(ต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว)

สำนักงานก.พ.เห็นว่า ข้าราชการซึ่งได้กระทำผิดวินัยก่อน หรือในวันที่6 เมษายน 2525 และได้ถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ ก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินฯ ใช้บังคับแล้ว ข้าราชการผู้นั้นย่อมเป็นผู้ถูกลงโทษเพราะกระทำผิดวินัย จึงได้รับการล้างมลทินโดยผลของมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

ปัญหาข้อที่ 3 ที่หารือว่ากระทรวงเกษตรฯ จะต้องดำเนินการสั่งเพิ่มโทษข้าราชการดังกล่าวให้เป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกหรือไม่...

สำนักงานก.พ.เห็นว่า เมื่อข้าราชการทั้ง 3 รายได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีพ.ศ.2526 แล้ว กระทรวงเกษตรฯ จึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการสั่งเพิ่มโทษข้าราชการดังกล่าวให้เป็นไปตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี(อีก) (หนังสือสำนักงานก.พ.ที่นร 0611/831 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2508)

3) พ.ศ.2530

กรมที่ดินได้เพิกถอนคำสั่งลงโทษให้ข้าราชการรายหนึ่งออกจากราชการตามมติ ก.พ.เนื่องจากคำสั่งลงโทษไม่ชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคืออธิบดีกรมที่ดินได้สั่งลงโทษให้ข้าราชการรายนี้ออกจากราชการโดยไม่รายงานให้อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้ว ส่งเรื่องให้อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยพิจารณาที่สุด อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยมีมติให้ลงโทษเพียงตัดเงินเดือน 10% 4 เดือน ซึ่งกรมที่ดินได้สั่งลงโทษข้าราชการผู้นี้ตามมติอ.ก.พ.กระทรวง แล้วรายงานไปยังก.พ.โดยก.พ.ได้พิจารณาเรื่องนี้แล้วมีมติให้ตอบรับทราบได้ ต่อมาข้าราชการผู้นี้ได้ร้องเรียนต่อกรมที่ดินว่า กรณีของตนน่าจะได้รับการล้างมลทินด้วย ซึ่งกรมที่ดินได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีของข้าราชการรายนี้มีลักษณะทำนองเดียวกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาข้อ 1ตามหนังสือของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่นร 0501/450 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2527 จึงควรได้รับการล้างมลทิน และจะดำเนินการตัดเงินเดือนข้าราชการผู้นี้ตามคำสั่งลงโทษไม่ได้ แต่โดยที่เรื่องทำนองนี้ยังไม่มีแนวทางปฏิบัติมาก่อน จึงหารือทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าจะสมควรดำเนินการประการใด

(อ่านต่ออาทิตย์หน้า)