“ภูมิธรรม” ระบุหากนายกฯกลับเรียกประชุมตั้ง JTC วันนี้ก็ทันเข้าครม.แต่ถ้าไม่มีประชุมไม่น่าทันสัปดาห์นี้ โยน “กระทรวงต่างประเทศ” เคาะรายชื่อ ยันปม“เกาะกูด”ไม่ซ้ำรอย“เขาพระวิหาร” ย้ำไม่มีเหตุผล ยกเลิก MOU44 ด้าน “นายกฯอิ๊งค์”กลับถึงเมืองไทย โดยไม่ได้เข้าทำเนียบฯ-ไม่มีเรียกประชุมตั้ง JTC
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการทางเทคนิค(JTC)เพื่อเจรจาพื้นที่อ้างสิทธิ์ระหว่างไทยและกัมพูชาว่า รอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับวันนี้ (18พ.ย.67)ยังไม่ทราบว่านายกฯจะเข้าทำงานเลยหรือไม่
ถ้าไม่มีถกตั้งJTCก็ไม่ทันเข้าครม.
“ถ้านายกฯเข้ามา และเรียกประชุมวันนี้เลยก็น่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ทันวันพรุ่งนี้(19พ.ย.67)เลย แต่ถ้านายกฯยังไม่เรียกประชุม ก็ไม่น่าทันและพรุ่งนี้(19 พ.ย.67) เพราะผมจะต้องไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนที่ประเทศลาวด้วย จึงยังไม่แน่ใจว่าจะพูดคุยกันเมื่อไร เราก็จะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด ตอนนี้ขอรอนายกฯกลับมาก่อน”นายภูมิธรรม ย้ำ
เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้วางคนที่จะเป็นคณะกรรมการไว้แล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าใครจะเป็นคณะกรรมการบ้าง เป็นเรื่องของกระทรวงต่างประเทศที่ต้องทำการบ้านและมาพูดคุยกัน
ย้ำการเจรจาถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่าคาดว่ากรอบของJTCจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนอย่างไรบ้างนายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องพูดคุยกัน และเดินตาม MOU44 เพราะเป็นกรอบที่วางไว้ให้พูดคุยกันอย่างสันติ เนื่องจากมีเรื่องที่ค้างคาใจหลายเรื่อง และยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนของเกาะกูด ไม่น่าจะมีปัญหาแล้วแต่ที่เป็นปัญหาถกเถียงกันในขณะนี้คือ พื้นที่ทับซ้อนใต้ทะเล นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องพูดคุยกัน เพราะMOU44ไม่ได้ระบุว่า ต้องเป็นเรื่องอะไร ดังนั้นเรื่องความขัดแย้งบริเวณชายแดน การเจรจาถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ลั่นไม่มีเหตุผลยกเลิกMOU44
เมื่อถามว่า แสดงว่าMOU 44ไม่สามารถยกเลิกได้แล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องยกเลิก เป็นเรื่องที่พูดคุยกันยังไม่จบ ต่างคนต่างอ้างสิทธิ์แต่ละฝ่าย ดังนั้น ต้องมาคุยกันตามMOU เมื่อถามอีกว่าเพื่อให้เกิดความสบายใจกับคนในประเทศ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะ ยกเลิกMOU44ไปก่อนแล้วมาร่างMOUอันใหม่ ลากเส้นบริเวณพื้นที่ใต้ทะเลใหม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่ามันไม่มีอะไรMOU44เป็นกรอบที่ดีอยู่แล้ว ไม่ได้ระบุว่าให้ใคร เพียงแต่บอกว่า เป็นเรื่องที่ยังไม่จบ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ต้องเจรจากัน และนำเข้าสภาของทั้งสองประเทศ ซึ่งต้องยึดกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศ
“ไม่มีอะไรต้องยกเลิกจะยกเลิกเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจก็ไม่ควร หรือจะยกเลิกเพื่อไม่ให้สภาตัดสินใจก็ไม่ควร หรือจะยกเลิกใช้กฎหมายทะเลก็ไม่ควร ดังนั้น ไม่มีอะไรต้องยกเลิก ผมคิดว่ามีหลายคนยังไม่เข้าใจMOU 44 อยากให้กลับไปอ่านให้ละเอียดก่อน”นายภูมิธรรมกล่าว
โวไม่ซ้ำรอย‘เขาพระวิหาร’
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ประชาชนแคลงใจ เหมือนกรณีเขาพระวิหารใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า เราถึงต้องรีบทำไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาใหญ่ในระยะยาว ทั้งนี้ ตนคิดว่า ไม่มีอะไรต้องแคลงใจ การที่เราเดินทางไปในพื้นที่เกาะกูดก็แสดงให้เห็นว่า เรายังเป็นเจ้าของดินแดนอยู่ หน่วยราชการเราก็ยังอยู่ เหมือนกรณีเขาพระวิหารที่เขาก็อ้างสิทธิ์และก็ลงไปเยี่ยมในพื้นที่จึงคิดว่า ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของทหารก็ดูแลพื้นที่ของตัวเองตามอำนาจอธิปไตยของเรา ที่สำคัญเราต้องเข้าใจ MOU44 ก่อน
ถกรมต.กห.โหมอาเซียน19-22พย.
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ASEAN DEFENCE MINISTER’S MEETING (ADMM)ซึ่งเป็นกลไกการหารือที่สำคัญของรัฐมนตรีกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ครั้งที่ 18 จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 19 - 22 พ.ย.2567 ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)
การประชุมADMMถือว่าเป็นกรอบความร่วมมือที่สำคัญยิ่งในภูมิภาค เนื่องจากเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้นำระดับสูงฝ่ายกระทรวงกลาโหมของประเทศสมาชิกอาเซียนได้ ทำความคุ้นเคย สร้างความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความเป็นมิตร เพิ่มความไว้วางใจ และความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันมากยิ่งขึ้น ยังเป็นกลไกที่ได้สร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความมั่นคง อีกหลายด้าน อาทิ การพัฒนาขีดความสามารถในการช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติ การแพทย์ทหาร ความมั่นคงทางไซเบอร์ การต่อต้านการก่อการร้ายและการแพร่ขยายแนวคิดรุนแรง เป็นต้น
และหลังการประชุมฯเสร็จสิ้น สปป.ลาว ได้ส่งมอบการเป็น ประธานการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM) ในปี 2568 ให้กับมาเลเซียต่อไป
‘นายกฯอิ๊งค์’กลับถึงเมืองไทย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.45 น.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯหลังเดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิสสหรัฐอเมริกาและเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ระหว่าง 10-18 พ.ย. มีรายงานว่า ระหว่างนั่งเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับไทย นายกฯและคณะทำงานได้ประชุมวงเล็กสรุปประเมินผลภารกิจเดินทางต่างด้วย
ผบ.ตร.รายงานจัดโผแต่งตั้งตร.
ทันทีที่มาถึงบน.6 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ได้เข้ารายงานนายกฯถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ครั้งที่10/2567 ในวันที่ 20 พ.ย.นี้เวลา 14.30 น. โดยมีวาระการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึง ผู้บัญชาการ (ผบช.) ยศ พล.ต.อ.-พล.ต.ท. วาระประจำปี 2567 โดยใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ปี พ.ศ.2565 มาใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งเป็นครั้งแรก
ขณะที่น.ส.ณัฐจารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำวาระที่จะเข้าพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 19 พ.ย.มารายงานให้นายกฯรับทราบ
ตั้งJTCยังไม่ทันเข้าครม.สัปดาห์นี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร.มารายงานเรื่องอะไร นายกฯไม่ตอบคำถาม พร้อมยิ้มและโบกมือ ก่อนหันไปเห็นลูกมารอรับกล่าวว่า“ขอไปหาลูกก่อนพรุ่งนี้เล่าให้ฟัง”ก่อนนายกฯวิ่งไปที่รถและโผเข้ากอดหอมแก้ม ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ ลูกสาวคนโตและด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ลูกชายคนเล็ก ด้วยความดีใจ พร้อมอุ้มและกล่าวว่าไม่รู้เลยว่า จะมารับ ทั้งนี้ ยังมี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีที่มารับและรออยู่ในรถด้วย
มีรายงานเพิ่มว่าว่า ภายหลังนายกฯกลับจากร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ปรากฏว่าในวันนี้นายกฯไม่ได้เดินทางเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล เบื้องต้นจึงไม่ได้มีการเรียกประชุมถึงการตั้ง JTC ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในสัปดาห์นี้
ร่วมลงชื่อยกเลิกMOU44ทะลุแสน
ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก วรงค์ เดชกิจวิกรม–Warong Dechgitvigrom”ระบุว่า ขอขอบคุณคนคลั่งชาติ ร่วมลงชื่อ ยกเลิก MOU44 เพื่อปกป้องดินแดนทางทะเลเกาะกูด และสมบัติชาติ จำนวน 100,109 คน ข้อมูล ณ วันที่ 17พฤศจิกายน 2567 เวลา 20.00 น.
เสรีเผยเหตุเขมรยอมตกลงMOU44
ด้านดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงนาม MOU44 มีหรือจะพูดว่าMOU44ไม่ดีสำหรับประเทศไทย เขาย่อมพูดว่าเป็นผลดี เขาย่อมพูดว่าไทยได้ประโยชน์ ไทยได้เปรียบ จึงเกิดคำถามว่าถ้าเราได้เปรียบ กัมพูชาเขามองไม่ออกเหรอ เขาถึงได้ยอมตกลงกับเนื้อหาที่ปรากฏใน MOU44 ถ้าหากเราได้เปรียบจริง และกัมพูชายอมก็ต้องชื่นชมคนเจรจาฝ่ายไทยว่าเก่งมากทำข้อตกลงที่ไทยได้เปรียบและทำให้กัมพูชายอม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี