โค้งสุดท้าย!!!!ศึกชิงนายกอบจ.อุดรธานี 2 ขั้วโคจรมาพบกัน ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เดิมพันสูง 2 ขั้วส้มแดง อีกฝ่ายแพ้ไม่ได้ อีกฝ่ายขอชนะสักครั้ง
ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้ง ชิงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี (อบจ.อุดรธานี) หลังจาก นายวิเชียร ขาวขำ ได้ลาออกก่อนครบวาระกiะทันหัน ทำให้ตำแหน่งว่างลง จึงมีการรับสมัครผู้อาสาเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกอบจ.อุดรธานี ประกอบด้วย 3 ท่านคือ นายคณิศร ขุริรัง หมายเลข 1 ตัวแทนจากพรรคประชาชน,นายศราวุธ เพชรพนมพร หมายเลข 2 จากพรรคเพื่อไทย และ ดร.ดนุช ตันเทอดทิพย์ หมายเลข 3 ผู้สมัครอิสระ
หากย้อนไปสำหรับผู้ดำรงตำแหน่ง นายกอบจ.อุดรธานี เลือกตั้งท้องถิ่นเมืองใหญ่แห่งนี้ เคยมีบุคคลที่มีชื่อในจ.อุดรธานีหลายท่านในตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น นายเฉลิมพล สนิทวงศ์ชัย ดำรงตำแหน่งปี 2547 ถือเป็นนายกอบจ.คนแรกที่เป็นการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรงจากประชาชนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ต่อมา นายหาญชัย ทีฆธนานนท์ ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.อุดรธานี ปีพ.ศ.2551 และปี พ.ศ.2555 นายวิเชียร ขาวขำ ได้ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (สมัยนั้น) ลงชิงตำแหน่งนายกอบจ.อุดรธานี ก็ได้คะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนชาวจ.อุดรธานี มาอย่างถล่มทะลายถึง 357,401 คะแนน โดยเลือกตั้งเมื่อ 17 มิ.ย.2555 เป็นนายกอบจ.อุดรธานีครั้งแรกและสมใจกับ นายวิเชียร ขาวขำ และตัวแทนพรรคเพื่อไทยในสมัยนั้น
จากวันนั้นถึงวันนี้ ปี 2555 จนถึง 2567 นายวิเชียร ขาวขำ ดำรงตำแหน่งนายกอบจ.อุดรธานีถึง 12 ปี โดย นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหการส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ได้ยื่นหนังสือถึง นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ขอลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.อุดรธานี โดยระบุว่า มีความประสงค์ลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาเรื่องสุขภาพ “ข้อสะโพกข้างขวาเสื่อม” มาก แพทย์แนะนำให้ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก หากจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเกรงว่าจะไม่สามารถปฏิบัติอย่างที่ควรจะเป็น เกรงว่าจะทำให้ข้าราชการเสียประโยชน์ จึงขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว และกำหนดให้มีเลือกตั้ง นายกอบจ.อุดรธานีในตำแหน่งที่ว่าง ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 นี้
สำหรับผู้สมัครทั้ง 3 รายชิงนายกอบจ.อุดรธานี คนแรก นายคณิศร ขุริรัง หมายเลข 1 ตัวแทนจากพรรคประชาชน ถือเป็นคนหนุ่มไฟแรง อดีตเคยดำรงตำแหน่ง รองนายกเทศบาลนครอุดรธานี,รองนายกอบจ.อุดรธานี สมัยนายหาญชัย ทีฆธนานนท์,ประธานสภาทนายความ ขันอาสาลงชิงนายกอบจ.อุดรธานีครั้งนี้ ขอใส่เสื้อส้ม โดยมีนโยบาย 8 เสาหลัก คือ
1.การทำให้ อบจ.อุดรธานีบริหารงานแบบมีประสิทธิภาพและทันสมัย งบประมาณ อบจ. ต้องเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้
2.จัดทำขนส่งสาธารณะ ให้ประชาชนเดินทางสะดวก เส้นทางหลักจากใจกลางเมืองอุดรธานี เชื่อมโยงสนามบิน สถานีขนส่ง สู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของแต่ละอำเภอ
3.ดูแลเอาใจใส่ประชาชนอย่างใกล้ชิด ด้วยนโยบาย รพ.สต. ก้าวหน้า อยู่ไหนก็ใกล้หมอ ดูแลสุขภาพของชาวอุดรธานีให้มีความเท่าเทียมผ่าน รพ.สต. โดยจะเปิดรับโอน รพ.สต. ที่พร้อมและสมัครใจมาสังกัด อบจ.อุดรธานี ให้มี รพ.สต. ที่พร้อมครบวงจรอย่างน้อยอำเภอละ 2
4.น้ำประปาใสสะอาดดื่มได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน
5.พัฒนาเศรษฐกิจให้ประชาชนทำมาค้าขายได้ง่ายขึ้น ผ่านการใช้เศรษฐกิจสร้างสรรค์และกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี ศิลปะ วัฒนธรรม กีฬา มาดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย
6.สร้างความเข้มแข็งร่วมกันด้านการศึกษาที่เท่าเทียม โรงเรียนในสังกัด อบจ. จะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงให้มีคุณภาพมากขึ้น
7.ร่วมคิดร่วมทำเพื่อนำความเจริญสู่ท้องถิ่น รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนชาวอุดรธานีอย่างต่อเนื่อง
8.ถนนปลอดหลุม ชุมชนปลอดภัย ไฟสว่างทุกจุดเสี่ยง ต้องทำทันทีในปี และยังมีอีก 5 นโยบายเร่งด่วนหากได้รับเลือกเป็น นายกอบจ.อุดรธานี คือ 1.ทำให้ อบจ.อุดรธานีโปร่งใสตรวจสอบได้ 2. การทุจริตเป็น 0% 3. นโยบายขนส่งสาธารณะ 4. น้ำประปาใสดื่มได้ตลอดปี 5. ถนนปลอดหลุม ไฟสว่าง 6. แก้ปัญหายาเสพติดผ่านนโยบายชุมชนปลอดภัยไม่มียาเสพติด
ส่วน นายศราวุธ เพชรพนมพร หมายเลข 2 อดีต สส.พรรคเพื่อไทย สอบตก สส.เมื่อปี 2566 แพ้ให้กับ นายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ จากพรรคก้าวไกล ขอท้าชิงการเมืองท้องถิ่นชิงตำแหน่งนายก อบจ.อุดรธานี มีพรรคเพื่อไทยสนับสนุนเต็มสูบ มีนโยบายสานต่อนโยบายเดิมจากอดีตนายกวิเชียร และริเริ่มนโยบายใหม่ โดยสานต่อ 6 นโยบายเดิมคือ
1.ผลักดันมหกรรมพืชสวนโลกให้สำเร็จ
2.ผลักถนนวงแหวนรอบ
3.ผลักดันตั้งมหาวิทยาลัยอุดรธานี
4.สนามกีฬามาตรฐานทุกตำบล
5.พัฒนาแหล่งน้ำให้อุดมสมบูรณ์
6 .พัฒนาซ่อมแซมถนนหนทางให้ดียิ่งขึ้น
ส่วน 6 นโยบายใหม่ คือ วางแผนน้ำท่วมอย่างยั่งยืน,พัฒนาระบบประปาหมู่บ้านให้มีคุณภาพและทันสมัย,ส่งเสริมการใช้โดรน เพื่อการเกษตรทั่วทั้งจังหวัด,พัฒนาการดูแลสุขภาพด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย,พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนสังกัด อบจ.และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้จ.อุดรธานี เป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เชิงธรรมะและวัฒนธรรม สร้างรายให้ชาวอุดรธานีครอบคลุมทุกพื้นที่
ส่วน ดร.ดนุช ตันเทิดทิพย์ หมายเลข 3 ผู้สมัครอิสระ เจ้าของโรงเรียนพัฒนาปัญญา อดีตผู้ช่วย รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัติกรรม เจ้าของสโลแกน “อิสระชน คนอุดรตื่นรู้ไ มีนโยบาย 8 นโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงอุดรธานี คือ 1.การพาณิชย์ การผลิตและการบริการ 2.การท่องเที่ยว 3.การเกษตรสมัยใหม่ 4.โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล 5.การศึกษาเพื่อพัฒนาอุดรธานีอย่างรอบด้าน 6.การจัดการขยะเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี 7.ด้านสาธารณสุข และ 8.ด้านสาธารณูปโภค ถนน ไฟฟ้าและน้ำประปา
มองศึกชิงนายกอบจ.ครั้งนี้ นายศราวุธ ได้เปรียบเพราะลงชิงนายก อบจ.อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย ต่อจาก นายวิเชียร ขาวขำ ที่เป็นนายกอบจ.อุดรธานีมาแล้วถึง 12 ปี และมีนายใหญ่คอยหนุนหลัง และมีฐานเสียงคนเสื้อแดงทั่วทุกอำเภอ
ส่วน นายคณิศร มีฐานเสียงจากคนรุ่นใหม่และประชาชนที่มองผ่านการเมืองเดิมๆ อยากจะเปลี่ยนดูบ้าง ดูแล้วการชิงตำแหน่งนายกอบ จ.อุดรธานีครั้งนี้
งานนี้เดิมพันสูง 2 ขั้วแดงส้มชิงนายกอบจ.อุดรธานี แดงต้องไม่แพ้หรือแพ้ไม่ได้ ส้มขอชนะสักครั้ง ซึ่งการเลือกตั้งอบจ.อุดรธานีครั้งนี้จากฟากฝั่งพรรคเพื่อไทยต้องแพ้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด จน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องเดินทางมาลงพื้นที่มาช่วย นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครฯ จากตัวแทนพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 13-14 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ขึ้นเวทีถึง 3 แห่งที่อ.กุมภวาปี,อ.บ้านดุง,และสนามทุ่งศรีเมือง ท่ามกลางกองเชียร์แห่มาแน่นทั้ง 3 เวทีอยากมาเห็นหน้าอดีตนายกฯ หลังจากห่างหายไป 18 ปีที่ไม่เคยขึ้นเวที
โดยนายทักษิณ ได้กล่าวบนเวทีกับพี่น้องประชาชน หลังจาก 18 ปีไม่เคยขึ้นเวที มาอุดรครั้งนี้ที่เปรียบเสมือนเมืองหลวงคนเสื้อแดง มาอ้อนขอคะแนนเสียงเพื่อให้พี่น้องประชาชนสนับสนุนอดีตส.ส.ป๊อบ ศึกครั้งนี้จึงแพ้ไม่ได้ถ้าแพ้ถือว่าอาย โดยนายทักษิณกล่าวทุกเวทีว่า หากเลือกนายศราวุธ สานต่อกับนายกฯอิ๊งได้ทันที
ขณะที่จากฟากฝั่งพรรคประชาชนก็ไม่น้อยหน้า หลังจากนายทักษิณบินกลับไม่ได้ทันไร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงและขุนพลจากพรรคฯ เดินทางมาช่วยนายคณิศร ช่วยหาเสียงเต็มพิกัด ตลอด 3 วัน 2 คืน พิธาพาทีมงานเดินสายบอกอุดรธานีเป็นเมืองหลวงคนของคนรักประชาธิปไตย ได้ใจเสื้อส้มไปเยอะ และบอกจะกลับมาอีกในช่วงโค้งสุดท้าย
หากมองดูการเลือกตังทั้งระดับชาติและระดับจังหวัดอุดรธานี ที่ผ่านมาฝั่งพรรคเพื่อไทยถือว่าครองใจชาวอุดรมานาน ทั้งเลือกตั้งระดับชาติ ส.ส.ได้ทุกเขต แต่เวลาผ่านไป เลือกตั้ง ส.ส.ปี 66 ถูกแบ่งเค้กไปถึง 3 เขต ส่วนการเลือกตั้ง สจ.แต่ก่อนสีแดงกวาดเรียบทุกเขตทุกเบอร์ แต่เลือกตั้งปี 63 ตัวแทนจากก้าวไกลคว้าชัยไปหลายเขตหลายอำเภอเช่นกัน
นั่นแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวอย่างยิ่ง!!!
สำหรับศึกชิงนายกอบจ.อุดรธานีครั้งนี้ นับจากนี้ไปเหลือเพียงไม่กี่วัน ศึกชิงนายกอบจ.อุดรธานีครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ส้มแดงสู้กันยิบตา แบบหายใจรดต้นคอ ใครจะคว้าชัยนั่งในตำแหน่ง นายกอบจ.อุดรธานี ต้องลุ้นกันในวันที่ 24 พ.ย.67 ระหว่างศราวุธหรือคณิศร คงรู้กัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี