‘นายกฯ’ถก‘กงสุลใหญ่’ เชื่อ‘สหรัฐ’เปลี่ยนแปลง ย้ำการทูตเชิงรุก หนุนไทยแข็งแรง
‘นายกฯ’ประชุม‘ทูตกงสุลใหญ่’ เชื่อ‘สหรัฐ’เปลี่ยนแปลง หลังได้รัฐบาลใหม่ ย้ำการทูตเชิงรุก สร้างการลงทุน หนุนไทยแข็งแรง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 11 พ.ย.67 (ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง) ที่โรงแรม เบเวอร์ลี วิลเชอร์ อะ โฟร์ซีซั่น นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมเอกอัครราชทูตกงสุลใหญ่ และหน่วยงานทีมประเทศไทยประจำภูมิภาคอเมริกา อาทิแคนาดาอาร์เจนตินา เม็กซิโก บราซิล ชิลี พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ปลัดกระทรวงต่างประเทศ เพื่อมอบนโยบายและ แนวทางขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคอเมริกา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาที่เน้น ประชาชนเป็นศูนย์กลางและการปกป้องดูแลผลประโยชน์ของไทยและคนไทยในต่างประเทศ
นายกฯ กล่าวทักทายทุกส่วนที่เข้าร่วมประชุมทั้งในห้องประชุมและระบบซูม ว่า ยินดีที่ได้มาเจอทุกคน ก่อนจะเดินทางไปประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ถือเป็นเรื่องดีที่ได้คุยกับทูตทุกประเทศ ได้เปิดมุมมอง และได้รู้ถึงความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างประเทศ การมาวันนี้ เพื่อเน้นย้ำนโยบายของรัฐบาล และล่าสุดสหรัฐอเมริกาได้รัฐบาลใหม่ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน รัฐบาลพยายามจะเตรียมความพร้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ และขอเน้นย้ำการทูตเชิงรุกที่เป็นทัพหน้าของประเทศ อยากให้ทูตทุกท่าน ประสานงานร่วมกับบีโอไอ และรัฐบาล เรื่องการลงทุนจะเกิดการทำงานเต็มรูปแบบ ประเทศไทยจะแข็งแรง และขอให้ทูตสร้างความเข้าใจว่ารัฐบาลไทยทำอะไรอยู่ ซึ่งขณะนี้ไทยยังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจจำเป็นต้องช่วยกันรัฐบาลพยายามทุกทางที่จะนำเงินเข้ามาในประเทศให้ได้มากที่สุด จึงอยากให้ทูตช่วยเน้นเรื่องการลงทุนเป็นพิเศษ
นายกฯ กล่าวต่อว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาเน้นย้ำนโยบายรัฐบาลด้วยตัวเองที่ยืนยันว่าประชาชนเป็นศูนย์กลาง และขอบคุณผู้บริหารสถานทูตในแต่ละประเทศที่ได้ดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทยในต่างแดน ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในการสนับสนุนคนไทยในต่างประเทศ และนักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งทีมไทยแลนด์เปรียบเสมือนทัพหน้าของประเทศโดยขอให้ทีมไทยแลนด์ที่ประกอบด้วยภาคส่วนต่างๆ ทั้งเอกอัครราชทูต ทูตพาณิชย์ ผู้แทนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ต้องช่วยกัน เร่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากไทยยังประสบปัญหาเศรษฐกิจ จำเป็นต้องหารายได้ใหม่ๆเข้าประเทศเพี่อให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง ขอให้มองหาโอกาสและความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน และขอให้เร่งเชิญชวนให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงนำแผนนโยบายด้านต่างประเทศของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ เพื่อสร้างเครือข่ายมิตร ประเทศของไทยในเวทีโลก หรือ Friends of Thailand กับภาคส่วนต่าง ๆ ของต่างประเทศ เพื่อให้ประเทศไทย มีเศรษฐกิจที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
“จุดยืนของรัฐบาล อยากให้เห็นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และอยากทำให้ประเทศไทยพร้อมและรัฐบาลพยายามสร้างโอกาสในประเทศมากขึ้นเพื่อสร้างอนาคตที่ดี รองรับให้คนไทยทำงานในประเทศ ตน คือหัวหน้าทีมประเทศไทยมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถแข่งขันกับนานาอารยะประเทศได้ที่สำคัญประเทศไทยมีคนเก่งมาก แต่ส่วนหนึ่ง ทำงานอยู่นอกประเทศรัฐบาล จึงตั้งใจจะทำให้ ประเทศไทยเรามี ความแข็งแรงทางด้านเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้คนไทยมีโอกาสมากขึ้น เพื่อดึงคนไทยคนเก่งๆ ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศกลับมาเพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทย จึงอยากให้ทูตเชิญชวนคนไทยกลับมาทำงานในประเทศไทยแม้จะเรียนจบในต่างประเทศ” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนนโยบาย ซอฟต์พาวเวอร์ เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งเอกอัครราชทูต ประเทศชิลีได้รายงานว่า คนชิลีชื่นชอบภาพยนตร์ไทยที่สามารถส่งออกไปต่างประเทศ โดยเป้าหมายรัฐบาลสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยน ความรู้ในด้านการผลิตภาพยนตร์และ ซอฟต์พาวเวอร์ ด้านต่างๆ เช่น การอบรม หรือ เปิดคอร์สพิเศษ จากทีมต่างประเทศกับบุคคลในอุตสาหกรรมไทย รวมทั้ง ด้านเทศกาล ซึ่งตนเองได้มีการเปิดโครงการ winter festival ซึ่งเป็นการประสาน กิจกรรมงานเทศกาลต่างๆกับ การท่องเที่ยว ให้เมืองไทยเที่ยวได้ทั้งปี ซึ่งต้องขอให้เอกอัครราชทูตทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์ ว่าประเทศไทยพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนเดินทางมาได้มีโอกาสประชุมตรวจความพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ได้มีการพัฒนาระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ทันสมัย รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหน้าด่านที่สามารถอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายมากขึ้น
ในช่วงหนึ่งนายกฯ ได้กล่าวให้ความมั่นใจ ว่าการเมืองมีความมั่นคงพอสมควรแล้ว ฉะนั้นจะทำเรื่องนี้ให้แข็งแรงมากที่สุด เพื่อให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจและนำเม็ดเงินมาลงทุนในประเทศไทย และในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเราจะอยู่จนครบเทอมเพื่อให้การลงทุนมีความต่อเนื่อง เพราะแน่นอนว่าเทอมข้างหน้าอยากให้นำเรื่องนโยบายการลงทุนไปต่อ ไม่อยากให้ประเทศสะดุด เพราะเรื่องการเมือง เพราะในอดีตมักเป็นเช่นนั้น จึงอยากจะสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ได้ย้ำถึงความสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ของไทย( Start up )รัฐบาลมีแนวทางในการจัดตั้งกองทุน matching fund จับคู่บริษัทไทยกับต่างประเทศ เพื่อให้ภาคเอกชนไทยมีตลาดกว้างมากขึ้น รวมถึงการและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยมีโอกาสไปศึกษาในต่างประเทศว่า ตนเอง ตั้งใจจะให้มีการจัดหาทุนการศึกษา เพี่อส่งเสริมเด็กไทย นักเรียน ไทยให้มา ศึกษาต่อในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ แอร์โร่ สเปซ ดิจิทัลเทคโนโลยีเป็นต้น และขอฝากดูแลคนไทยกว่า 3 แสนในสหรัฐ ฯ รักษาผลประโยชน์ของคนไทย และให้ใช้ชีวิตต่างแดนอย่างเข็มแข็ง ด้วย
ก่อนหน้า นายมาริษ กล่าวถึงลักษณะพิเศษของไทย คือ ไทยเป็นมิตรทุกประเทศ ซึ่งในศตวรรษที่ 21 นี้ นโยบายการต่างประเทศต้องเป็นการทูตที่จับต้องได้และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ที่สำคัญต้องเห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรม โดยใช้ยุทธศาสตร์ในเชิงรุกเพี่อไทยกลับมาสู่จอเรดาร์ ไม่ใช่ผู้นำแต่มีบทบาทนำภูมิภาค มีจุดยืนในแต่ละประเด็น (issue) ที่ชัดเจน ขอให้ทีมไทยแลนด์ 99 แห่ง บูรณาการการทำงาน แม้แต่ละภูมิภาคก็มีประเด็น/วาระสำคัญที่แตกต่างกัน ที่เป้าหมายเหมือนกันคือ การรักษาผลประโยชน์ประเทศและประชาชน รวมทั้งการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรียังรับฟังรายงานจากเอกอัครราชทูตในภูมิภาคอเมริกาโดยนายสุริยา จินดา เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี รายงานภาพรวมการเมืองสหรัฐ ฯ และโอกาสทางเศรษฐกิจโดยอยากเห็น นักลงทุนไทยจะเข้ามาลงทุนในสหรัฐเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออตาวา แคนาดา กล่าวว่า ปัจจุบันมีเส้นทางการบินตรงไทย - แวนคูเวอร์ ในช่วงฤดูหนาว จะมีไฟล์ทบินทุกวัน ซึ่งได้รับตอบรับอย่างดีโดยมีนักท่องเที่ยวแคนนาดา นิยมเดินมาเที่ยวไทยมากขึ้น
ด้านนางสาว วิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ ซันติอาโก ประเทศ ชิลี กล่าวถึงโอกาสของซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย อาหารไทย ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภูมิภาคอเมริกาใต้ ซึ่งโดยภาพรวมถือว่าประเทศในภูมิภาคอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และใต้ให้ความสนใจกับประเทศไทยในหลากหลายมิติซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนนักท่องเที่ยวนักธุรกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี