“อ.เจิมศักดิ์”ย้ำเหตุการบินไทยขาดทุน เพราะถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซงแนะถ้าไม่อยากให้ซ้ำรอย รัฐต้องปล่อย”การบินไทย”ให้แข่งขันได้ เป็นมืออาชีพ ทำงานแบบเอกชน จับตา 8 พย.โหวตเพิ่มกรรมการฯจาก 2 กระทรวง หวั่นการเมืองแทรกแซงซ้ำรอย ด้าน’สหภาพการบินไทย’ นัดรวมตัว 8 พย. ค้านโหวตตั้ง 2 ผู้บริหารแผนคนใหม่จากคลัง-คมนาคม

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ให้สัมภาษณ์รายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ“แนวหน้าออนไลน์”ในประเด็นการแก้ปัญหาขาดทุนสะสมต่อเนื่องของการบินไทยว่า สาเหตุที่การบินไทยขาดทุนมานาน เพราะถูกแทรกแซงโดยฝ่ายการเมือง ทั้งการจัดซื้อเครื่องบิน การฝากคนเข้าทำงาน เป็นที่มาของการต้องเข้าแผนฟื้นฟู ซึ่งก่อนหน้านั้นการบินไทยมีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็แทรกแซงกันเหมือนรัฐวิสาหกิจ เมื่อถึงวันที่การบินไทยฟุบ ก็มีทางเลือกว่าจะปิดกิจการหรือจะฟื้นฟู

รศ.ดร.เจิมศักดิ์กล่าวต่อว่า แต่เมื่อจะเข้าแผนฟื้นฟู บรรดาเจ้าหนี้ของการบินไทยก็ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ นำไปสู่การนำเรื่องเข้าศาลล้มละลาย จัดทำแผนฟื้นฟู และตั้งกรรมการฟื้นฟูที่เป็นหัวเรือใหญ่ 3 คนคือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และนายพรชัย ฐีระเวช ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง โดยทั้ง 3 คนทำงานนี้ได้ดีมาก ที่เห็นข่าวเรื่องการลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงโครงการสมัครใจลาออกของพนักงาน กระทั่งเปลี่ยนจากขาดทุนกลายเป็นมีกำไร เตรียมออกจากแผนฟื้นฟูและใช้กลไกตลาดหลักทรัพย์เพื่อขายหุ้นระดมทุน

รศ.ดร.เจิมศักดิ์กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวว่ากระทรวงคมนาคม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต้องการส่งตัวแทนเข้ามาเพิ่มอีกกระทรวงหนึ่ง เช่นเดียวกับกระทรวงการคลัง ที่นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลังจะขอเพิ่มตัวแทนของกระทรวงอีก 1 คน ถ้าส่งเข้าไปได้ ก็จะมีกรรมการฟื้นฟูเพิ่มเป็น 5 คน ในจำนวนนี้เป็นภาครัฐแล้ว 3 คน ได้แก่ กระทรวงการคลัง 2 คน กับกระทรวงคมนาคม 1 คน แต่ถามว่ารัฐบาลจะส่งเข้าไปได้อย่างไร เพราะผู้ตัดสินใจรอบนี้ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมที่ทำเจ๊งไปแล้ว แต่เป็นบรรดาเจ้าหนี้ที่มาร่วมกันฟื้นฟู และถึงแม้รัฐบาลจะเป็นเจ้าหนี้รายหนึ่ง แต่สัดส่วนความเป็นเจ้าหนี้การบินไทยของรัฐบาลอยู่ที่เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ขณะที่ที่เจ้าหนี้อีกร้อยละ 90 เป็นภาคส่วนอื่น เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งหลายที่มาซื้อหุ้นกู้การบินไทย ใครเป็นเจ้าหนี้เจอแบบนี้ก็มีใจหาย เพราะกิจการกำลังจะไปได้ดี ยิ่งหากเข้าไปขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้เงินก็ยิ่งไหลมา บรรดาเจ้าหนี้ก็จะได้เงินคืน คนที่ซื้อหุ้นไว้ก็อาจได้เงินปันผลด้วย

“ผมเคยเป็นบอร์ดท่าอากาศยาน ในการประชุมบอร์ดท่าอากาศยาน ตัวแทนของคมนาคมก็มี ตัวแทนของคลังก็มี เราถกกันแทบตายว่าควรจะเป็นอย่างไรในเรื่องนี้ สุดท้ายเขาบอกว่า เขาได้รับคำสั่งจากทางกระทรวงว่าให้เอาอย่างนี้ ผมพูดในที่ประชุมว่าแล้วเราจะถกกันไปทำไม ตกลงคนที่ฝันอยู่ข้างนอกจะเอาอย่างไรก็มาเพื่อจะเอาอย่างนั้น พวกผมนั่งทำงานกันแทบตาย แล้วคุณกลัวไหมว่ามันจะเกิดเหตุอย่างเดียวกัน แล้วการบินไทยมันจะไปได้หรือไม่” รศ.ดร.เจิมศักดิ์ กล่าว

และว่า วันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น.เจ้าหนี้การบินไทยจะนัดประชุมเพื่อลงมติว่าเห็นด้วยกับการเพิ่มกรรมการ ตามที่กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลังเสนอมาหรือไม่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพราะตอนรัฐบาลถือหุ้นใหญ่แล้วทำเจ๊ง ผู้ตัดสินใจคือเจ้าหนี้ที่กำลังฟื้นฟูการบินไทย หากเจ้าหนี้รายอื่นลงมติไม่เห็นด้วย ซึ่งตนไม่อยากเอ่ยชื่อบุคคลที่ถูกเสนอเข้ามา เพราะต้องการเน้นเรื่องหลักการ

รศ.ดร.เจิมศักดิ์เผยด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้ยินว่า รัฐบาลพยายามไปล็อบบี้เจ้าหนี้ในกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐ เพื่อให้โหวตเห็นด้วยกับข้อเสนอเพิ่มกรรมการดังกล่าว ถ้าการลงมติคือเห็นด้วย มีตัวแทนของกระทรวงคมนาคมเข้ามา 1 คน และตัวแทนของกระทรวงการคลังเพิ่มอีก 1 คน การบินไทยจะฟื้นฟูกันอย่างไร เช่น นำการบินไทยเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่กดราคาพาร์ (PAR - ราคาเริ่มต้นของทุนบริษัท) ให้ต่ำเข้าไว้ แต่เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วขายก็ได้กำไร หลังจากนั้นการจัดซื้อจัดจ้าง การซื้อเครื่องบินและอื่นๆมีแต่เรื่องเงินมากๆทั้งนั้น

“ผมอยากจะปลดปล่อยการบินไทยให้แข่งขันกับคนอื่นได้ ต้องเป็นมืออาชีพและทำงานเหมือนเอกชน รัฐจะถือหุ้นก็ถือบางส่วน แต่อย่าเป็นรัฐวิสาหกิจ จะถือหุ้นไว้ก็ไม่มีใครเขาเกี่ยง เพราะชื่อว่าการบินไทย มีชื่อคำว่าไทย คนเขาบอกว่าเป็น National Carrier สายการบินแห่งชาติ ก็ถือหุ้น แต่พอถือหุ้นไม่ใช่เป็น Majority (เสียงส่วนใหญ่) คุณก็ต้องเจียมตัว ต้องให้เขาทำงานอย่างมืออาชีพ ไม่เข้าไปแทรกแซง แต่คอยช่วยดู ถ้าอย่างนี้ก็จะเดินได้” รศ.ดร.เจิมศักดิ์กล่าวเสนอแนะ

วันเดียวกัน มีรายงานข่าวจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)ระบุ สหภาพแรงงานการบินไทย (สร.กบท.)ออกประกาศข้อความถึงสมาชิกพนักงานการบินไทยว่า “ตอนการบินไทยล้ม บาทเดียวก็ไม่ช่วย ไม่จ่าย พอมีกำไร ทะลึ่งจะมาเพิ่มทุน หากสมาชิกสหภาพฯและพนักงานยังนิ่งดูดายให้พวกจัญไรเข้ามาปู่ยี่ปูยำ ก็คงเป็นกรรมของ กบท. หากรักและหวงแหนการบินไทย สละเวลาและพร้อมใจมาร่วมกันต้านมารองค์กรในวันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 08.00 น. ที่สำนักงานใหญ่การบินไทย ลาดพร้าว รวมพลคนรักการบินไทย ป้องภัยจากฝ่ายการเมือง พบกันหน้าอาคาร 1 สำนักงานใหญ่ ลาดพร้าว เวลา 8.00 น.

สำหรับสาเหตุของการนัดรวมพลนั้น เนื่องจากกรณีกระทรวงการคลังในฐานะเจ้าหนี้ และในฐานะที่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัททำหนังสือถึงบริษัท การบินไทยฯ เสนอให้เพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟู 2 ราย จากกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอที่ประชุมเจ้าหนี้วันที่ 8 พฤศจิกายน เพื่อพิจารณาข้อเสนอ โดยกระทรวงการคลังขอเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ 2 ราย ได้แก่ นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม นายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง