อย่าให้ซ้ำรอยเดิม!!! "อ.เจิมศักดิ์"ขอปล่อย"การบินไทย"ให้แข่งขันได้ จับตาโหวตเพิ่มกรรมการฯหวั่นการเมืองแทรกแซง
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในประเด็นการแก้ปัญหาขาดทุนสะสมต่อเนื่องของการบินไทย ว่า สาเหตุของการที่การบินไทยขาดทุนมานานเพราะถูกแทรกแซงโดยฝ่ายการเมือง ทั้งการจัดซื้อเครื่องบิน การฝากคนเข้าทำงาน เป็นที่มาของการต้องเข้าแผนฟื้นฟู ซึ่งก่อนหน้านั้นการบินไทยมีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็แทรกแซงกันเหมือนรัฐวิสาหกิจ เมื่อถึงวันที่การบินไทยฟุบ ก็มีทางเลือกว่าจะปิดกิจการหรือจะฟื้นฟู
แต่เมื่อจะเข้าแผนฟื้นฟู บรรดาเจ้าหนี้ของการบินไทยก็ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ นำไปสู่การนำเรื่องเข้าศาลล้มละลาย จัดทำแผนฟื้นฟู และตั้งกรรมการฟื้นฟูที่เป็นหัวเรือใหญ่ 3 คน คือ 1.นาย ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ 2.นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และ 3.นายพรชัย ฐีระเวช ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง โดยทั้ง 3 คนทำงานนี้ได้ดีมาก ดังที่เห็นข่าวเรื่องการลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรวมถึงโครงการสมัครใจลาออกของพนักงาน กระทั่งเปลี่ยนจากขาดทุนกลายเป็นมีกำไร เตรียมออกจากแผนฟื้นฟูและใช้กลไกตลาดหลักทรัพย์เพื่อขายหุ้นระดมทุน
กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวว่า กระทรวงคมนาคม ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องการส่งตัวแทนเข้ามาเพิ่มอีกกระทรวงหนึ่ง เช่นเดียวกับกระทรวงการคลัง ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการ นายพิชัย ชุณหวชิร จะขอเพิ่มตัวแทนของกระทรวงอีก 1 คน ซึ่งหากส่งเข้าไปได้ ก็จะมีกรรมการฟื้นฟูเพิ่มเป็น 5 คน ในจำนวนนี้เป็นภาครัฐแล้ว 3 คน (กระทรวงการคลัง 2 คน กับกระทรวงคมนาคม 1 คน) แต่ถามว่ารัฐบาลจะส่งเข้าไปได้อย่างไร เพราะผู้ตัดสินใจรอบนี้ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมที่ทำเจ๊งไปแล้ว แต่เป็นบรรดาเจ้าหนี้ที่มาร่วมกันฟื้นฟู
และแม้รัฐบาลจะเป็นเจ้าหนี้รายหนึ่ง แต่สัดส่วนความเป็นเจ้าหนี้การบินไทยของรัฐบาลอยู่ที่เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ในขณะที่ที่เจ้าหนี้อีกร้อยละ 90 เป็นภาคส่วนอื่นๆ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งหลายที่มาซื้อหุ้นกู้การบินไทย ใครเป็นเจ้าหนี้เจอแบบนี้ก็มีใจหาย เพราะกิจการกำลังจะไปได้ดี ยิ่งหากเข้าไปขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้เงินก็ยิ่งไหลมา บรรดาเจ้าหนี้ก็จะได้เงินคืน คนที่ซื้อหุ้นไว้ก็อาจจะได้เงินปันผลด้วย
“ผมเคยเป็นบอร์ดท่าอากาศยาน ในการประชุมบอร์ดท่าอากาศยาน ตัวแทนของคมนาคมก็มี ตัวแทนของคลังก็มี เราถกกันแทบตายว่ามันควรจะเป็นอย่างไรในเรื่องนี้ สุดท้ายเขาบอกว่า เขาได้รับคำสั่งจากทางกระทรวงว่าให้เอาอย่างนี้ ผมพูดในที่ประชุมว่าแล้วเราจะถกกันไปทำไม? ตกลงคนที่ฝันอยู่ข้างนอกจะเอาอย่างไรก็มาเพื่อจะเอาอย่างนั้น พวกผมนั่งทำงานกันแทบตาย แล้วคุณกลัวไหมว่ามันจะเกิดเหตุอย่างเดียวกัน แล้วการบินไทยมันจะไปได้ไหม?” รศ.ดร.เจิมศักดิ์ กล่าว
รศ.ดร.เจิมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในวันที่ 8 พ.ย.2567 เวลาประมาณ 10.00 น.บรรดาเจ้าหนี้การบินไทยจะนัดประชุมกันเพื่อลงมติว่าจะเห็นด้วยกับการเพิ่มกรรมการ ตามที่กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เสนอมาหรือไม่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพราะตอนรัฐบาลถือหุ้นใหญ่แล้วทำเจ๊ง ผู้ตัดสินใจคือเจ้าหนี้ที่กำลังฟื้นฟูการบินไทย หากเจ้าหนี้รายอื่นๆ โหวตว่าไม่เห็นด้วย ซึ่งตนไม่อยากเอ่ยชื่อบุคคลที่ถูกเสนอเข้ามา เพราะต้องการเน้นเรื่องหลักการ
อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้ยินว่า รัฐบาลพยายามไปล็อบบี้เจ้าหนี้ในกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้โหวตเห็นด้วยกับข้อเสนอเพิ่มกรรมการดังกล่าว ซึ่งหากการลงมติคือเห็นด้วย มีตัวแทนของกระทรวงคมนาคมเข้ามา 1 คน และตัวแทนของกระทรวงการคลังเพิ่มอีก 1 คน การบินไทยจะฟื้นฟูกันอย่างไร เช่น นำการบินไทยเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่กดราคาพาร์ (PAR - ราคาเริ่มต้นของทุนบริษัท) ให้ต่ำเข้าไว้ แต่เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วขายก็ได้กำไร แล้วหลังจากนั้นการจัดซื้อจัดจ้าง การซื้อเครื่องบินและอื่นๆ มีแต่เรื่องเงินเยอะๆ ทั้งนั้น
“ผมอยากจะปลดปล่อยการบินไทยให้แข่งขันกับคนอื่นได้ ต้องเป็นมืออาชีพและทำงานเหมือนเอกชน รัฐจะถือหุ้นก็ถือบางส่วน แต่อย่าเป็นรัฐวิสาหกิจ จะถือหุ้นไว้ก็ไม่มีใครเขาเกี่ยง เพราะมันชื่อว่าการบินไทย มีชื่อคำว่าไทย คนเขาบอกว่าเป็น National Carrier (สายการบินแห่งชาติ) ก็ถือหุ้น แต่พอถือหุ้นไม่ใช่เป็น Majority (เสียงส่วนใหญ่) คุณก็ต้องเจียมตัว ต้องให้เขาทำงานอย่างมืออาชีพ ไม่เข้าไปแทรกแซง แต่คอยช่วยดู ถ้าอย่างนี้ก็จะเดินได้” รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ฝากทิ้งท้าย
ชมคลิปเต็มได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=jW7gobdi07o
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี