การเมืองหักกันแรงเหลือเกิน! ‘นิกร’กัดฟันสวมบทกรรมการห้ามมวย ชงทำ’ประชามติชั้นครึ่ง‘กลางกมธ.ร่วมฯ หวังเคลียร์แตกหัก’สส.-สว.‘แต่รับเสียงอ่อยคงยาก ’วุฒิสภา‘ ไม่ยอมถอยง่าย ส่อลากยาว ลามวืดได้‘สสร.’
เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกัน เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ รัฐสภา โดยมีวาระ เชิญบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาให้ข้อมูลกมธ.ฯ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทำประชามติผ่านทางไปรษณีย์
โดยนายนิกร จำนง เลขานุการกมธ.ฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า ในเรื่องขั้นตอนการออกเสียงทำประชามติ มีความเห็นต่างกันอย่างมากระหว่าง สส.กับสว. ที่จะต้องมีการลงมติกัน โดยเฉพาะในประเด็นเสียงข้างมากว่าจะเอากี่ชั้น ซึ่งกมธ.มีฝั่งละ14คน แต่ขาดฝั่งสส.ไป 1 คน ที่ได้ลาไว้ก่อน และเท่าที่ฟังทั้ง 2 ฝ่ายยืนตามมติของตัวเองมาตลอด โดยฝ่ายสว. ยืนกรานที่เสียงข้างมาก 2 ชั้น ที่จะต้องใช้เสียงของผู้มีสิทธิ์เกินกึ่งหนึ่ง คือ 26 ล้านคนขึ้นไป และใช้เสียงของผู้มีสิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งเป็นข้อยุติว่าจะต้องเห็นด้วยให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
ขณะที่ฝ่ายสส. โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว คือมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เท่าใดก็ได้ แล้วใช้เสียงข้างมาก แต่ต้องเกินจากผู้ที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนหรือโนโหวต ตนเห็นว่าความเห็นที่แตกต่างเหล่านี้จะมีปัญหา เพราะต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลในจุดยืน ในวันนี้ตนจึงจะเสนอในนามกมธ. ให้ใช้เสียงข้างมากชั้นครึ่ง คือมีผู้มีมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ออกเสียง และมีจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเพื่อให้เจอกันตรงกลาง
“ขณะนี้มีการท้ากันว่าการทำประชามติออกไป 180 วันก็ไม่เป็นไร แต่ผมยืนยันว่าเป็นปัญหา เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะให้เสร็จทันในรัฐบาลชุดนี้ไม่มีทาง จึงมีความคิดกันว่าให้ได้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ก็ยังดี เพราสภาฯ เหลือเวลาอีก 2 ปี หากมีความขัดแย้ง แล้วสส.ยืนตามของตัวเอง จะมีปัญหาต้องรอไปอีก 180 วัน พอออกเป็นกฎหมาย กกต.ต้องไปออกกฎหมายลูกอีก 1 เดือน รวมเป็น 7 เดือน พอกฎหมายเริ่มดำเนินการ ครม.ออกเป็นมติ ใช้เวลาอีก 100 วันถึงจะทำประชามติครั้งแรกได้ ก็หมดปี 2568 แล้ว ถึงแม้กฎหมายนี้จะผ่านในปี 2568 ก็ต้องใช้เสียงของสว.สนับสนุนเกิน 1 ใน 3 ก็คือ 67 เสียง สว.ก็จะไม่ให้ผ่านในการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพราะแตกหักกันแล้ว ทำให้ต้องไปแก้ไขใหม่ ก็ต้องรอสภาฯ สมัยหน้า แม้แต้ส.ส.ร.ก็สุ่มเสี่ยงที่จะไม่ทัน ผมเลยเสนอแบบกลาง เพื่อให้ออกกฎหมายทัน พอสภาฯ เปิด กฎหมายเคาะแล้ว ก็สามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วทำประชามติแบบชั้นครึ่งได้เลย แต่ที่ผมจะเสนอวันนี้ ยอมรับว่าไม่รู้ว่าจะหวังได้แค่ไหน เพราะแย้งกันหนักเหลือเกิน ต่างฝ่ายต่างยืนนิ่งแบบไม่ขยับตัวกันเลย” นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวด้วยว่า มันมีโอกาสแหกโค้งเยอะมาก ถ้าไม่ประนีประนอม ไม่พูดคุยกัน มันเหมือนเจอแต่อุปสรรค ดังนั้นฝ่ายสว. ต้องถอย 1 ก้าว ตามที่ตนเสนอ แต่ตนคิดว่าคงไม่ถอย เพราะขณะนี้การเมืองแรงเหลือเกิน ตนจึงต้องขอให้ตัวเองโชคดีในการเสนอครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี