สหภาพบินไทยต้านหนัก
การเมืองแทรกแซง
เลื่อนประชุมเจ้าหนี้
ออกไปเป็น29พ.ย.
ถอยตั้งหลัก!! เลื่อนประชุมเจ้าหนี้การบินไทยเป็น 29 พฤศจิกายนนี้ กรณี “คลัง-คมนาคม”เสนอเพิ่ม 2 ผู้บริหารแผนฯ กระชั้นชิดเกินไปหลังเจอต้าน สหภาพแรงงานการบินไทย-พนักงานรวมพล!ต้าน “การเมือง” แทรก ฉะตอนล้ม บาทเดียวก็ไม่ช่วย
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการบินไทยได้ นัดประชุมเจ้าหนี้ผ่านระบบออนไลน์เพื่อพิจารณาแก้ไขแผนฟื้นฟูโดยมีวาระสำคัญ คือขอมติที่ประชุมโหวตเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) จำนวน 2 คน จากกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ประกอบด้วย 1.นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม และ 2.นายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ เป็นการเสนอวาระพิจารณาเพิ่มเติม ก่อนกำหนดประชุมเจ้าหนี้เพียง 3-4 วัน ส่งผลให้ตัวแทนเจ้าหนี้ในกลุ่มสหกรณ์หลายแห่ง เกิดความกังวลใจเกี่ยวกับการปรับเพิ่มสัดส่วนผู้บริหารแผนฟื้นฟูจากภาครัฐ พร้อมเสนอเลื่อนการประชุมพิจารณาออกไป เป็นวันที่ 29 พ.ย.2567
และเมื่อถึงช่วงของการเปิดลงมติ มีเจ้าหนี้บางส่วนเสนอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อขอเลื่อนลงมติออกไปก่อนโดยเฉพาะวาระ 3 เรื่องการพิจารณาเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟู เนื่องจากวาระนี้ ถูกเสนอเข้ามาในเวลากระชั้นชิด เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กำหนดเลื่อนการลงมติออกไปทั้ง 3 วาระ เป็นวันที่ 29 พ.ย.นี้
ในช่วงเช้าผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีสมาชิกสหภาพแรงงานการบินไทย และพนักงานการบินไทยจำนวนหนึ่ง รวมพลในนาม“คนรักการบินไทย”ที่บริเวณหน้าอาคาร 1 สำนักงานใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อแสดงจุดยืนปกป้องการบินไทยจากภัยการเมือง พร้อมชูป้ายต่างๆด้วย
โดยนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานการบินไทย เรียกร้องให้กระทรวงการคลังปล่อยให้บริษัทการบินไทยเดินหน้าแผนฟื้นฟูกิจการฯดยไม่แทรกแซงการทำงานผ่านคณะกรรมการบริหารแฟนฟื้นฟูฯซึ่งอาจเปิดช่องให้ผู้มีอำนาจการเมืองตั้งบอร์ดบริษัท ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง จนสร้างความเสียหายต่อบริษัทการบินไทยเหมือนในอดีต
โดยสหภาพแรงงานการบินไทยแจ้งว่าจากกรณีที่กระทรวงการคลัง ในฐานะเจ้าหนี้และในฐานะที่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัท ได้มีหนังสือมายังบริษัทการบินไทยเพื่อเสนอให้เพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูจำนวน 2 ราย จากกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ 8 พ.ย. 67 เพื่อพิจารณาข้อเสนอ โดยกระทรวงการคลัง ขอเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ 2 ราย ได้แก่นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม นายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง
โดยเรื่องที่เกิดขึ้น ทางสหภาพแรงงานการบินไทย มองว่าตอนการบินไทยล้ม บาทเดียวก็ไม่ช่วย ไม่จ่าย พอมีกำไร จะมาเพิ่มทุน หากสมาชิกสหภาพการบินไทย และพนักงานยังนิ่งดูดายการเมืองก็จะเข้ามาแทรกแซงและต่อมาก็คงจะเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทต่อไป สหภาพแรงงานการบินไทย จึงเรียกร้องให้คนที่รักและหวงแหนการบินไทย สละเวลาและพร้อมใจกันมาร่วมกันรวมพลังในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ สหภาพแรงงานการบินไทย ได้ออกแถลงการณ์”การเมืองต้องหยุดทำลายสายการบินแห่งชาติ” โดยมีรายละเอียดดังนี้ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ขาดสภาพคล่อง ขาดทุนอย่างหนักต่อเนื่องมานานกว่า 10 ปี จนต้องเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง การฟื้นฟูกิจการดำเนินไป ตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 จนถึงวันนี้รวม 4 ปี 5 เดือน ด้วยความร่วมมือร่วมใจ ความสามัคคีของผู้บริหารแผนและพนักงานทุกคนทุกระดับ อดทน มุ่งมั่น ฟันฝ้ากับปัญหาอุปสรรคนานาประการ สามารถพลิกฟื้นวิกฤตการขาดทุนกลับมามีกำไรได้ตามแผน
สหภาพแรงงานการบินไทย ขอยืนยันว่า สาเหตุที่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ขาดทุนนับแสนล้านบาท เกิดจากปัญหาการทุจริตคอรัปชัน เป็นองค์กรที่ไม่มีธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปนั้น เกิดขึ้นจาก “ตัวแทนฝ่ายรัฐบาล” ทั้งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังที่ถูกส่งเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัท (บอร์ค) ทั้งสิ้น เช่นการเปิดเส้นทางบินกรุงเทพ-นิวยอร์ก การจัดซื้อจัดหา เครื่องบิน A-340 จำนวน 10 ลำ แต่เมื่อใช้บินจริงแล้วไม่คุ้มค่า สร้างภาระการขาดทุนสะสมทุกเที่ยวบิน จนต้องปลคระวางเครื่องบิน A - 340 การแต่งตั้งโยกย้ายที่ต้องทำตามใบสั่งนักการเมืองผ่านบอร์ค สร้างความขัดแข็งแตกแยกภายใน การทุจริตการจัดซื้อ การกำหนคนโยบายที่ไม่เอื้อประโยชน์ให้การบินไทยแข่งขันได้อย่างเสรี
การขาดทุนสะสมจากการแสวงหาผลประโยชน์ในรัฐวิสาหกิจผ่านตัวแทนรัฐบาลทำให้บริษัทการบินไทยและพนักงานต้องแบกภาระ “การขาดทุน” จนในที่สุดต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ นำมาสู่การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากกว่าหมื่นคน สร้างความทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัสให้กับพนักงานและครอบครัว ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือชื่อเสียงเกียรติภูมิของสายการบินแห่งชาติ ที่คนไทยทุกคนได้ร่วมกันสร้าง สนับสนุนส่งเสริมด้วยความภูมิใจยาวนานกว่า 60 ปี ได้ถูกทำลายลงด้วยนโยบายของ “การเมืองทุจริต”
นับจากปี พ.ศ. 2563 ถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 4 ปีกว่า ที่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีผู้บริหารแผน 3 คน ร่วมกับพนักงานทุกระดับได้คำเนินงานตามแผนฟื้นฟื้นฟูกิจการทุกขั้นตอน จนสามารถรักษาการบินไทยไว้ได้และประกาศผลประกอบการมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ และจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในกลางปี 2568 ได้ โดยไม่ต้องมี”ภาครัฐ” เข้ามาช่วยเหลือ
จากบทเรียนในอดีตที่ฝ้ายการเมืองคือปัญหาที่ทำให้การบินไทยเกือบล้มละลาย จึงเป็นเรื่องที่สหภาพแรงงานการบินไทยไม่อาจขอมรับได้ที่ฝ่ายการเมืองจะส่งผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม 1 คน และจากกระทรวงการคลัง I คน เข้าเป็นผู้บริหารแผนเพิ่มขึ้นจากตัวแทนกระทรวงการคลังที่มีอยู่แล้ว 1 คนรวมเป็นตัวแทนจากภาครัฐ 3 คนจะทำให้ “ภาครัฐ”เป็นเสียงข้างมากที่มีอำนาจในการบริหารแผนฟื้นฟู สามารถปรับเปลี่ยนแผนงาน ปรับเปลี่ยนนโยบายที่ได้ดำเนินงานมาด้วยดีไม่มีปัญหาการทุจริต ตลอดระยะเวลา 4 ปีกว่า
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้พนักงานการบินไทยทุกคนต้องทำงทำงานหนักมากเพื่อให้การบินไทย เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน เพื่อให้สายการบินแห่งชาติมีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการแข่งขัน ให้คนไทยทุกคนได้ภูมิใจในสายการบินของคนไทย ที่ผู้ใช้บริการทั่วโลกเชื่อมั่นในการบริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
สหภาพแรงงานการบินไทย”ขอคัดค้านการส่งผู้แทนภาครัฐ 2 คนจากกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เพิ่มเข้ามาเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ” ให้พนักงานบริษัทการบินไทย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการบิน สะสมประสบการณ์มาขาวนานกว่า 60 ปี ได้ใช้ความรู้ ความสามารถโดยอิสระ ปราศจากการแทรกแซง แสวงหาผลประโยชน์จากฝ่ายการเมืองเช่นในอดีต หยุด!!! ทำลายสายการบินแห่งชาติ สหภาพแรงงานการบินไทย 7 พฤศจิกายน 2567
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี