ฟันเปรี้ยง!รัฐบาลถึงจุดจบไวขึ้น ท้าทายสังคมดัน‘กิตติรัตน์’นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
12 พฤศจิกายน 2567 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมเนื้อหาผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ในหัวข้อ “ตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ : ท้าทายกระแสสังคม” ระบุว่า...
ตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ : ท้าทายกระแสสังคม
หลังจากคณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีมติเลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าประธานคณะกรรมการสรรหา จะไม่ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า คณะกรรมการชุดนี้ต้องทำตามความต้องการของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงการคลัง เป็นผู้เสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เข้าเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เพราะถ้าไม่ต้องการให้นายกิตติรัตน์เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติจริง ก็คงไม่เสนอชื่อเข้ามา ส่วนอีก 2 คน ที่เสนอโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น
ต้องยอมรับว่า รัฐบาลตั้งธงที่จะเอานายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นพระประธานบอร์ดแบงก์ชาติให้ได้มาตั้งแต่ต้น เคยมีกระแสข่าวว่าจะเปลี่ยนตัวจากนายกิตติรัตน์ เป็นคนอื่น แต่ในที่สุดกระทรวงการคลังก็ยังคงยืนยันชื่อของนายกิตติรัตน์ต่อไป ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากอดีตผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างน้อย 4 คน และนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ 300 กว่าคน รวมถึงกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจำนวนมาก ที่แสดงออกไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลเสนอชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ เพราะไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
แต่ในที่สุดคณะกรรมการสรรหาก็เคาะชื่อ นายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ โดยไม่สนใจกระแสคัดค้านของสังคม
นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นการท้าทายกระแสสังคมของรัฐบาลชุดนี้
ส่วนประเด็นที่มีการตั้งคำถามว่า ประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย มีบทบาทอย่างไร และมีความสำคัญแค่ไหน โดยพยายามอธิบายกับสังคมว่า ตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากต่อนโยบายการเงินของประเทศเลย จึงมีการตั้งคำถามกลับไปว่า ในเมื่อคิดว่าประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไม่มีบทบาท และไม่มีความสำคัญใดๆ แล้วทำไมรัฐบาลยังดันทุรังเสนอนายกิตติรัตน์ ให้เกิดความขัดแย้งทางสังคมทำไม ถ้าคิดว่าไม่มีบทบาทสำคัญ ก็ปล่อยให้มีการสรรหาไปโดยตามปกติ รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังไม่ควรเสนอชื่อบุคคลแบบนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนฝ่ายการเมือง
ถ้ารัฐบาลชุดนี้ไม่แคร์กระแสสังคม ไม่ฟังเสียงคัดค้านใดๆจากภาคประชาสังคม ก็ขอเตือนให้ระมัดระวัง ว่า นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง ที่เกิดจากความท้าท้ายของรัฐบาลเอง และเมื่อเกิดความขัดแย้งในหลายประเด็นสะสมแต้มไปเรื่อยๆ
ก็อาจจะทำให้รัฐบาลชุดนี้ถึงจุดจบไวขึ้น
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี