ตำรวจ ทหาร ปกครอง จ.บุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมตำรวจ จ.สุรินทร์ ตามไล่ล่าติดตามจับกุมทีมขนลำเลียงยาเสพติดที่จะขนมาขายช่วงเทศกาลลอยกระทง ได้ยกแก๊ง 9 คน ยึดของกลางยาบ้า กว่า 2.5 แสนเม็ด ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง กระสุนปืนอีก 14 นัด
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 พ.ย.67 ที่หอประชุมชัยจินดา ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ , พ.อ.ปิยะวัติ ราชวงศ์ รอง ผบ.มทบ.26 ,พ.ต.อ.ยุทธนา ไตรทิพย์ ผกก.สภ.สตึก ,พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.บ้านด่าน และ พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์) แถลงข่าวการระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2567 ตามยุทธการ ‘พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้’
ซึ่งเป็นผลงานการบูรณาการกำลังร่วมกันระหว่าง ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชปส.ร้อย ตชด.215, ชปส.ร้อย ตชด. 216, กก.ตชด.21 ,เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.(นฝด.22, ขกท.กกล.สุรนารี), เจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.รมน., หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองบุรีรัมย์ อ.บ้านด่าน อ.สตึก และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์
โดยสามารถจับกุมขยายผลทำลายเครือข่ายยาเสพติด ในห้วงระหว่างวันที่ 11-13 พ.ย.67 ได้จำนวน 1 เครือข่าย รวมผู้ต้องหา 9 คน ในพื้นที่ อ.บ้านด่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และพื้นที่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ รวมถึงตามตรวจยึดของกลางเพิ่มเติมได้ในบ้านพักที่ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม รวมของกลางยาบ้า 259,603 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวมถุงบรรจุประมาณ 0.8 กรัม กระสุนปืนจำนวน 14 นัด และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นรถยนต์ 1 คัน กับรถจักรยานยนต์ อีก 1 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 430,000 บาท
โดยคดีแรก เมื่อวันที่ 11 พ.ย.67 จับกุมนายตง อายุ 38 ปี กับนายเหนือ อายุ 20 ปี ได้ในพื้นที่ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลาง ยาบ้า 3,343 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวมถุงบรรจุประมาณ 0.8 กรัม ซึ่งทั้งคู่ทำหน้าที่ไปรับเอายาบ้าจากทีมขนลำเลียงจากต่างจังหวัด หรือนักบินอีกทอดหนึ่ง แล้วนำมารอไปวางต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ หรือเรียกว่านักบินพื้นที่ ตามคำสั่งของชาวลาว จึงได้ขยายผลตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย คือ นายนนท์ อายุ 25 ปี กับนายเนม(นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ได้ในพื้นที่ อ.บ้านด่าน พร้อมพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 600 เม็ด
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผล เข้าจับกุมตัวนายจ๊ะ อายุ 31 ปี ได้ในบ้านพักที่ ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 12,353 เม็ด กระสุนปืนอีก 14 นัด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่าในวันเดียวกันนี้ ได้มีทีมขนลำเลียงหรือนักบิน จะนำยาบ้ามาส่งมอบให้กับ นาย ตง อายุ 38 ปี ชาว อ.บ้านด่าน ทำหน้าที่เป็นนักบินในพื้นที่ และถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ จึงวางแผนจับกุม และสามารถไล่ติดตามจับกุมตัวทีมนักบินที่นำยาบ้ามาส่งมอบให้ได้ 2 ราย คือนายป้อม อายุ 40 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ กับนายต้อม อายุ 38 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ขณะนำยาบ้าจำนวน 15 มัด หรือจำนวน 30,000 เม็ด มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ แต่ไหวตัวทันเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามจากพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางในพื้นที่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์
จากการสอบถาม นายป้อม กับนายต้อม ให้การยอมรับสารภาพว่ายังมียาบ้าเก็บซุกซ่อนไว้ในบ้านเช่าแห่งหนึ่งอยู่ใน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม โดยมีรุ่นน้อง 2 คน ทำหน้าที่เฝ้าดูแลอยู่ จึงเดินทางไปตรวจสอบและตรวจยึดของกลางยาบ้าได้อีกจำนวน 244,107 เม็ด และจับกุม นายโอเว่น อายุ 21 ปี ชาว จ.ขอนแก่น กับ น.ส.พอลล่า (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่ทำหน้าที่คอยเฝ้าดูแลยาบ้า จึงได้ทำการตรวจยึด และนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ทำการ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนในแต่ละพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี