“พิธา”ลุยตลาดถนนคนเดินอุดร อ้อนชาวอุดร ขอคะแนนให้"คณิศร"นั่งนายกอบจ. แฟนคลับตะโกน"นายกฯตัวจริง" ไม่สนโพลชี้คะแนนเป็นรองเพื่อไทย เมิน “ทักษิณ” พาดพิง บอกไม่มีสาระ โชว์สถิติผลเลือกตั้งอุดร จะบอกเป็นเมืองหลวงเฉดสีเดียวแถมจับมือกับทหาร คงไม่ตรงเจตนารมณ์
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 15 พ.ย.67 ที่ จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน เดินทางมาถึงถนนคนเดินอุดรธานี เพื่อหาเสียงช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อุดรธานี ของพรรคประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินถนนคนเดิน ได้มีแฟนคลับมาพบปะ และขอถ่ายรูปเซลฟี่ โดยช่วงหนึ่งมีแฟนคลับตะโกน “ ฟ้ารักพ่อ” และนายพิธาก็ตะโกนกลับตอบว่า “ พ่อก็รักฟ้า” และ “นายกฯตัวจริง” ช่วงหนึ่งพ่อค้าแม่ค้าร้านกิ๊ฟช็อปก็ได้มอบกิ๊ฟน่ารักฝากไปให้น้องพิพิมลูกสาวของนายพิธาด้วย
บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายพิธา พูดใส่ไมค์ว่า "เสียงที่ทุกท่านได้ยินอยู่นี้ คือเสียงของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ วันนี้มีเรื่องสำคัญมาบอกคือ มาขอเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.จากพรรคประชาชน ที่มีเสียงสส.เป็นอันดับ 1 ในสภาฯ วันนี้ขอมาตามหาชัยชนะ ขอคะแนนความไว้วางใจ"
จากนั้นนายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันแรกประเดิมลงพื้นที่อุดรธานี ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ได้เจอพี่น้องให้หายคิดถึง แต่วันนี้ต้องเปลี่ยนกำหนดการ เนื่องจากเป็นวันลอยกระทง กังวลเรื่องการร่วมงานรื่นเริง ขอบคุณอีกครั้งที่ยังไม่ลืมกัน
ส่วนเรื่องผลโพลที่ระบุว่าผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำกว่าเท่าตัว เรื่องนี้ไม่ได้สนใจกับตัวเลขผลสำรวจกว่า 50% ของประชาชนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งจะใช้วันนี้ที่ยังมีเวลา เสนอผู้สมัครจากพรรคประชาชน ขอเชิญชวนให้คนออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะๆ
ส่วนการปราศรัย ของนายทักษิณที่พาดพิงตน นายพิธา ระบุว่า ไม่ได้คิดว่ามีสาระอะไรมาก ต้องพยายามดูผลประโยชน์ของคนอุดรเป็นสำคัญ อย่างเรื่องที่บอกว่าต้องบินกลับมาเพราะกลัวแพ้ นายพิธายืนยันว่า
“นักการเมือง นักเลือกตั้ง ไม่มีกลัวแพ้หรอกครับ เพราะแพ้มาเยอะ ชนะมาก็แยะ ซึ่งสนามอบจ. ก็อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลง มีปัจจัยหลายอย่าง เพราะพี่น้องคนอุดร ต้องไปทำงานปากกัด ตีนถีบ ที่ต่างประเทศ ดังนั้นมีปัจจัยอื่นเยอะ แพ้ไม่เป็นปัญหา มีแต่ชนะ และพัฒนา ไม่มีแพ้ อย่างปี 2562 สนาม อบจ. เราได้มา 140,000 คะแนน ปี 2563 ได้มา 180,000 ปี 2566 ได้มา 220,000 เพราะฉะนั้นเราแข่งกับตัวเอง เพราะไม่ว่าจะพรรคไหน จะเปลี่ยนผู้นำคนไหน จากผลคะแนน มีความเติบโตต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นคนที่เป็นนักการเมือง ไม่เคยกลัวแพ้ เพราะแพ้ก็กลับมาชนะได้ ชนะก็กลับมาแพ้ได้ มีแต่เผด็จการ ที่กลัวแพ้เลือกตั้ง ถึงไม่ลงเลือกตั้ง และใช้วิธีรัฐประหารเท่านั้น”
ส่วนที่นายทักษิณ พาดพิงถึงประเด็นแก้ไขมาตรา 112 ก็ขอย้อนให้ประชาชนกลับไปดูว่า ตอนเลือกตั้งแต่ละพรรคพูดอะไรไปบ้าง เรื่อง 112 จนถึงวันนี้ เราถูกยุบไปแล้ว ยืนยันว่าที่เราทำไม่มีเจตนายกเลิก หรือทำให้คนเข้าใจผิด แต่เราต้องการปฏิรูปประเทศ รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่กับประเทศไทย เพราะฉะนั้น ความพยายามจะสาดโคลนมา ก็ไม่ได้เป็นความจริง จนถึงทุกวันนี้
ส่วนการมาอุดร ก็มีความมั่นใจ และขอไม่เรียกว่าเมืองหลวงเสื้อแดง เรียกว่าถิ่นของประชาธิปไตย พร้อมยกผลการเลือกตั้งอุดรฯ เขต 1 ครั้งก่อน ว่าพรรคก้าวไกล ก็ได้คะแนนเสียงมากกว่าพรรคเพื่อไทย โดยทั้งจังหวัด เพื่อไทยเป็นอันดับ 1,ก้าวไกลเป็นอันดับ 2 ไทยสร้างไทยอันดับ 3 แต่ยอมรับว่าทั้ง 3 พรรคเป็นประชาธิปไตย เพราะถือเป็น 80% ของชาวอุดร ฯแต่หากจะบอกว่าเป็นประชาธิปไตยแบบเฉดสีเดียว และจับมือกับทหาร ก็คงไม่ถูกต้อง ไม่น่าจะตรงกับเจตนารมณ์การลงคะแนนของชาวอุดรฯ แต่ที่นี่เป็นเมืองหลวงของประชาธิปไตย ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง พร้อมยอมรับด้วยว่าที่มาอุดรฯบ่อยๆเพราะติดใจอาหาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี