อย่าให้ฝ่ายการเมืองครอบงำแบงก์ชาติ
‘ดร.วิรไท’เตือน
เป็นอันตรายต่อเสถียรภาพระบบศก.
ทำลายความน่าเชื่อถือธนาคารกลาง
ทำลายหน่วยงานศก.ปท.ให้อ่อนแอ
อดีตผู้ว่าฯธปท. “ดร.วิรไท” ออกโรงค้าน! ปลุกอย่ายอมฝ่ายการเมืองแทรกแซงแบงก์ชาติ ส่งคนนั่งบอร์ด ธปท. ชี้ไม่ใช่แค่เรื่องแบงก์ชาติแต่เป็นอนาคตของชาติ ลั่นเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเสถียรภาพระบบศก.ไทยด้านแหล่งข่าวจากกก.คัดเลือกฯเผย 10.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายนนัดรอบ 3 เคาะปธ.บอร์ดคนใหม่และกก.ผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2หลังเลื่อนมาแล้ว 2 รอบ ด้านม็อบนัดรวมพลังฟังผล พร้อมยื่น 4.5 หมื่นชื่อเพิ่ม ต้าน “กิตติรัตน์” ยึดแบงก์ชาติ
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ดร.วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก “Veerathai Santiprabhob” ระบุว่า ขอย้ำอีกครั้งว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของแบงก์ชาติ แต่เป็นเรื่องอนาคตของชาติ candidate ชื่ออะไรไม่สำคัญ แต่ถ้ามีประวัติเป็นคนการเมืองแบบแนบแน่น มีทัศนคติและวิธีคิดที่อยากแทรกแซงการทำงานของธนาคารกลางเพื่อตอบโจทย์การเมือง ก็ไม่สมควร
“ถ้าเรายอมให้ฝ่ายการเมืองส่งคนการเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่าย จะเป็นอันตรายยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทย ทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง และทำลายหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศให้อ่อนแอจนไม่เหลือสักหน่วยงานเดียวที่จะทัดทานนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่ถูกไม่ควรได้”ดร.วิรไทกล่าว และว่า ต่อไปเราคงเห็นนโยบายประชานิยมแบบปลายเปิดเต็มไปหมด ไม่มีใครสนใจวินัยการเงินการคลัง มีแต่นโยบายที่หวังผลประโยชน์ระยะสั้น เพื่อตอบโจทย์การเมืองเป็นหลัก ในอนาคตนโยบายการเงิน และนโยบายสถาบันการเงินก็อาจถูกทำให้กลายพันธุ์เป็นนโยบายประชานิยมไปด้วยก็ได้
วันเดียวกัน แหล่งข่าวจากคณะกรรมการคัดเลือกประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานเผยว่า นายสถิตย์นัดประชุมคณะกรรมการฯวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย บางขุนพรหม เพื่อลงมติเลือกประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิธปท. อีกสองคน ในเวลา 10.00 น. โดยเลื่อนจากเดิมประชุมเวลา 14.00 หลังก่อนหน้านี้เลื่อนการประชุมมาแล้วสองครั้ง และการประชุมรอบนี้จะเป็นครั้งที่สาม
“หลังประชุมนายสถิตย์ พร้อมแถลงผลประชุมด้วยตัวเอง โดยตอนนี้มีการขอกันว่าขอให้กรรมการทุกคนงดเว้นการให้ข่าวกับสื่อมวลชน ส่วนกระแสข่าวที่ว่าคณะกรรมการคัดเลือก ขอให้กระทรวงการคลังส่งชื่อคนอื่นมาแทนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เรื่องนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย ขอให้รอฟังผลการประชุมที่จะออกมา”แหล่งข่าวระบุ
ด้านนายใจเพชร กล้าจนหรือหมอเขียว แกนนำกองทัพธรรมเผยว่า วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ กองทัพธรรม -คปท.และศปปส.นัดประชาชนไปรวมตัวกันที่หน้าตึก ธปท.เวลา 09.00 น. เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านไม่ให้การเมืองเข้าแทรกแซงครอบงำ ธปท.ผ่านการเลือกประธานบอร์ด ธปท. โดยจะนำรายชื่อประชาชนที่ร่วมลงชื่อผ่านการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อคัดค้านการเมืองแทรกแซง ธปท. ผ่านเครือข่ายต่างๆ เช่น เพจกองทัพธรรม ล่าสุดถึงช่วงบ่ายวันที่ 10 พฤศจิกายน จำนวนผู้ที่ลงชื่อคัดค้านอยู่ที่ประมาณ 45,000 คน เป็นการไปยื่นเพิ่มเติมจากที่สัปดาห์ที่แล้ว ที่ยื่นไปประมาณ 29,000 รายชื่อ ตอนนี้ทราบว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เลื่อนเวลาการประชุมจากเดิมบ่ายสองโมงมาเป็นสิบโมงเช้า
“ เรายังหวังว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะฟังเสียงประชาชนและเสียงคัดค้านที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงเรื่องการเมืองเข้าแทรกแซงแบงก์ชาติ เพราะหากเกิดขึ้นจะส่งผลเสียต่อภาพรวมอย่างมาก กรรมการทั้งเจ็ดคน ไม่ควรทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จะทำเป็นไม่รู้ไม่ได้ยินไม่ได้เด็ดขาด”นายใจเพชรกล่าว
และเผยด้วยว่า ถ้าคณะกรรมการคัดเลือก ลงมติเลือกนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์ดธปท.จริง กลุ่มประชาชนจะเคลื่อนไหวต่อไป เพื่อหยุดยั้งคัดค้าน ซึ่งเท่าที่ปรึกษากันพบว่า มีช่องทางตามกฎหมายอยู่ ถ้ากรรมการคัดเลือกรายชื่อคนที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยมาเป็นประธานบอร์ด ธปท.จริง เช่น คัดค้านเรื่องปมมาตรฐานจริยธรรมฯ ความไม่เหมาะสมในการถูกเสนอชื่อ เป็นต้น ตรงนี้มีการพิจารณาศึกษาอยู่ ก็ขออุบไว้ก่อน ให้รอฟังผลที่จะออกมาก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี