'อนุทิน'ลงพื้นที่'เกาะกูด'ปลอบขวัญ-ให้กำลังใจชาวบ้านพรุ่งนี้ หลังเจอเฟคนิวส์ปั่นเกาะกูดเป็นของกัมพูชา ขณะที่ชาวบ้านเตรียมเรียกร้องขอเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน-ระบบสาธารณูปโภค
เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2567 ที่ อ.เกาะกูด จ.ตราด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเดินทางมาของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา และนายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จะเดินทางมายัง อ.เกาะกูด จ.ตราด ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ หลังจากเกิดดราม่าว่า “อำเภอเกาะกูด”เป็นของกัมพูชา หรือเป็นของไทย และเกิดการสื่อสารผ่านสื่อมวลชนในส่วนกลาง และสื่อโชเชียลจนเกิดความสับสนว่า “เกาะกูด”เป็นของกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่ อ.เกาะกูด เพื่อติดตามสถานการณ์ และได้สัมภาษณ์กลุ่มผู้สูงอายุหลายคนที่อาศัย และเกิดที่ อ.เกาะกูดมาตั้งแต่เดิมหลายคน และทุกคนยืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย 100%
โดยนายสวงศ์ (ก๋ง) อายุ 92 ปี ชาวบ้านคลองมาด ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีระกุล จะเดินทางมาเยี่ยมที่หมู่บ้านนี้ เปิดเผยว่า เกิดที่เกาะกูด และย้ายมาอยู่ที่บ้านคลองมาด มากว่า 40 ปี มีลูก 7 คน ปัจจุบันเหลือ 4 คน และมีหลานอีกหลายคน ซึ่งอยู่มาตั้งแต่รุ่นพ่อ ซึ่งพ่อตายในช่วงอายุ 70 กว่าปี ตอนนั้นตนเองอายุ 30 กว่าปี รวมแล้วก็ 100 กว่าปี ซึ่งสมัยนั้นคนเกาะกูดมีไม่มาก ที่บ้านคลองมาด มีไม่กี่หลัง แล้วก็ขยายเพิ่มขึ้น ปัจจุบันบ้านจำนวนมากล้วนแล้วเป็นของหลานเกือบทั้งนั้น นายกอบต.ก็เป็นหลาน ผู้ใหญ่บ้านก็เป็นหลาน ดังนั้นเกาะกูดยังเป็นของไทยแน่นอน
นายสวงศ์ กล่าวว่า โดยในสมัยนั้น ยังไม่มีเรือเร็ว แต่ใช้เรือแจวเดินทางติดต่อสื่อสารกัน ชุมชนก็มีน้อย ประชาชนก็น้อย การทำมาหากินก็เป็นการทำเกษตรกรรม และการทำประมง ซึ่งบ้านคลองมาดก็เป็นชุมชนประมง และเป็นลูกหลานของตนเองทั้งนั้น เมื่อเมืองเจริญขึ้น มีการปรับเปลี่ยนอาชีพเป็นธุรกิจเดินเรือเร็วรับนักท่องเที่ยว ธุรกิจนำนักท่องเที่ยวตกหมึก ตกปลา ดำน้ำดูปะการังมากกว่า ประมงพื้นบ้านจึงหายไปมาก
“เรื่องที่ดินทำกินก็มีการจับจอง และนำไปออกเอกสารสิทธิแต่ต้องเสียเงิน ส่วนที่ไม่มีเงินก็ต้องเก็บไว้ และไม่มีเอกสารสิทธิ ทุกวันนี้ก็ยังทำเอกสารสิทธิไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา เพราะมีเจ้าของเป็นของธนารักษ์ และทหารเรือ ยุคนั้นไม่มีทหารเราอยู่กันเองมานาน ปกป้องตัวเอง การที่นายอนุทิน จะมาจึงต้องการให้ช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้กับพี่น้องประชาชนเกาะกูด ผมอยากให้ชาวเกาะกูดมีความรักในแผ่นดินเกิด เราอยู่กันมาเป็น100 ปีแล้วทำไมเอกสารสิทธิเพียงแผ่นเดียวขอไม่ได้หรือไง“ นายสวงศ์ กล่าว
ด้าน น.ส.ปิยะพร เจ้าของสีฟ้ารีสอร์ท เปิดเผยว่า ยอมรับว่า เกาะกูดมีชื่อเสียงมากจากความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม และเหมาะสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อน ซึ่งยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดโควิด 19 ในปี 2562 เป็นต้นมา 2-3 ปีเกาะกูดไม่มีนักท่องเที่ยวสักคน เราอยู่กันแบบไม่มี เพราะนักท่องเที่ยวที่จะมาต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนก่อน ผู้ประกอบการเดือนร้อน แต่ก็อดทน และผ่านมาได้จากนั้นธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะกูดเติบโต และมีนักท่องเที่ยวกลับมามากกว่าเดิม และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการจองยาวถึงต้นปีใหม่ 2568 แล้ว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ เอกสารสิทธิในที่ดินของชาวเกาะกูดที่ยังไม่สามารถมีได้ ทำให้การขยายตัวของที่พักทำไม่ได้
“ความจริงเกาะกูดวันนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวมาก นักท่องเที่ยวจำนวนนับแสนคน และสร้างรายได้ให้ชาวเกาะกูดหลายพันล้านบาทต่อปี แต่กลับไม่สามารถขยายที่พักได้ สาธารณูปโภคก็ไม่พร้อมทั้งน้ำ ทั้งไฟ หรือเน็ตสื่อสาร การที่คนรัฐบาลหลายคนมาที่เกาะกูดมาให้ความสำคัญในเรื่องเขตแดนซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นของไทยควรจะให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นอยู่ของชาวเกาะกูดมากกว่า“ น.ส.ปิยะพร กล่าว
ด้านนายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด กล่าวว่า การมีประเด็นของเกากูดในช่วงนี้ มีทั้งดี และไม่ดี ซึ่งดีก็คือทุกคนรู้จักเกาะกูดมากขึ้น แต่ไม่ดีก็คือนักท่องเที่ยวอาจจะรู้สึกไม่เชื่อมั่น แต่ไม่ได้น่ากลัวอะไร เพราะเกาะกูดยังเป็นของไทย 100% แต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเกาะกูดจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นจนไม่สามารถรองรับได้ ห้องพักที่มีเพียง 1,400-1,500 ห้อง ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการหรือจะมี 3,000-4,000 ห้องก็ยังไม่เพียงพอ แต่วันนี้ทำเพิ่มไม่ได้ เพราะเอกสารสิทธิในที่ดินไม่มี ที่มีก็ยังไม่มีการพิสูจน์สิทธิไม่ได้ ติดค้างอยู่ที่ธนารักษ์
ดังนั้น การที่รองนายกรัฐมนตรี 2 คน และเป็นคนสำคัญของรัฐบาลเดินทางมาที่นี่ อยากจะเรียกร้องให้ทั้ง 2 คนแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยเร็ว รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคของเกาะกูดที่ยังไม่เพียงพอทั้งถนน น้ำประปา หรือการสื่อสาร ไฟฟ้าที่ยังไม่เสถียรเพียงพอ ล้วนเป็นสิ่งที่ชาวเกาะกูดต้องการให้ช่วยยกระดับเพิ่มขึ้นโดยเร็ว
ทางด้านการเตรียมความพร้อมตอนรับนายอนุทิน นั้น เวลา 13.30 น. วันนี้(10 พ.ย.) นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด นายเดชาธร จันทร์อบ นายกอบต.เกาะกูด และนายสุทัศน์ ทศดารา ประธานสภาอบจ.ตราด ได้เดินทางตรวจเยี่ยมบ้านคลองมาด แจ้งให้ชาวบ้านรับทราบ และเตรียมสถานที่ต่างๆ ให้เรียบร้อย พร้อมทั้งเข้าไปเยี่ยมนายสวงค์ หรือก๋งสวงค์ ที่เป็นผู้มีอายุ 92 ปี ซึ่งยังมีสุขภาพ และความจำดี สายตาดี ซึ่งคาดว่า นายอนุทิน และคณะ จะเข้าไปเยี่ยม และพูดคุยระหว่างมาตรวจเยี่ยมชาวเกาะกูดด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี