‘เลขาฯกฤษฎีกา’แนะ‘รฟท.-กรมที่ดิน’จับเข่าคุยสางปัญหา‘เขากระโดง’ เหตุขัดแย้งมาจากการเรื่องสื่อสาร ระบุตามหลักการต้องยึดตามคำพิพากษา
เมื่อเวลา 13.15 น.วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงคำพิพากษาศาลปกครองให้เพิกถอนที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แต่อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งไม่เพิกถอน ว่า โดยหลักแล้วเมื่อศาลมีคำพิพากษาก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกรมที่ดินในเรื่องนี้นั้น มองว่าเป็นปัญหาเรื่องการสื่อสาร หากลำดับเรื่องดีๆ หน่วยงานมาร่วมกันชี้แจง ตนคิดว่าจะตรงกันได้ และไม่ใช่เรื่องว่าคิดพิพากษาของศาลหรือคำสั่งอธิบดีใครใหญ่กว่าใคร ตนเห็นว่าไม่ควรพูดกันคนละที น่าจะตั้งโต๊ะร่วมกันและพูดกันเสียทีเดียว จะได้เข้าใจว่าเดิมที่มาที่ไปนั้นเป็นอย่างไร
“โดยหลักการต้องยึดตามคำพิพากษาของศาลปกครอง ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกัน แต่กระบวนการและขั้นตอนยังไม่ตกลงกันให้ชัดเจน ไม่ได้มานั่งจับเข่าคุยกัน ผมคิดว่าถ้ามาจับเข่าคุยกันคงไม่เป็นปัญหามากนัก ย้ำว่าหากมีการพูดคุยกัน คงไม่จบลงที่การฟ้องร้อง เพราะที่หลวงก็คือที่หลวง ที่เอกชนก็คือที่เอกชน แค่นั้นเอง แก้ปัญหาสมมุติว่าเป็นที่หลวงแล้วให้เอกชนไปอยู่ เราจะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร เช่น ให้เขาเช่าในราคาถูก อย่างนี้เราก็ทำกันเป็นปกติในกรณีที่ราชพัสดุ อย่างกรณีที่อยู่มานานจนคิดว่าเป็นที่ของตัวเอง พอพิสูจน์สิทธิ์กันได้ว่าเป็นของใครก็ทำตามกติกา ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอก แค่คุยกันคนละทีสองที” นายปกรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำพิพากษาของศาลปกครองค่อนข้างเคลียร์แล้วใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม แต่น่าจะชัดเจนอยู่
เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวเป็นประเด็นการเมืองที่ทำให้สับสนใช่หรือไม่ นายปกรณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่า เรื่องการเมืองตนไม่รู้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี