ระวังถูกหลอก!
‘จตุพร’เตือนสาวกแดง
ชี้‘ทักษิณ’โชว์เหลี่ยมต้ม
“จตุพร พรหมพันธุ์” ชี้ “ทักษิณ” ออกอาการไม่มั่นใจในผลการพิจารณาคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ พร้อมเตือนคนเสื้อแดงโดนหลอกใช้มาตลอด แต่ก็ไม่เคยจำ จากนี้ขอให้คิดกันให้ถี่ถ้วน
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่าการปราศรัยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ จ.อุดรธานี ส่อถึงอาการไม่มั่นใจในผลการพิจารณาคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ อีกทั้งยังกล่าวถึง
กรณีที่สำนัก
อัยการสูงสุด (อสส.) ทำหนังสือรายงาน ศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยกล่าวอ้างว่า “ทักษิณ ชินวัตร” (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีมูล ซึ่งเป็นผลตรงข้ามจากสำนักข่าวบางแห่งที่รายงานว่า อัยการสูงสุดได้ยุติคดี แต่เป็นเรื่องแปลกที่อัยการสูงสุดไม่ออกมาแถลงความชัดเจนเลย
เชื่อศาล รธน.รับคำร้องไว้พิจารณา
นายจตุพร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนได้ยินมา การทำรายงานชี้แจง ศาลรัฐธรรมนูญมีผลตรงกันข้าม โดยทักษิณ คงรับรู้ข่าวนี้เช่นกัน จึงเกิดความไม่มั่นใจ จนไปขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เพื่อปลุกพลังคนเสื้อแดงขึ้นมาต่อรอง
“วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เชื่อว่า โอกาสที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะรับคำร้องไว้พิจารณา เพราะข้อที่ 1 และบางข้อในข้อที่ 2-6 มันมีความชัดเจนยิ่งกว่าใดๆ อีกอย่างอาจลุ้นว่า จะมีคำสั่งเพิ่มเติมให้นายกฯ รองนายกฯ และรมต.บางคนต้องหยุดปฎิบัติด้วยหรือไม่” วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าว
โยน ปชน.ให้เป็นปีศาจที่น่ากลัว
นายจตุพร กล่าวว่า นายทักษิณ พูดถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ม.112 กับการรื้อโครงสร้างนั้น ต้องการสร้างให้พรรคประชาชนเป็นปีศาจที่น่ากลัว ซึ่งสะท้อนถึงอาการหวั่นไหวกับคำร้องของนายธีรยุทธ ที่ศาล รธน.จะพิจารณารับคำร้องหรือไม่ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ จึงสร้างปีศาจพรรคประชาชนขึ้นมาให้น่ากลัว และสร้างความสำคัญให้กับทักษิณที่จะเอาชนะและปราบปีศาจใหม่ได้ อีกทั้งกล่าวว่า นายทักษิณสร้างความน่ากลัวใหม่ให้นายธนาธรและพรรคประชาชน เพื่อให้ตัวเองสลัดคราบปีศาจในร่างประชาธิปไตยโกงกินได้สบาย ทั้งที่ความน่ากลัวนั้นอยู่ที่ตัวของทักษิณเอง ไม่ใช่นายธนาธรและพรรคประชาชนชนเลย
ชี้เสื้อแดงโดนหลอกแต่ไม่เคยจำ
นายจตุพร กล่าวว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดร เป็นเพียงทางผ่านของทักษิณที่จะใช้เวทีปราศรัยก่อสงครามการเมืองกับพรรคประชาชน ซึ่งไม่กล้ารุกไล่พรรคเพื่อไทยที่ตระบัดสัตย์ ไม่ทำตามคำพูดที่หาเสียงไว้กับประชาชน และที่สำคัญไม่กล้าขยี้กรณีชั้น 14 การถวายฎีกาสารภาพความผิดกับพระเจ้าแผ่นดิน แต่ไม่ยอมติดคุกสักวัน ขณะที่คนเสื้อแดงอุดรและมุกดาหาร ต่อสู้เรียกร้องจนถูกจับติดคุก การไปปลุกคนเสื้อแดงนั้น เพื่อจะสื่อสารไปถึงองค์กรต่างๆ ว่า ถ้าตัวเองถูกเล่นงานอีกจะสู้ และคนเสื้อแดงก็เป็นคนประหลาด เพราะถูกถีบ ถูกทิ้ง ถูกหลอกแล้วยังพร้อมจะให้หลอกใหม่อีก และไม่คิดถึงคำหลอกลวงที่ผ่านมาเลย ทั้งๆ ที่ทักษิณ เคยหลอกกระทั่งเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นจะกลับมานำการต่อสู้ ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเป็นจริง
อีกอย่างพรรคเพื่อไทย สัญญาว่าได้เป็นรัฐบาลแล้ว 100 วันแรกจะเสนอกฎหมายฟ้องตรงศาลฎีกาในคดีการชุมนุมได้ แต่ก่อนทักษิณออกจาก รพ.ตำรวจหนึ่งวันก็ถอนกฎหมายกลับแล้ว ดังนั้น จะเอาอะไรอีกกับคนเสื้อแดง เพราะทำตัวเหมือนเป็นคนมีหน้าที่ให้ทักษิณและพรรคเพื่อไทยถีบหัวส่งอยู่อย่างนั้นเรื่อยมาและไม่เคยจำ
ขอให้พี่น้องเสื้อแดงคิดอ่านให้ถี่ถ้วน
นายจตุพร กล่าวว่า นายทักษิณใช้สนามอุดรในการปลุกแต่ละฝ่ายให้ตื่นตัว ส่วนคนเสื้อแดงพี่น้องใช้วิจารณญาณเอาเองว่า บทจะใช้ก็ใช้ บทไม่ใช้ก็ทิ้ง ทุกสิ่งที่พูดมาหลอกกันทั้งนั้น เราเป็นคนเสื้อแดงหรือควายแดงตามที่เขาว่ากัน ที่ผ่านมา นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยพูดสัญญากับคนเสื้อแดงแล้วมีอะไรเป็นความจริงบ้าง และคนเสื้อแดงจะอยู่ท่ามกลางคนตลบตะแลง โกหกหลอกลวงกันอย่างนั้นหรือ ดังนั้น คนเสื้อแดงต้องคิดอ่านกันให้ถี่ถ้วนว่า ต้องการอยู่ท่ามกลางการโกหกหลอกลวงของพวกหน้าด้านที่ไม่เคยละอายเลยจริงหรือไม่ แม้มาปลุกให้ต่อสู้ แต่คนพวกนี้ก็ไม่ได้มีจุดยืนตามที่พูด และที่สำคัญเมื่อเวลาไม่ใช้คนเสื้อแดงก็ไม่พูดถึง ส่วนนายทักษิณกลับมาไทย ไม่เคยออกไปทำบุญระลึกถึงคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากการต่อสู้เลย
ชี้“ทักษิณ”ไม่มั่นใจในตัวเอง
“ปรากฎการณ์อุดรคือความไม่มั่นใจตัวเองของทักษิณ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งนายก อบจ.เลย เพราะไม่ไว้ใจวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาอย่างไร อีกทั้งผลบางอย่างเป็นตรงกันข้ามกับที่ได้ยินมา ดังนั้น ทักษิณจึงรุกทางการเมืองและเคลื่อนไหวมวลชนเกินความจำเป็น แล้วยังเลยไปไกลกว่าการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดร” นายจตุพร กล่าว และว่า อาการกราดใส่นายธนาธร โดยพูดถึงรื้อโครงสร้าง โยงไปสู่ 112 เพื่อชี้เป้า และฟื้นคนเสื้อแดงขึ้นมาปรามองค์กรต่างๆ ที่จะลงมือเล่นงานกับทักษิณ ดังนั้นทุกอย่างเห็นได้ชัดเจนว่าเวลาใกล้เข้ามาแล้ว และสงครามการเมืองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งจึงต้องรีบปลุกคนเสื้อแดง
“เทพไท”แจงอยู่ในบทบาทพลเมืองไทย
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กถึง นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่า น้องบอย สรวงศ์ ฟังทางนี้ ผมขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาททางการเมืองของผมกับคุณสรวงศ์ เทียนทอง นักการเมืองรุ่นน้อง ที่ให้สัมภาษณ์กล่าวหาผมผ่านสื่อในบางประเด็น ซึ่งจะขอชี้แจงเป็นข้อๆดังนี้ 1.ตอนนี้ผมไม่ได้เป็น สส.ในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ผมก็ใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การกล่าวหาว่าผมไม่มีบทบาทอะไร ก็ไม่จริง ผมเป็นพลเมืองไทย มีบทบาท เป็นผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองคนหนึ่ง
ชำแหละ“ทักษิณ”ขึ้นเวทีอุดรฯ
2.การบอกว่าคุณทักษิณชมลูกสาวเป็นเรื่องปกตินั้น ในความเห็นผมไม่ใช่เรื่องปกติ เป็นเรื่องการอวยกันอย่างเกินความพอดี ต้องเข้าใจว่าเวทีหาเสียงนายกอบจ. ไม่ใช่เวทีอวยลูกสาว คุณทักษิณใช้เวลาปราศรัย 32 นาที พูดถึงผู้สมัครนายก อบจ. 7 นาที ส่วนที่เหลือพูดถึงเรื่องตัวเองและอวยลูกสาวทั้งหมด
3.สิ่งที่นายทักษิณพูดบนเวทีหาเสียง ไม่ใช่นโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่คุณทักษิณบอกว่ารัฐบาลจะทำ จึงเป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งนายทักษิณไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พยายามพูดและกล่าวอ้างว่า ได้ยินนายกอิ๊งค์พูดบ้าง นายกอิ๊งค์มาปรึกษาบ้าง นายกอิ๊งค์มาเล่าให้ฟังบ้าง ซึ่งทั้งหมดคือความคิดของนายทักษิณทั้งนั้น แต่เกรงว่าจะเป็นประเด็นถูกร้องเรียน ก็พยามพูดช่วงเชื่อมโยงให้เห็นว่า มาจากนายกอิ๊งค์
4.ประเด็นการวางคิวหาเสียงของนายทักษิณ เป็นแผนการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงชิงมวลชนคนเสื้อแดง ที่หันหน้าไปเชียร์พรรคก้าวไกลหรือพรรคประชาชนให้กลับมาเหมือนเดิม ไม่ใช่มาจากคำขอของผู้สมัครนายกอบจ.ตามที่กล่าวอ้างกัน
ผมเข้าใจบทบาทของนายสรวงศ์ เทียนทองใน ฐานะเลขาธิการพรรคเป็นอย่างดี และรู้ว่าจำเป็นต้องออกมาตอบโต้ผม เพื่อเอาใจนายใหญ่ เจ้าของพรรคคือนายทักษิณ ถ้าเปรียบพรรคเพื่อไทยเป็นบริษัทของครอบครัวชินวัตร นายสรวงศ์ก็เป็นเพียงลูกจ้างหรือพนักงานคนหนึ่ง และที่ได้รับการโปรโมตให้เป็นเลขาธิการพรรค ก็เพราะความเป็นลูกของนายเสนาะ เทียนทองเท่านั้น
“นิพิฏฐ์”ชี้“แม้ว”อ่านปรัชญามาเยอะ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมาย อดีต สส.จังหวัดพัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “คุณทักษิณ ชินวัตร สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูงแล้ว” ระบุว่า จะไม่เงี่ยหูฟังคุณทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยที่ จ.อุดรธานี เสียเลยก็ไม่ได้ แม้ผมจะ ละ วาง อะไรลงได้เยอะแล้ว แต่ผมก็เขี่ยๆ ดูข้อความทางโทรศัพท์ว่าคุณทักษิณพูดอะไรบ้าง
ก่อนขึ้นเวที คุณทักษิณคงอ่านปรัชญามาเยอะ พูดคำว่า “โอกาสที่ไม่เท่าเทียม” อยู่ 2-3 ครั้ง เรื่องโอกาสที่ไม่เท่าเทียม ความจริงเรื่องนี้ มีอยู่ 2 คำ คือ ความเท่าเทียมทางโอกาส และโอกาสที่ไม่เท่าเทียม แต่เอาเถอะใครจะไปพูดเรื่องยากๆ บนเวทีปราศรัยได้
บนเวทีปราศรัย เขาพูดเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่พูดเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ในอดีตผมก็เคยผ่านเรื่องแบบนี้บนเวทีปราศรัยมาแล้ว
สำเร็จวิชา“มือถือสาก ปากถือศีล”
คุณทักษิณ ยังคงน่ากลัวบนเวที แต่หากเรามี “สติ” เรายังพอจะรับมือได้ คุณทักษิณพูดว่า
1.ต้องให้คนจนมีโอกาสเท่าเทียมกัน 2.ต้องป้องกันโอกาสที่ไม่เท่าเทียม คำ 2 คำนี้ ทำให้ผมที่ปลีกวิเวกอยู่ริมเขาบรรทัดระหว่างจังหวัดพัทลุง-ตรัง ต้องสะดุ้ง อยากหยิบลูกประคำที่อยู่ในมือซัดใส่คุณทักษิณ แล้วพูดว่า “คุณทำให้นักโทษที่เป็นคนจน-คนรวย มีโอกาสเท่าเทียมกันก่อนเถอะพ่อคุณ ทำเรื่องง่ายๆ ให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนเถอะพ่อคุณ”
ณ เวลานี้ คุณทักษิณ ชินวัตร สำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูงแล้ว วิชานั้นเรียกว่าวิชา “มือถือสาก ปากถือศีล” สอดส่ายสายตาไปในยุทธจักรการเมือง ยากที่จะหาใครรับมือวิชา “มือถือสาก ปากถือศีล” กับคุณทักษิณ ชินวัตร ได้แล้ว
“นพดล”เชื่อพท.มีโอกาสได้200เสียง
ทางด้าน นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ปราศรัยบนเวทีหาเสียงนายก อบจ.อุดรธานี โดยประกาศว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง ได้ สส.ไม่ต่ำกว่า 200 เสียงว่า การตั้งเป้าไว้สูงเป็นเรื่องปกติ ทุกพรรคก็อยากได้เสียงมากที่สุดในการเลือกตั้ง เพื่อไปขับเคลื่อนนโยบาย แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลอยู่ ก็มีข้อได้เปรียบ เพราะสามารถสร้างผลงานได้ เพราะฉะนั้น มองว่าหน้าที่หลักของพรรคตอนนี้ คือมีสมาธิแก้ไขปัญหาปากท้อง กระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหายาเสพติด และเพิ่มโอกาสให้ประเทศไทยมากที่สุด เชื่อว่าหากเรามีผลงาน เราก็มีโอกาสบรรลุ 200 เสียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี