงหน้าแล้ว”นายเทพไท ย้ำ
‘เด็กแม้ว’ไม่กังวลกมธ.สางปมชั้น14
ที่รัฐสภา นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการรชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดประชุมกมธ. ในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) ซึ่งมีวาระพิจารณากรณีกรมราชทัณฑ์ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจกับการใช้อำนาจหน้าที่ตามมกฎหมาย ว่า ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะใครมีหน้าที่อะไรก็ต้องดำเนินการไป ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะกระทบข้อมูลส่วนบุคคลนั้น นายประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วแต่กมธ. ทั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของกมธ. ตนทราบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ว่าไม่มา ส่วน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร.นั้นทราบว่ามา เมื่อถามว่า เรื่องนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กำชับอะไรมาหรือไม่ นายประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้กำชับอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี