"ชูศักดิ์"เล็งใช้ช่องที่ประชุมปธ.กมธ.ทุกคณะ ตีความ"พ.ร.บ.ประชามติ"เป็นกฎหมายการเงิน ไม่ต้องรอถึง 180 วัน ยันยื่นตีความได้เลย ไม่ต้องรอโดนโหวตควํ่า
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตีความร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติ ว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ ว่า การพิจารณาว่าเป็นกฎหมายการเงินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 138 วรรคท้าย จะลดเวลาการพักกฎหมายจาก 180 วัน เป็น 10 วัน
"แต่จากที่ผมเช็คดู ประธานรัฐสภาเคยวินิจฉัยก่อนการพิจารณากฎหมายแล้วว่าไม่ใช่กฎหมายการเงิน แต่รัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า หากมีการสงสัยว่าเป็นเรื่องกฎหมายการเงินหรือไม่ ให้ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญของสภาผู้แทนราษฎรทุกคณะ เป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งต้องมีผู้ยื่นเรื่องเข้าไป จะเป็นใครก็สุดแล้วแต่"
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) หากเรื่องนี้เข้าเงื่อนไขเป็นกฎหมายการเงิน ก็ไม่ต้องรอถึง 180 วัน ถือเป็นความเห็นทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า แม้กฎหมายจะไม่มีถ้อยคำเกี่ยวกับการเงิน แต่ใครก็รู้ว่าการทำประชามติต้องใช้เงิน
เมื่อถามว่า สามารถวินิจฉัยได้เลย ไม่ต้องรอให้กฎหมายถูกพักก่อนใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ทําได้เลย ไม่จําเป็นต้องตีความ เป็นอำนาจของประธาน กมธ.ไปวินิจฉัย สุดแต่ว่าจะมีความเห็นกันอย่างไร แต่ต้องประชุมกันก่อน เมื่อถามว่า จะให้ประธาน กมธ.ของพรรค พท.เป็นคนเสนอเข้าที่ประชุมหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องพูดคุยกัน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี