‘กิตติรัตน์’ผงาด‘ปธ.บอร์ดธปท.’
เมินกระแสต้าน!
กก.คัดเลือกถกนาน 5 ชม.
ชงคลังเสนอเรื่องเข้าครม.
กลุ่มเครือข่ายยื่นคัดค้าน
จ่อเสนอศาลปมจริยธรรม
เคาะแล้ว! ที่ประชุม เลือก“กิตติรัตน์ ณ ระนอง นั่ง “ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ”ประชุมนานเกือบ 5 ชม.เสนอชื่อให้รมวคลัง ส่งเข้าครม.เพื่อทูลเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป แม้มีกลุ่มมวลชน-เครือข่ายต่างๆชุมนุมและยื่น5หมื่นรายชื่อคัดค้าน การเมืองแทรกแซงธปท. อีกกลุ่ม ปชช.บุกทำเนียบฯยื่น1.5หมื่นชื่อหนุน‘กิตติรัตน์’นั่งปธ.บอร์ดธปท.
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ซึ่งได้เลื่อนจากกำหนดเดิม เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2567 หลังได้เกิดกระแสต่อต้านเป็นวงกว้างจากทั้งกลุ่มนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ตลอดจน เครือข่ายนักศึกษาประชาชน ไม่เว้นแม้แต่ 4 อดีตผู้ว่า ธปท. เนื่องจากเกรงว่าจะถูกฝ่ายการเมืองจะเข้าครอบงำการทำงานของธปท.ผ่านการคัดเลือกประธานคณะกรรมการธปท.
คณะกก.คัดเลือกเริ่มพิจารณา
โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯได้เลื่อนเวลาประชุมจาก14.00น.เป็นเวลา10.00น.เพื่อให้คณะกรรมการได้มีเวลาได้พิจารณาอย่างรอบคอบมากขึ้นและได้เริ่มประชุมเวลา10.00น.โดยมีสื่อมวลชนมาปักหลักรอติดตามทำข่าวตั้งแต่ช่วงเช้า
ทั้งนี้ มีรายชื่อแคดิเดต3 คน คือ กระทรวงการคลังเสนอชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยกระทรวงการคลังไม่ได้มีการเสนอเปลี่ยนแปลงรายชื่อแต่อย่างใดซึ่งมีโอกาสจะได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาฯให้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติสูงที่สุด ส่วนอีก 2 ชื่อ ที่เสนอจาก ธปท.คือนายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และนายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
กลุ่มต้านชุมนุม-ยื่น5หมื่นชื่อค้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ด้านนอกธนาคารแห่งประเทศไทย บริเวณหน้าประตู ฝั่งใต้สะพานพระราม
ได้มีผู้ชุมนุมจากหลายกลุ่มเดินทางมาเพื่อเรียกร้องให้กระบวนการคัดเลือกประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นไปอย่างโปร่งใส ประกอบด้วย ตัวแทนจากคณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เพื่อแสดงความกังวลเกี่ยวกับการคัดเลือก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่อาจส่งผลให้ธนาคารกลางขาดความเป็นอิสระหากมีการแทรกแซงทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังมี8 กลุ่มมวลชน ประกอบด้วย กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.),กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.)และกองทัพธรรม เดินทางมาชุมนุมเพื่อคัดค้านไม่ให้การเมืองเข้าแทรกแซงครอบงำ ธปท.ผ่านการเลือกประธานบอร์ดธปท.พร้อมยื่นรายชื่อประชาชนที่คัดค้านอีก51,980 รายชื่อ
และเรียกร้องให้คณะกรรมการคัดเลือกฯพิจารณาคุณสมบัติที่เหมาะสมของกรรมการคัดเลือก ให้เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีคุณธรรมจริยธรรมที่ดี ไม่มีประวัติด่างพร้อยด้านการทุจริตและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฝ่ายการเมือง พร้อมขอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯกระทำในสิ่งที่ถูกต้องปฏิบัติหน้าที่คัดเลือกประธานกรรมการและคณะกรรมการธปท.ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล โดยไม่ยอมรับแรงกดดันทางการเมือง ธำรงไว้ซึ่งความเป็นอิสระและน่าเชื่อถือของนานาอารยะประเทศ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โดยหากนายกิตติรัตน์ได้รับการคัดเลือก ผู้ชุมนุมเตรียมยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติด้านจริยธรรม
กลุ่มยื่นรายชื่อหนุน‘กิตติรัตน์’
ขณะที่ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา11.30น.นายวิฑูรย์ ลี้ธีระนานนท์ เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อการกู้ยืมที่เป็นธรรมเข้ายื่นรายชื่อประชาชน15,000รายชื่อต่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อสนับสนุน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ) ผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง
กก.คัดเลือกฯแจงเคาะเสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธปท.
นายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ในฐานะประธานกรรมการคัดเลือกฯได้แจ้งเป็นเอกสาร ต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่าในวันนี้ (11พ.ย.)กระบวนการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการ ธปท.ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว หลังจากนี้เลขานุการฯจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไปโดยจะนำเสนอชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแล้วให้ทูลเกล้าฯเพื่อทรงแต่งตั้ง ส่วนกรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จะนำเสนอต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
ประชุมเกือบ5ชม.-อุบเปิดเผยชื่อ
มีรายงานข่าวจาก ธปท.ระบุว่า ในการประชุมเพื่อคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิธปท.ครั้งนี้ ใช้เวลาไปเกือบ 5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา10.00น.และเสร็จสิ้นเวลาประมาณ14.45น. ซึ่งเป็นการประชุมที่ยาวนาน หลังเลื่อนพิจารณามาแล้วถึง 2 ครั้ง
โดยภายหลังประชุมไม่มีกรรมการคนใดออกมาให้สัมภาษณ์ รวมทั้งนายสถิตย์ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ โดยตำแหน่งประธานกรรมการธปท.ยังไม่เปิดเผยรายชื่อว่าเป็นใครจาก3ราย ตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
‘กิตติรัตน์’ผงาดปธ.บอร์ดธปท.
รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯมีมติเห็นชอบเลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ดำรงตำแหน่ง ประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ดธปท.) หลังการประชุมใช้เวลานานเกือบ5ชั่วโมง โดยมติการคัดเลือกนี้จะถูกเสนอให้ รมว.คลัง พิจารณาและนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ก่อนทูลเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป
รายชื่อแคนดิเดต ทั้งหมด 3 คน ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.คลัง ที่เสนอโดยกระทรวงการคลัง และอีก 2รายชื่อ นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เสนอโดย ธปท. นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอโดย ธปท.
ทั้งนี้ แม้มีการร้องเรียนถึงการตรวจสอบกรอบระยะเวลา หลังพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองของนายกิตติรัตน์โดยคณะกรรมการพิจารณาว่า ตำแหน่งที่นายกิตติรัตน์ เคยทำหน้าที่ในรัฐบาลนั้น เป็นตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีไม่ถือเป็นตำแหน่งข้าราชการการเมือง และยังไม่มีข้อกฎหมายที่ขัดขวาง
สำหรับรายชื่อ ประธานบอร์ดธปท.ในอดีต ตั้งแต่มีพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ปี2551ได้แก่ 1.มรว.จัตุมงคล โสณกุล 2.ดร.วีรพงษ์ รามางกูร 3.นายอำพน กิตติอำพน 4.นายปรเมธี วิมลศิริ
เปิดประวัติว่าที่ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ
สำหรับประวัติของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2501 เป็นบุตรของ เก่ง ณ ระนอง และ วิลัดดา สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญ,มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จบการศึกษา ปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านชีวิตครอบครัวสมรสกับเกสรา บุตรสาวของ พล.อ.พร ธนะภูมิ
นายกิตติรัตน์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังพ้นตำแหน่งได้เป็นกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คนที่ 9 ในระหว่างวันที่ 10 ก.ย.2546 -31 พ.ค.2549 เคยเป็นอาจารย์สอนในระดับอุดมศึกษา เป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิต บริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระหว่างปี 2549-2553และอธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร ในระหว่างปี 2553 – 2554
เส้นทางการเมืองสัมพันธ์พท.
ส่วนงานการเมือง ในปี 2554 นายกิตติรัตน์ ได้รับแต่งตั้งเป็น รองนายกรัฐมนตรี(ด้านเศรษฐกิจ) และ รมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปลายปีเดียวกัน สื่อมวลชนสายทำเนียบรัฐบาลได้ร่วมกันตั้งฉายาให้นักการเมืองประจำปีซึ่งกิตติรัตน์ได้รับฉายาว่า “ปุเลง...นอง”จากกรณีที่กิตติรัตน์ร้องไห้เมื่อคราวน้ำเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคในปี2554
ต่อมา เดือนมกราคม 2555 กิตติรัตน์ ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้พ้นจาก รมว.พาณิชย์ และดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง จากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว นายกิตติรัตน์ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ข้อมูลตัวเลขเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่แถลงต่อสื่อมวลชนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงหรือเรียกว่าเป็น”โกหกสีขาว”ต่อมาได้รับการกล่าวถึงในความเหมาะสม และผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติ ที่มีต่อประเทศไทยจนนำไปสู่ประเด็นหนึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา
นายกิตติรัตน์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจากที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2555 และเมื่อวันที่ 7 พ.ย.2557 นายกิตติรัตน์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยขาดความชอบธรรม
ต่อมา ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 11 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวนส.ส.มากกว่าจำนวน ส.ส.พึงมีตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ในปี 2563 เขาได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ให้เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และต่อมาในปี พ.ศ. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งให้กิตติรัตน์ ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี