ปลุกต้องชนะขาดนายกอบจ.อุดร
‘ทักษิณ’ปราศรัยเดือด
โวกลางปี’68 ไทยเห็นแสงสว่าง
เสียดาย 17 ปี ยังไม่หายยากจน
‘สมชัย’ชี้ช่องจับแพ้ฟาวล์
“ทักษิณ”ลุยช่วยหาเสียงที่อุดรฯ วันที่ 2 ปราศรัยเดือด!ประกาศขอเสียงชนะขาดถล่มทลาย อย่าให้อายนะ ต้องเอาปี๊บคุมหัว บอกเสียดาย 17 ปี ยังไม่หายจน โวควักเงินส่วนตัวจ้างต่างชาติ 300 ล้านให้นายกฯอิ๊งค์ยกเครื่องโอท็อปครั้งใหญ่ อีกไม่นานเปิดตัว ลั่นกลางปีหน้าไทยเห็นแสงสว่างแน่อ้อน 25 ปี อายุครบร้อยเห็นบ้านเมืองแล้วหดหู่ พัฒนาช้า ชี้ต้องเลิกดัดจริตขู่ยกเลิกกฎหมายเก่าๆปิดกั้นผูกขาด เมินเสียงนักร้อง บอกคนอยู่ส่วนคน หมาอยู่ส่วนหมา อย่าไปฟังเสียงเห่าหอนด้าน‘สมชัย’อดีตกกต.ชี้ช่องเช็กบิล‘ทักษิณ’ปราศรัยช่วยหาเสียงอุดรฯ-มีโอกาสสุ่มเสี่ยง หลอกลวงให้เข้าใจผิด
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันที่ 2 ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(นายกอบจ.)อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทยจุดแรก นายทักษิณ ได้เดินทางมาที่ร้านคิงส์โอชา เพื่อรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รวมถึงสส.และแกนนำของพรรคเพื่อไทยโดยนายทักษิณ มีสีหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส โบกมือทักทายสื่อมวลชน และผู้สนับสนุนที่มารอให้การต้อนรับ พร้อมพูดถึงเสื้อที่ใส่วันนี้ว่า“เสื้อที่ใส่ในวันนี้ ใส่มาตั้งแต่สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี20กว่าปีแล้ว กลับมายังแขวนอย่างเดิม ก็เลยเอาไปซักแห้ง แล้วมาใส่ใหม่”
ก่อนรับประทานอาหารเช้าทั้งไข่กระทะ ข้าวเปียกเส้น ชานมร้อน ข้าวเกรียบ ขนมปัง พร้อมกับบอกว่า”อาหารอร่อย ไม่ได้กินมานานแล้ว” และหลังรับประทานอาหารเสร็จ ได้เดินทางที่ตลาดนัด4ธันวา อ.บ้านดุง เพื่อขึ้นเวทีปราศรัย ครั้งที่ 2
พท.เปิดเวทีปราศรัยอ.บ้านดุง
เวลา 09.30 น.ที่ตลาดนัด4ธันวา อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้จัดเวทีปราศรัยโดยนายทักษิณ อดีตนายกฯพร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้มาช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรธานีหาเสียง ซึ่งประชาชนฟังปราศรัยกว่า 5,000 คน
โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยว่ามาครั้งที่แล้วและบอกขอยกจังหวัด ยกจังหวัดยังไงหายไป 3 เขต วันนี้จึงขอมาทวงสัญญาเพราะเรารักกันมาตั้งแต่ปี2544 วันนี้ 23 ปีแห่งความทรงจำ 23ปีที่ยังยืนเคียงข้างกัน แล้วจะพิสูจน์พลังอีกครั้งในการเลือกตั้งอบจ.ครั้งนี้ซึ่งนายวิเชียร ขาวขำ แสดงสปีริตลาออกจากนายกอบจ.สุขภาพไม่ดีได้ลาออกเพื่อเปิดทางให้นายศราวุธ เพชรพนม ไม่เหมือนคนกรุงเทพฯเดินไม่ดีก็ยังอยากเป็นนายกฯระหว่างที่นายณัฐวุฒิปราศรัยได้ทำท่าเดินกะเผลกล้อเลียนไปด้วย
‘แม้ว’อ้อนมาอุดรเพราะไม่เคยลืม
จากนั้นนายทักษิณได้ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งที่2 ว่า ไม่เห็นหน้ากันนานแล้วนะ คิดถึงกันบ้างหรือไม่ ที่เลือกมาอุดรธานีเพราะคิดถึงพี่น้องชาวอุดรธานี และคนอุดรธานีก็ไม่เคยลืมตน มีใครทันตอนตนเป็นนายกฯหรือไม่ ที่ต้องถามเพราะตอนนี้ตนอายุ75 ปีแล้วแต่ความรู้สึกยังเหมือนอายุ 25 ปี วันนี้เห็นมาเยอะแบบนี้หัวใจมันก็พองโต เมื่อก่อนตอนเป็นพรรคไทยรักไทย ตนก็มาเจอพี่น้องต่างจังหวัดกลับไปมีความสุขและไปนั่งคิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้เขาหายจนเพราะชีวิตตนเคยลำบากมาวันนี้นั่งรถมาเห็นสภาพพี่น้องก็เป็นห่วง ตนถูกปฏิวัติออกไป17 ปี วันนี้มีสิ่งสวยๆ เกิดขึ้นบางที่บางแห่ง แต่พี่น้องยังลำบากอยู่ คนไม่มีหนี้มีน้อย แสดงว่าที่ผ่านมาคนจนไม่ได้รับการเหลียวแล ถามจริงๆทำไมคนอุดรธานีไม่ลืมตน
ควัก300ล้านจ้างปรับโอทอปครั้งใหญ่
นายทักษิณได้ถามประชาชนที่ฟังปราศรัยว่าชอบนโยบายอะไรที่ตนทำไว้มากที่สุด โครงการ 30บาทใช่หรือไม่ แล้วกองทุนหมู่บ้านยังมีอยู่หรือไม่ เพิ่มทุนหรือไม่ เมื่อก่อนตอนที่ตนอยู่โอทอปรุ่งเรืองมาก แต่ตอนนี้หายไปเยอะหากโอทอปได้รับการปรับปรุงเหมือนสมัยที่ตนอยู่คงจะขายได้เยอะจะทำให้พี่น้องมีรายได้เพิ่มขึ้น
“ผมใช้เงินส่วนตัว 300 ล้านบาท จ้างชาวต่างชาติปรับปรุงโอทอปครั้งใหญ่ อีกไม่นานเขาจะเปิดตัวว่าจะต้องรื้อไปทำอะไร และเพื่อปรับปรุงโอทอปไปขายทั่วโลกแล้วจะมาเสนอนายกฯอิ๊งค์โดยที่ไม่เก็บเงิน เพราะผมจ่ายเงินไปแล้ว ทั้งนี้นายกฯอิ๊งค์ก็ได้บอกด้วยว่าได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน”
เชื่อกลางปีหน้าเห็นแสงสว่างแน่
นายกฯอิ๊งค์เป็นลูกคนเล็กเป็นคนที่ติดตามผมไปทุกที่ตั้งแต่ 8ขวบ แม้กระทั่งไปประชุมเอเปกก็ติดตามผมไป วันนี้ไปประชุมเองเป็นนายกฯเองแต่สิ่งที่นายกฯอิ๊งค์มีอยู่เหมือนผมทุกอย่างคือ ความรักและความห่วงใยพี่น้องประชาชน คิดว่าต้องแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้ได้
และเชื่อว่ากลางปีหน้าพี่น้องประชาชนจะเห็นแสงสว่าง ปลายปีจะเห็นเศรษฐกิจที่คึกคักมาก เขาบ่นกับผมมาคำหนึ่งว่า พ่อ อิ๊งค์คิดว่าการผูกขาดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการผูกขาดโดยรัฐก็ดี หรือผูกขาดโดยเอกชนก็ดี ทำให้คนไทยจน เพราะการผูกขาดเหมือนเป็นเสือนอนกิน วันนี้จึงต้องลดทุนของการผูกขาดให้ประชาชนมากที่สุด
แนะเลิกกฎหมายเก่าๆทำคนไทยจน
นายทักษิณกล่าวว่าแม้กระทั่งข้าวที่ส่งออกต่างประเทศก็ต้องผ่านสมาคมผู้ส่งออก มีการตรวจสารพัดซึ่งเป็นต้นทุนของเกษตรกรและกฎหมายนี้ก็ใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บอกว่าข้าวเป็นยุทโธปกรณ์หรือเครื่องมือทางทหารที่ต้องควบคุม แต่ทุกวันนี้ก็ยังใช้กฎหมายเดิมอยู่ ดังนั้น จึงต้องยกเลิกกฎหมายเก่าๆที่ทำให้คนไทยจน โดยเฉพาะเสรีภาพทางการค้าขายต่างๆ
“เวลาพรรคประชาชนมาหาเสียง ท่านต้องบอกพรรคประชาชนว่าไม่ต้องเสนอกฎหมายใหม่หรอก ยกเลิกกฎหมายเก่าที่เป็นปัญหากับประชาชนดีที่สุดวันนี้แข่งกันออกกฎหมายใหม่ แข่งกันไปทำไมเพราะกฎหมายเก่าเฮงซวยเยอะแยะก่อนสร้างสิ่งใหม่เอาสิ่งเฮงซวยออกไปก่อนล้างซวย”นายทักษิณ กล่าว
ขู่ค้ายาระวังตัวให้ดี-แนะหากินสุจริต
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่าด้านระบบการศึกษาเราต้องปรับค่านิยมของคนไทย อย่าให้ลูกรับปริญญาแล้วไม่มีงานทำ และโลกบอกว่าปริญญามีความสำคัญน้อยกว่าความชำนาญวันนี้ขอฝากพี่น้องบ้านดุงให้บอกว่าวันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ใครค้ายาแถวนี้ระวังตัวให้ดี ทักษิณเกลียดพ่อค้ายา ถ้าอยากให้ทักษิณรักต้องเลิกค้ายา มาทำมาหากินสุจริตกันดีกว่า เพราะลูกหลานเราไม่ไหวกันแล้วประสาทหลอน วันนี้ต้องเอาลูกหลานกลับคืนมา แล้วทักษิณก็ขยันเดินตรวจด้วย ตรวจเจอพ่อค้ายาก็เรียกมาเลย“ไอ้ห่ามึงมานี่ รู้จักกูเปล่า”เป็นคนแก่หัวใจหนุ่ม
ปลุกชนะขาดถล่มทลายอย่าให้อายนะ
นายทักษิณกล่าวด้วยว่า นโยบายหลักของพรรคไทยรักไทยคือลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ซึ่งยังใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ทำเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ดี เลยต้องมาสนใจอบจ.ซึ่งสมัยที่นายวิเชียรลงเลือกนายกอบจ.ตนเขียนจดหมายมา แต่วันนี้ตนมาด้วยตัวเองแล้ว เพื่อสนับสนุนผู้สมัครเบอร์สอง
“ถ้าไม่ได้ชนะถล่มทลาย ผมอายเขานะคนอุดรฯอย่าให้ผมอายนะ ถ้าไม่อาย ผมจะได้มาเยี่ยมบ่อยๆถ้าไม่งั้นผมต้องใส่หน้ากากอนามัยมาเยี่ยม ต้องเอาปี๊บมา”นายทักษิณ กล่าว
พร้อมถามว่าใครได้เงิน10,000ไปแล้วบ้างคนที่ไม่ได้อยากได้หรือไม่ มาแน่มาช้าดีกว่าไม่มาใช่หรือไม่ นี่เป็นวัฒนธรรมที่สืบมาจากพรรคไทยรักไทยที่พูดอะไรแล้วต้องทำ แต่วันนี้ทำยากกว่าเมื่อก่อนเพราะมีกลไกข้าราชการเทอะทะจากการปฏิวัติ
เมินเสียงนักร้อง-ซัดหมาอยู่ส่วนหมา
นายทักษิณยังระบุว่า บางกฎหมายคนจะเขียนก็เอารูปตนตั้งไว้แล้วบอกว่ากูจะจัดการมันอย่างไรดีอิจฉาอะไรก็ไม่รู้ทำให้การช่วยเหลือบ้านเมืองนั้นทำได้ยาก หาว่าครอบงำ นักร้องก็เยอะไม่รู้มันร้องอะไรนักหนา วันนี้ผมไม่คิดอะไรมาก แค่อยากช่วยชาวบ้านให้หายจน อยากให้ยาเสพติดหมดไป ใครอยู่แถวนี้ต้องใช้ความพยายาม พี่น้องต้องมีกำลังใจ
“ช่วงชีวิตนี้ เป็นช่วงชีวิตที่ผมมีความสุขมากที่สุด แม้จะโดนร้องโดนเห่าหอนบ้าง โอ้ยธรรมดาพี่น้องเอ้ยเวลาไปวัดกลางคืน กลับบ้านมาหมาก็เห่าหอนเป็นธรรมดา อย่าไปพยายามตีความว่ามันเห่ายังไงอย่าไปใส่ใจ หมาอยู่ส่วนหมา คนก็อยู่ส่วนคน”อดีตนายกฯระบุ
หดหู่พัฒนาช้า ชี้ต้องเลิกดัดจริต
นายทักษิณ กล่าวอีกว่าตนกลับมาแล้วพี่น้องต้องมีกำลังใจอีกนิด ตนเหลืออีก 25ปีจะครบ 100 ปี ก็ขอให้ช่วยกัน แต่เห็นสภาพบ้านเมืองแล้วหดหู่ หากปล่อยไว้แบบนี้คนไทยจะเหมือนคนลาวถูกพัฒนาช้า พัฒนาเร็วเฉพาะส่วน คนส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้ง ตนเป็นคนบ้านนอก ใจเป็นห่วงที่สุดคือคนรากหญ้า สิ่งที่ยากเลยคือนักการเมืองเฮงซวย หากการเมืองเฮงซวยเมื่อไหร่ นักการเมืองก็เฮงซวยตามระหว่างที่ออกไปเขาก็สร้างระบบกติกาให้การเมืองมันเฮงซวยขึ้นเรื่อยๆวันนี้ต้องเลิกดัดจริต ต้องอยู่กับความเป็นจริงว่าบ้านเมืองเราต้องการการพัฒนาสูงมาก
“ทุกวันนี้ระบบราชการเทอะทะควบคุมมากเกินไป ไม่ไว้ใจประชาชน ที่จริงแล้วประชาชนสามารถช่วยตัวเองและตัดสินใจเองได้ ประเทศจะเจริญได้ต้องลดอำนาจภาครัฐ เพิ่มอำนาจให้ภาคประชาชน เพื่อป้องกันเรื่องโอกาสที่ไม่เท่าเทียมกัน พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนหรือพรรคสีส้ม นั้น มีความเหมือนคือเรื่องของความเท่าเทียมแต่พรรคประชาชนบอกว่าทุกคนเท่ากันทั้งฐานะหรือสถานะซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พ่อจะเท่ากับลูกแต่พรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นความเท่าเทียมทางโอกาส พรรคเพื่อไทยจึงพยายามอย่างยิ่งให้จนยากจนมีโอกาสเท่าเทียมกัน นายกฯอิ๊งค์บอกว่าจะประกาศข่าวดีในการที่จะหาเงินส่งลูกหลานไปเรียนเมืองนอก”นายทักษิณ ย้ำ
จี้รบ.จัดการเด็ดขาดแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายทักษิณกล่าวว่าส่วนใครโดนคอลเซ็นเตอร์หลอก นายกฯอิ๊งค์บอกว่าหากธนาคารไม่ดูแล ต่อไปธนาคารต้องมารับผิดชอบซึ่งคอลเซ็นเตอร์ตัวแสบอยู่ที่เมียนมาซึ่งใช้ระบบสื่อสารไทย ใช้ไฟฟ้าไทย นายกฯ อิ๊งค์เลยบอกว่า บริษัทที่ทำโทรศัพท์ทั้งหลาย หากใครให้บริการข้ามเขต ต้องถือว่าเป็นจำเลยร่วมและสั่งการไฟฟ้า หากจ่ายไฟไปทำยาเสพติด ต้องเจอข้อหาจำเลยร่วม พระพุทธเจ้าบอกว่าเกิดเหตุที่ไหนต้องดับที่นั่น เราจึงต้องดับที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายทาง ต้องจัดการเด็ดขาด ในเรื่องการใช้กฎหมายและการบริหารบ้านเมือง เพื่อประชาชนพร้อมย้ำว่าขอให้มั่นใจว่ากลางปีหน้าจะเห็นแสงสว่าง ปลายปีหน้าจะรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเยอะ
เสียดาย 17ปีปชช.ยังไม่หายจน
นายทักษิณกล่าวอีกว่านึกว่าตนไม่อยู่ 17ปีคนอุดรฯจะหมดหนี้แล้วอุตส่าห์ปฏิวัติตั้ง 2รอบแต่ยังจนอยู่เลยนะ ขออย่าไปเชื่อหวยเถื่อนทั้งหลายและอย่าไปเชื่อสายมูมาก พี่น้องที่ติดยาเสพติด เห็นนรกแน่ๆเราต้องขจัดให้ได้ซึ่งอบจ.จะเป็นส่วนสำคัญที่พาลูกหลานไปบำบัด ต่อไปกลไกของรัฐบาลนายกฯอิ๊งค์บอกว่าจะต้องใช้ท้องถิ่นเยอะๆแต่การบำบัดต้องเป็นรัฐบาลจึงจะมีงบเยอะอยากให้พี่น้องตั้งใจร่วมกับตนว่าจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองร่วมกัน มาบอกให้ตนรู้
พร้อมกล่าวว่าเมื่อก่อนตนทำทัวร์นกขมิ้นไปทุกอำเภอ เป็นนายกฯคนเดียวที่เดินทางถึงประเทศไทยมากที่สุดไปที่ไหนก็ได้รับจดหมายน้อยซึ่งข้อความคือทุกข์ที่พบอยู่ในหมู่บ้านจึงได้สร้างโครงการที่ชื่อว่าเอสเอ็มแอลทำให้ตนได้รับรู้ปัญหาของประชาชน
ลั่นต้องชนะเยอะๆให้ถล่มทลาย
นายทักษิณยังฝากนายศราวุธ ผู้สมัครเลือกตั้งนายกอบจ.เบอร์2 สมัยที่แล้วเคยเคยเป็นประธานกรรมาธิการต่างประเทศลำดับต่อไปเป็นรัฐมนตรี โชคร้ายสอบตกจึงขอให้พี่น้องอุ้มมาเป็นนายอบจ.และอนาคตจากอบจ.เป็นรัฐมนตรีระหว่างนั้นนายศราวุธ ได้คุกเข่ากราบพี่น้องประชาชนที่มาฟังปราศรัย
นายทักษิณปราศรัยกล่าว”ชนะน้อยๆ ไม่สนุก ต้องชนะเยอะๆ ต้องชนะให้ถล่มทลาย ผมจะได้เดินทางมาหาพี่น้องที่อุดรอย่างหล่อๆไม่อยากเดินมาแบบมีหน้ากาก มีปี๊บ”
มั่นใจจะเห็นแก้ก่อนเลือกตั้งใหญ่
นายทักษิณย้ำทิ้งท้ายว่าขอให้พี่น้องมีพลังมีกำลังใจวันนี้เพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลแล้ว เป็นพรรคที่เป็นนักแก้เศรษฐกิจ นักแก้ปัญหายาเสพติด นักกระจายอำนาจลงสู่ภาคประชาชน และวันนี้จะเป็นนักแก้การผูกขาด ขอให้พี่น้องอดทนมาร่วมกันอีกนิดเดียว ตนมั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นท่านจะได้เห็นก่อนการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้า
ก่อนที่นายทักษิณพูดแก้ว่าเป็นปี70 เดี๋ยวจะตีความว่าจะยุบสภาแล้ว ตนพูดผิดพร้อมย้ำว่าอย่าลืมเบอร์2นะ เบอร์2เป็นคนของทักษิณ”
ทักทายแฟนคลับทั้งเซลฟี่-กอดชื่นมื่น
หลังการปราศรัยที่อ.บ้านดุง ช่วยผู้สมัครนายกอบจ.อุดรธานีเสร็จสิ้นนายทักษิณลงจากเวที ปรี่หาชาวอุดรที่มาฟังปราศรัยเพื่อทักทาย โดยนายทักษิณได้เซอร์วิสแฟนคลับทั้งจับมือและรับดอกไม้ บางรายมอบกระเช้า ผลิตภัณฑ์ชุมชน อย่างเป็นกันเองบางคนเจอหน้าอดีตนายกฯแล้วร้องไห้บอก”ขอกอดหน่อย” บางรายเจอแล้วยังงงๆกำลังขอถ่ายรูป นายทักษิณได้หยิบมือถือชาวบ้านขึ้นมาเซลฟี่ให้ ช่วงท้ายคนเสื้อแดงที่เคยชุมนุมเมื่อปี 2553 เดินทางมาจากมหาสารคาม เพื่อพบอดีตนายกฯโดยนายทักษิณก็ได้เข้าไปกอดก่อนเดินทางกลับ เพื่อเตรียมปราศรัยตอนเย็นที่ทุ่งศรีเมือง
‘สมชัย’ไขคำตอบ4ข้อชี้ช่องเช็กบิล‘แม้ว’
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการและอดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก“ปั่นไปไหน-สมชัย ศรีสุทธิยากร”ระบุว่า...มีสื่อโทรมาขอความเห็นกรณี คุณทักษิณ ไปช่วยหาเสียง อบจ.อุดร ขอตอบทีละประเด็นเพื่อให้ทราบทั่วไปตามนี้ 1. คุณทักษิณ ไปช่วยหาเสียงได้หรือไม่ คำตอบ : ได้ เนื่องจาก คุณทักษิณ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองในการลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่มีสิทธิที่จะร่วมกิจกรรมหารเมืองในฐานะผู้ช่วยหาเสียง โดยผู้สมัครต้องทำหนังสือแจ้ง กกต.(มาตรา 66 พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น)2. มีป้ายรูป คุณทักษิณ ในการหาเสียงประกบกับผู้สมัครได้หรือไม่ คำตอบ : ได้ เนื่องจากระเบียบการหาเสียง ระบุเพียงว่า การนำภาพบุคคลใดมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ต้องได้รับคำยินยอมจากบุคคลนั้นเท่านั้น(ข้อ18 ระเบียบ การหาเสียงท้องถิ่น 2563)แตกต่างจาก ระเบียบการหาเสียง สส. ที่เอาภาพบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องมาลงไม่ได้
มีโอกาสสุ่มเสี่ยง หลอกลวงให้เข้าใจผิด
3. คุณทักษิณพูดบนเวทีว่า ถ้าจะเลือกทักษิณ ให้เลือกเบอร์2 ผิดหรือไม่ คำตอบ : มีโอกาสสุ่มเสี่ยงว่า ผิด มาตรา 65(5) พ.ร.บ. เลือกตั้งท้องถิ่น ว่าด้วยการหลอกลวงให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมผู้สมัคร ผู้ทำผิดมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี (มาตรา 126 พ.ร.บ. เลือกตั้งท้องถิ่น) ส่วนผู้สมัคร อาจได้รับคำวินิจฉัยให้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต (ใบเหลือง)ได้4. ใครมีสิทธิร้องต่อ กกต. ตอบ : ต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการเลือกตั้ง อบจ.อุดร คือ ผู้สมัครด้วยกัน หรือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ชัดเจนนะครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี