ไม่หวั่น‘แม้ว’โวกวาด 200 เสียง
‘เสี่ยหนู’ดักคอ
ทุกพรรคย่อมมีเป้าหมายตัวเอง
‘ปชน.’ขนทัพลุยอุดรธานี
ตลบหลังพท.ชิงนายกอบจ.
“พิธา” ยกทัพตรึงอุดรธานี หลังโดน “ทักษิณ-พท.” แย่งเรตติ้ง 2 วันร่วมงานลอยกระทง ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ 3 จุด 16 พฤศจิกายน ด้าน“จตุพร” ชำแหละ “ทักษิณ” ปราศรัยงัดกลยุทธ์ สร้าง “ปชน.” เป็น“ปีศาจใหม่” ผลัก “พท.” รอด “ปีศาจเก่า” แต่ไม่เสนอนโยบายพัฒนาท้องถิ่น โชว์ลีลาดาบตระบัดสัตย์ไร้ปรานีฟาดฟันนักร้อง แบ่งซีกดูถูกหยามเหยียด แยกคนอยู่ส่วนคน หมาอยู่ส่วนหมา
เมื่อวันที่ 15พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรคประชาชน (ปชน.) ถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่ส่ง นายคณิศร ขุริรัง หรือทนายแห้ว ลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่จะมีการลงคะแนนกันในวันอาทิตย์ที่ 24พ.ย.ว่า พรรคปชน.จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในวันเสาร์ที่ 16พ.ย.นี้ ภายใต้สโลแกน “เปลี่ยนอุดรให้ก้าวไกล อบจ.รับใช้ประชาชน” รวม 3จุดสำคัญ ซึ่งจะนำทีมโดยแกนนำพรรค เช่น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านฯ นายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ สส.อุดรธานี เขต1พรรคประชาชนและผู้ช่วยหาเสียง เช่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลและนส.พรรณิการ์ วานิช เป็นต้น
‘พิธา’ลุยหาเสียงอุดรเปิด3เวทีใหญ่
โดยเวทีปราศรัยใหญ่ เวทีที่1 ตลาดนิยม อ.บ้านผือ เวลา 10.30-12.00น.เวทีปราศรัยใหญ่เวทีที่ 2 บ้านนายกบัวเงิน อ.หนองหาน เวลา 15.30-17.00น.และปราศรัยใหญ่เวทีที่3 หนองประจักษ์ อ.เมือง เวลา 17.00 – 19.00 น. ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า นายพิธา จะเดินทางไปช่วยหาเสียงตั้งแต่เย็นวันนี้ 15พ.ย. โดยจะไปร่วมงานลอยกระทง ที่หนองประจักษ์ อำเภอเมือง ซึ่ง นายพิธา บินกลับจากสหรัฐอเมริกา เพื่อมาช่วยหาเสียงให้ทนายแห้ว หลังพรรคเพื่อไทย (พท.) ดึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคณะใหญ่ ไปช่วยหาเสียงให้ นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ของพรรคเพื่อไทย
จตุพรซัด’แม้ว’โจมตีปชน.ปีศาจใหม่
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 14พ.ย.67โดยเชื่อว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปอุดรธานี ไม่ได้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.แต่ต้องการเล่าความหลังสื่อสารการเมืองมวลชนหวังปลุกพลังเก่าให้ลุกตื่นขึ้นจึงแสดงถึงอารมณ์ตรึงเครียดซ่อนลึกในใจกับปัญหาการร้องเรียนจากบรรดานักร้องต่างๆ กำลังกระชับเร่งเข้ามาทุกขณะ อีกทั้งกล่าวว่า การหลุดคำพูดเชิงดูถูกคน โดยเน้นเสียงหยามเหยียด อย่าไปสนใจกับพวกนักร้องเรียนที่คอยจับผิดหาเรื่อง พร้อมแยกแบ่งเป็นคู่ตรงข้ามให้คนอยู่ส่วนคน หมาอยู่ส่วนหมาและตั้งตัวเองเป็น สทร.หรือเสือกทุกเรื่องของรัฐบาลลูกสาว ส่วนที่พูดถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เรื่องดีลฮองกง ซึ่งเสนอแนะไม่ให้รื้อโครงสร้างใหญ่ ไม่แตะ ม.112 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า เท่ากับผลักพรรคประชาชน(ปชน.) ให้เป็นปีศาจตัวใหม่ เพื่อตัวเองได้หลุดพ้นจากปีศาจ สิ่งนี้สะท้อนว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นพรรคสกัดกั้นพรรคปีศาจใหม่ที่สร้างขึ้นมาไม่ให้มีฤทธิ์เดชรื้อโครงสร้างสังคมได้ อย่างไรก็ตาม แม้สร้างปีศาจตัวใหม่ขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่ไว้วางใจสถานการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกนโยบายล้วนสร้างความอยากให้ประชาชนทั้งสิ้น แค่พูดหาเสียงจะแจกเงินหมื่นให้ผู้สูงอายุ ถัดมาอีกวัน รมต.คลังขานรับทันที่ แทนที่ให้ รมต.คลังพูดก่อนแล้วทักษิณพูดที่หลัง ย่อมจะไม่ถูกตีความพฤติกรรมครอบงำได้
ไหนบอกกลับเลี้ยงหลาน-ไม่ยอมติดคุก
นายจตุพร กล่าวว่า อีกทั้งการพูดไม่ชอบหน้าพ่อค้ายาเสพติด บ่งบอกจะทำสงครามปราบปรามยาเสพติดแบบฆ่าตัดตอน 2,500ศพกันต่อหรือไม่ ถ้าจะทำเช่นนี้อีกคงต้องเลิกกฎหมายแล้วใช้วิธีศาลเตี้ยเพื่อจับมาฆ่ากัน สิ่งชัดเจนในการไปอุดรครั้งนี้ เท่ากับเป็นการปฏิบัติการทางการเมืองอย่างครบถ้วน เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นด้วยการหลอกลวงจะกลับมาเลี้ยงหลาน ไม่ติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว แล้วทุกเรื่องที่ก่อขึ้นนับตั้งแต่กลับไทยกำลังมาถึงจุดต้องยุติแล้ว อีกอย่าง ศาลรธน.จะวินิจรับคำร้อง 6ประเด็นของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในวันที่ 22พ.ย.ย่อมบ่งชี้ถึงอนาคต นายทักษิณ พรรคเพื่อไทย รวมถึงอาจสั่งให้นายกฯ ยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะมีกรณีสนามกอล์ฟอัลไฟน์ ซึ่งเป็นคดีสำเร็จรูปรอเล่นงานอยู่ ปรากฏการณ์ไปหาเสียงอุดรขณะนี้ ดูเหมือนคนเสื้อแดงเจ็บไม่จำและพร้อมให้ถูกหลอกอีก โดยไม่จดจำคำพูดที่เคยให้ไว้ แต่ทักษิณทำไม่ได้สักเรื่อง อย่างไรก็ตามความนิยมที่เกิดขึ้นตั้งแต่เป็นนายกฯ เมื่อปี 2544 แล้วออกนอกประเทศนาน 17 ปี ยังคงรักษาความศรัทธาของประชาชนเอาไว้ได้ด้วยดี
ตัวเองต้นตอปฎิวัติ-ทำปท.ไม่เจริญ
นายจตุพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยที่ขายจุดยืนประชาธิปไตย แต่เมื่อตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ไม่ปฏิบัติตรงตามคำพูดหาเสียงไว้กับประชาชน ทำให้ความรู้สึกของประชาชนไม่เหมือนเดิมอีก แล้วกระทบถึงเสียงจากเลือกตั้งไม่เหมือนเดิมอีกเช่นกัน ดังนั้น ย่อมไม่สามารถอ้างถึงสองมาตรฐาน ความยุติธรรม รัฐประหารและประชาธิปไตยได้อีกต่อไป “วันนี้ไม่ใช่การยึดอำนาจเป็นปัญหาอย่างเดียว แต่ประชาธิปไตยทุจริตก็เป็นปัญหา ทักษิณพึ่งต้องรู้ว่าตัวเองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองเป็นอยู่กันเช่นนี้ แม้จะพูดดูถูกคนให้คนอยู่ส่วนคน หมาอยู่ส่วนหมา ซึ่งจะว่าใครไม่รู้ แต่การร้องถึงคนกระทำผิดตาม รธน.และกฎหมายที่เกี่ยวข้องย่อมเป็นสิทธิ ถ้าไม่ได้ทำผิดแล้ว จะกลัวอะไร”นายจตุพร ย้ำ
ไม่มีนโยบายเกี่ยวกับอบจ.สักข้อเดียว
นายจตุพร กล่าวว่า ช่องทางประชาชน ถ้าไม่ลงถนนก็มีเพียงใช้สิทธิร้องทางการเมืองตาม รธน. เพื่อลดความสูญเสีย ถ้าไม่ให้ร้องตามสิทธิแล้ว ประชาชนมีทางเดียวคือลงถนน ดังนั้นการใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ถ้าไม่พร้อมจะถูกตรวจสอบก็อย่ามาเป็นนักการเมือง การยื่นคำร้องหลายหลากกรณีนั้น ถ้าตัวเองบริสุทธิ์จริงย่อมทำอะไรไม่ได้ หากทำผิดกฎหมายแล้วผู้ร้องก็มีสิทธิ ถ้าไม่เห็นด้วยต้องไปแก้กฎหมายไม่ให้ร้องเรียนใดๆ กับนักการเมืองในประเด็นการทุจริตชาติบ้านเมือง ยังจำไม่ได้หรือรธน.2540 ปิดช่องทางการตรวจสอบจนนำไปสู่การพังทลายของพรรคไทยรักไทยที่ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว 377 เสียง เหลือฝ่ายค้านมีเสียง 123 จนไม่สามารถอภิปรายนายกฯ ได้ เมื่อสภาแตะต้องนายกฯ ไม่ได้ จึงทำให้การเมืองขยับออกมาอภิปรายบนถนน วันนี้คณะยื่นคำร้องใช้อำนาจตาม รธน.เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ จึงเป็นสิทธิ หากไม่ชอบให้ถูกตรวจสอบ โดยบอกให้คนอยู่ส่วนคน หมาอยู่ส่วนหมา แล้วใครคือหมา คือเป็นคน ซึ่งยังสรุปไม่ได้ ดังนั้น ถ้านักการเมืองไม่พร้อมจะถูกตรวจสอบอย่าเสนอหน้า อย่าสะเออะมาเป็นนักการเมือง วันนี้ทักษิณ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต แต่ทำตัวปราศรัยเสมือนหนึ่งเป็นผู้มีอำนาจ เป็นผู้นำ ทั้งที่ตัวเองแค่ผู้ช่วยหาเสียงนายก อบจ.แต่นโยบายเกี่ยวกับ อบจ.ไม่มีสักข้อ
“การหาเสียงนายก อบจ.เป็นเพียงสิ่งบังหน้าเท่านั้น แต่ถ้ามาปลุกการต่อสู้อีกครั้งย่อมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะคนที่เคลื่อนไหวเพื่ออุดมการณ์ เพื่อบ้านเมืองจริงๆ นั้น ไม่มีใครจะยอมรับได้ เพราะความไม่ซื้อตรง ไม่เป็นไปตามคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่ว่าคนเป็นหรือคนตายก็ตาม ดังนั้น วันนี้เท่ากับไปแหวกหญ้าให้เห็นอารมณ์ตรึงเครียดกันอย่างเต็มที่” นายจตุพร กล่าว
‘เทพไท’ซัดสามหาว-ระวังปากพาจน
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก”เทพไท-คุยการเมือง”ระบุว่า
ทักษิณ ปราศรัย ระวังปากพาจนนายทักษิณ ชินวัตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงนายกอบจ.อุดรธานี หลายเวทีใช้คำพูดที่ดุเดือดรุนแรง วิญญาณเดิมของคุณทักษิณกลับคืนมา โดยไม่สนใจอะไรในสังคม มีหลายคำที่พูดเป็นคำหยาบ เหยียดหยามฝ่ายตรงข้าม การปราศรัยของ นายทักษิณ ช่วงสั้นๆ แต่พาดพิงในหลายส่วน เช่น 1.การกล่าวหาสภาพบ้านเมืองหดหู่ พัฒนาช้า ต้องถามคุณทักษิณว่า คุณเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาบ้านเมือง ที่ทำให้การเมืองถอยหลังเข้าคลอง ถ้าคุณเป็นรัฐบาลที่ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และทุจริตเชิงนโยบาย ก็ไม่มีการรัฐประหารมาทำให้ประชาธิปไตยถอยเข้าคลอง 2.การกล่าวพาดพิงไปถึงคนลาวพัฒนาช้า เป็นการบูลลี่คนลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน โดยมารยาทไม่ควรยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เขาได้รับความเสียหาย ควรให้เกียรติและให้ค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นคนลาวหรือคนไทย
ด่านักการเมืองเฮงซวยเท่ากับด่าตัวเอง
3.การพูดถึงชีวิตคนรากหญ้า ซึ่งคุณทักษิณ ได้สร้างนโยบายประชานิยม จนคนไทยเสพติดการแจกเงิน แม้ว่าคุณทักษิณจะประกาศว่า รัฐบาลที่แจกเงินคือรัฐบาลปัญญาอ่อน แต่ในที่สุดรัฐบาลแพทองธาร ก็แจกเงินให้กับประชาชนคนละ 10,000 บาทมาแล้ว และบนเวทีปราศรัยคุณทักษิณยังประกาศว่า จะแจกเงินคนละ10,000บาทให้กับคนอายุ60 ปีขึ้นไป ที่ไม่ใช่กลุ่มคนเปราะบางอีกด้วย การแจกแบบนี้ต้องถามว่าเป็นรัฐบาลปัญญาอ่อนหรือไม่ 4.การด่านักการเมืองเฮงซวย การเมืองเฮงซวย ต้องบอกว่าคำพูดแบบนี้ไม่ควรจะออกมาจากปากของอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณเองก็เป็นนักการเมือง ลูกสาวก็เป็นนักการเมือง คนในตระกูลเป็นนักการเมือง ถ้าจับเหมารวมว่านักการเมืองเฮงซวย ก็หมายความว่าคนในตระกูลชินวัตรเฮงซวยด้วยใช่หรือไม่ 5.คูณทักษิณอ้างว่า ตอนที่ตนไม่อยู่ มีการสร้างกติกาทางการเมืองที่เฮงซวยนั่น น่าหมายถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องถามคุณทักษิณว่า ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ดี เป็นรัฐธรรมนูญเฮงซวย ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่เดินหน้าเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทำไมต้องยกเว้นหมวด1และหมวด2 อย่าทำเป็น“เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง”
‘อนุทิน’เย้ย200เสียง-ทุกพรรคก็ทำกัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยบนเวที จ.อุดรธานี เพื่อช่วยผู้สมัครเลือกตั้งนายก อบจ.โดยประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะได้ไม่ต่ำกว่า 200เสียง จะกระทบกับพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า ทุกพรรคพยายามตั้งเป้าหมาย ถือเป็นหน้าที่ของผู้สมัคร สส.ต้องทำให้ดีที่สุด และทำให้ประชาชนเชื่อถือ จึงจะได้เข้ามาเป็น สส.ทั้งนี้ การตั้งเป้าหมายของแต่ละพรรค ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดี
ภท.ยังไม่รีบหาเสียง-ขอทำงานก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณจะกระทบรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีหลายคนจ้องจะร้อง นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปร้องสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ตนเชื่อมั่นว่าคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ก่อนจะเชิญนายทักษิณ ไปช่วยหาเสียง คงจะตรวจสอบข้อกฎหมายอย่างรัดกุม คนระดับนายทักษิณคงเตรียมการมาอย่างดี ไม่ได้คิดวันนี้แล้วไปเลย ทุกคนมีสิทธิอาสารับใช้บ้านเมือง แต่ต้องทำภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า พรรค ภท.ดูเงียบๆ ไม่เคลื่อนไหวเตรียมพร้อมเลือกตั้งช่วงนี้ หากเปรียบเทียบกับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า เราขอทำงานก่อนดีกว่า เรื่องการเมืองหากไม่มีอะไร ก็ขอให้ไม่มี สส.ภูมิใจไทยก็ลงพื้นที่ เพราะมีงานต่างๆ มากมาย ในส่วนรัฐมนตรีก็ทำงานอย่างเต็มที่ ขึ้นเหนือล่องใต้ เมื่อถามว่า ในส่วนการเลือกตั้งนายก อบจ. พรรคภูมิใจไทยจะไม่ส่งใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะไม่ส่งในนามพรรค ส่วนใครสนิทสนมกับใคร หรือจะไปช่วยเชียร์ ก็เป็นไปตามอัธยาศัย
เมื่อถามย้ำว่า จะเห็น นายอนุทิน เป็นผู้ช่วยหาเสียงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูกฎหมาย เพราะตนเป็น รมว.มหาดไทยและเพิ่งสั่งการให้ข้าราชการกระทรวงวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งท้องถิ่น นอกจากนี้ การลงสมัครนายกอบจ.ไม่ได้ลงในนามพรรค หากตนจะไปต้องไปในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ซึ่งคิดว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น ขอวางตัวเป็นผู้คุมกฎให้เกิดความเรียบร้อย ให้การเลือกตั้งผ่านไปด้วยดี
‘ภูมิธรรม’มั่นใจปลุกกำลังใจพท.อุดร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดปากชมพรรคเพื่อไทยบนเวทีหาเสียงที่ จ.อุดรธานี ให้มีกำลังใจขึ้นหรือไม่ว่า นายทักษิณ เป็นอดีตคนริเริ่มและก่อตั้งพรรคไทยรักไทย มีพัฒนาการมาจนกลายมาเป็นพรรคเพื่อไทย ถือเป็นเรื่องของสมาชิกทุกคน หรือเป็นคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นแฟนคลับของพรรค ทำให้คนเข้าใจในอุดมการณ์ของพรรค เข้าใจปัญหาของประชาชนและทิศทางการแก้ไขปัญหามากขึ้น ถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้น ถือเป็นเจตนาที่ทุกคนสามารถทำได้ และทำได้เต็มที่ เพราะเป็นจุดมุ่งหมายทำให้ประเทศชาติดีขึ้น
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณเริ่มต้นปราศรัยที่จังหวัดอุดรธานี ที่ถือว่าเป็นฐานเสียงที่สำคัญที่สุดของพรรคเพื่อไทย มีนัยยะว่าจะกลับมาครองพื้นที่อีสานคืนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนห่างจากพรรคมาพอสมควร เพราะมีภารกิจการงานในหน้าที่ราชการมากขึ้น แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจังหวัดอุดรธานีเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ก็คงจะทำให้เต็มที่ที่สุด และเชื่อว่าคนอุดรธานีทั้งจังหวัด ยังรักพรรคเพื่อไทยอยู่
เรื่องปราบยาเสพติดรบ.เน้นอยู่แล้ว
ส่วนที่นายทักษิณพูดถึงปัญหายาเสพติด ถือเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องส่งสัญญาณใดๆ เพราะรัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเต็มที่ ถือเป็นวาระสำคัญลำดับต้นๆของรัฐบาลที่จะผลักดันให้ประเทศหลุดพ้นจากยาเสพติด ในช่วงหลังๆที่ได้ลงพื้นที่ในทุกอณูและทุกชุมชน ชาวบ้านพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นปัญหายาเสพติดจึงสำคัญมากกว่าปัญหาปากท้องด้วยซ้ำ ทำให้เห็นว่าเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เกิดจากมนุษย์ ซึ่งตนเคยให้นโยบาย กับทางกองทัพ การดูแลชายแดนถือเป็นภารกิจสำคัญของกองทัพที่ต้องป้องกันไม่ให้มีการขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี