“ธนกร” หนุน รัฐบาลเร่งปราบธุรกิจนอมินีต่างด้าว หลังตั้งคกก.ร่วม 10หน่วยงานตรวจสอบเข้ม แนะตั้งKPI ประกบเห็นผลชัดใน3 เดือน  ชี้ ปัญหาใหญ่กระทบภาพลักษณ์ปท.ต้องเด็ดขาด ฝากรื้อทั้งระบบสร้างความมั่นใจให้ปชช.

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ  อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า หลังจากมีคนต่างชาติลักลอบเข้ามา ประกอบธุรกิจต่างๆทั้งการขายสินค้าโรงงาน ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ หลายย่านในกรุงเทพฯ แม้ว่ามีการจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่ก็มีพฤติการณ์ใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินีเปิด จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบอย่างเข้มข้นจริงจัง  โดยทราบว่าล่าสุด นายกฯสั่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว โดยร่วมมือกับ 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบสแกนบริษัทที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยทั้งหมด  จึงขอสนับสนุนให้เกิดการตรวจสอบและปราบปรามเอาผิดดำเนินการทางกฎหมายกับต่างด้าวที่ดำเนินธุรกิจนอมินี เพื่อป้องกันการฟอกเงิน ป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ  ที่สำคัญไม่ให้เป็นการแย่งงานคนไทยทำธุรกิจ นี่ถือเป็นภัยความมั่นคงของประเทศอีกด้านหนึ่งที่สำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งปราปรามแก้ไข

ทั้งนี้ขอฝากกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดเข้มข้นและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเด็ดขาดเนื่องจากมีกลุ่มบริษัทต่างด้าว กระทำการดังกล่าวจำนวนมาก ไม่ใช่แค่ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่มีทั่วประเทศ  โดยต้องมีการกำหนดตัวชี้วัดหรือ KPIในการตรวจสอบในระยะเวลา 3 เดือนแรก ขอให้เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจนและแก้ปัญหาในระยะยาวให้เกิดความยั่งยืน เพื่อสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่ทำธุรกิจอย่างถูกต้อง และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ดำเนินธุรกิจจะได้รับความเป็นธรรม

“ขอสนับสนุนให้รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกหน่วยงาน เร่งรื้อทั้งระบบ ลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจต่างด้าวนอมินีอย่างจริงจังเด็ดขาด เพราะถือเป็นภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นและป้องกันการใช้ประเทศไทยเป็นฐานอาชญากรรมข้ามชาติ ทำธุรกิจนอมินี อาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินต่างๆ ซึ่งบางส่วนอาจจะต้องมีการแก้กฎหมายเพื่อบังคับใช้ให้ครอบคลุม ทั้งนี้หากมี KPI เพื่อวัดผลการทำงานของคณะกรรมการ เชื่อว่าจะเห็นผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจนสร้างความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจและประชาชนได้“ นายธนกร กล่าว