‘ทวี’อ้างเคยถูกลอบสังหาร
ต้องดูแล‘เทวดา’
กมธ.มั่นคงฯตามคุ้ยซากชั้น14
‘โรม’ปูด‘แม้ว’หลายโรครุมเร้า
จ่ายเงินค่ารักษาเองล้านกว่าบาท
“ทักษิณ” เมินเข้าชี้แจง กมธ.มั่นคงฯ ประเด็น “เทวดาชั้น 14” ส่วนบรรยากาศในห้องประชุมร้อนฉ่า “ทวี” แจงเดือดปมแยกขังเดี่ยว เหตุ“ทักษิณ” เคยถูกปองร้าย ด้วย “คาร์บอมบ์” โวย “โรม” หันเอกสารรักษาตัวให้สื่อบันทึกภาพ หวั่นข้อมูลลับรั่วไหล ซัด กมธ.ฯ เลือกบางถ้อยคำด้อยค่า“ราชทัณฑ์-กระทรวงยุติธรรม” ยันทำตามกฎหมายทุกอย่าง ขณะที่ “โรม” ปูดเจอข้อมูลใหม่ “ทักษิณ” ป่วยหลายโรครุมเร้า-จ่ายค่ารักษาเองล้านกว่าบาทขอ 10 ข้อมูลรายการในเวชระเบียน เล็งบุกชั้น 14 เค้นหาความจริง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธานกมธ.ฯ มีวาระสำคัญคือพิจารณาเรื่องของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้าพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว ซึ่งวันนี้ได้เชิญนายทักษิณมาชี้แจง โดยส่งหนังสือไปทางไปรษณีย์ และมีการลงรับในวันที่ 16 พ.ย.แต่ไม่ได้มีการตอบรับเข้าร่วมประชุมหรือไม่ แต่ที่ตอบรับมา คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ได้มอบหมายให้ ผู้อำนวยการกองทัณฑปฎิบัติ กลุ่มงานพักการลงโทษ มาชี้แจงแทน
กมธ.ฯปิดห้องประชุมลับ
โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม กมธ.ฯ ซีกรัฐบาล อย่างสส.พรรคเพื่อไทย โดย นายประยุทธ์ ศิริพานิช สส.บัญชีรายชื่อ นายสุธรรม แสงปทุม สส.บัญชีรายชื่อ และนายซูกาโน มะทา สส.ยะลา พรรคประชาชาติ หารือว่า อยากให้มีการประชุมลับ เพื่อถกเถียงว่า กมธ.ฯ มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ หลังกรมราชทัณฑ์ ได้ทำหนังสือท้วงติงว่า กมธ.ฯไม่มีอำนาจ ซึ่งที่ประชุมได้โต้เถียงกันไป กระทั่งในที่สุดนายรังสิมันได้ตัดบท ว่า เมื่อทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของนายประยุทธ์ ก็ขอให้มีการประชุมลับ เป็นการภายใน กมธ.ฯก่อน แล้วจะกลับเข้ามาประชุมตามวาระเรื่องของนายทักษิณในเวลา 11.00 น. ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องออกมารอภายนอก รวมถึงพ.ต.อ.ทวี ที่มารออยู่แล้ว ต้องไปพักรออีกห้องหนึ่ง
“ทวี”ยันกรมราชทัณฑ์ทำตาม ก.ม.
ต่อมาเวลา 11.30 น. การประชุม กมธ.ฯ ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังประชุมลับ โดย พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงต่อ กมธ.ฯ ว่า กรณีของนายทักษิณ ได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก่อนที่ตนจะเป็นรัฐมนตรี เหตุที่ตนต้องมาชี้แจง เพราะเหมือนกมธ.ฯชุดนี้ ไปด้อยค่ากรมราชทัณฑ์ ไม่ให้เขาได้มีโอกาสชี้แจง และเลือกถ้อยคำบางประเด็น ตนยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งมีการแบ่งเกรดของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตามการใช้ศักยภาพ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยที่ต้องรักษา มีการระบุชัดว่าโรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นสถานที่คุมขัง หากประชาชน รับไม่ได้ก็ต้องไปแก้ที่กฎหมาย
ขณะที่ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ในฐานะเลขานุการ กมธ.ได้สอบถามถึงการส่งตัวผู้ถูกคุมขังไปยังโรงพยาบาลนอกเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ควบคุม 2 คนตามกฎระเบียบไว้หรือไม่ รวมไปถึงมีการจัดห้องแยกให้กับผู้ต้องขังหรือไม่ เนื่องจากกฎกระทรวงนั้นถือเป็นข้อห้าม และมีการจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมหรือไม่
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้แสดงเอกสารลับเรื่องการรักษาตัว โดยนายรังสิมันต์ได้ขอดูเอกสารดังกล่าว แต่มีสื่อมวลชนอยู่ด้วยและกำลังบันทึกภาพ ทำให้ พ.ต.อ.ทวี บอกกับนายรังสิมันต์ ให้ระวังเอกสารลับดังกล่าวเนื่องจาก เพราะมีสื่อมวลชนกำลังบันทึกภาพอยู่ และถามย้ำกับช่างภาพว่า ถ่ายภาพติดหรือไม่ เนื่องจากกังวลเรื่องสิทธิ
อ้าง“ทักษิณ”เคยถูกปองร้าย
ก่อนที่ พ.ต.อ.ทวี จะชี้แจงต่อว่า ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้จัดบุคคลดูแลไม่ใช่แค่ 2 คน แต่มีหลายคนมีการเข้าเวรตลอด ยืนยันว่าไม่ใช่ห้องพิเศษ เข้าใช้ห้องควบคุมพิเศษและต้องไม่ให้มีใครปองร้าย ทราบหรือไม่ว่านายทักษิณ เคยถูกปองร้าย เคยโดนคาร์บอมบ์ ตนเห็น สส. 100 คน มีบทบาทอย่างนี้ได้อย่างไร เป็นเดือดเป็นแค้นอะไร เมื่อเรียกร้องให้เขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การดำเนินการใช้ห้องควบคุมพิเศษ ก็เป็นดุลยพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)โรงพยาบาลตำรวจ และการเข้าเยี่ยมก็มีรายการ การเข้าเยี่ยมทั้งหมด การเอาสิ่งเหล่านี้ที่ท่านพูดทำร้ายกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรม มีคนนำคำพูดไปยื่นต่อ กรรมการป้องกันและปรับปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีการสอบอย่างละเอียด และกมธ.ฯ ไม่ใช่การสอบสวนในทางการเมือง เราต้องไปข้างหน้า อย่ามาด้อยค่ากัน ตนมีหลักฐานยืนยันตามระเบียบทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ไม่ได้เลือกปฎิบัติ
พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงต่อว่า ส่วนที่ห้องพักรักษาตัวของนายทักษิณที่ถูกมองว่าไม่ได้อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังอื่นนั้น การพักรักษาตัวของผู้ต้องขัง เดี๋ยวนี้ไม่ได้เอาไปอยู่รวมกัน สามารถดูได้ตามโรงพยาบาลต่างๆ ยืนยันว่าข้าราชการกระทรวงยุติธรรมไม่มีสิทธิ์ใช้ดุลยพินิจ ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่างตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2566 และเจ้าหน้าที่คุมขัง ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับการอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต้องมีการเข้าออกตามเวลา เท่าที่รู้ กรรมการผู้ตรวจการแผ่นดินก็เข้าไปดูว่า นายทักษิณป่วยจริงไม่ และรายงานจะออกมาว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ยุติ พอเรื่องนั้นเรื่องนี้เกิดเหตุก็ไปตีข่าวกันมาก ข้าราชการทำงานกันอยู่ เราไม่ได้เลือกปฏิบัติแต่เราทำตามกฎหมายและระเบียบที่ให้ไว้
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเข้าใจในเรื่องการตรวจสอบที่มีความลำบากใจในหลายอย่าง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนตั้งคำถาม หากรัฐมนตรีและราชทัณฑ์ให้ข้อมูลครบถ้วนก็จะสิ้นสงสัย
ไม่เคยไปพบ“ทักษิณ”ที่ชั้น14
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การใช้ดุลยพินิจ กฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ตนยืนยันว่า คนที่เข้าเรือนจำต้องถูกควบคุม ห้องที่นายทักษิณไปอยู่คือห้องควบคุมพิเศษ ในความหมายของตน ส่วนป้ายที่เขียนว่า ตึกนี้ชั้นนี้ เป็นพรีเมี่ยม ตนไม่ทราบ เพราะเป็นที่รักษาคนทั่วไป ญาติพี่น้องตำรวจใครก็เข้าไปรักษาได้ คนทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน คนทั่วไปก็อยู่ได้ ตนยังตำหนิกรมราชทัณฑ์ ว่า เปิดให้เยี่ยมน้อย ซึ่งจริงๆ แล้วใครก็ได้ ที่ต้องการ ต้องให้เยี่ยม เพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่กรมราชทัณฑ์ก็กำหนดเอาไว้ และผู้ที่เข้าไปเยี่ยมทั้งหมด ทั้งคนที่อ้างว่าไปเข้าพบมา ก็ขอตรวจสอบได้ เรามีรายชื่อทั้งหมด ส่วนหากจะไปทางหนีไฟหรือไม่ ก็ไม่รู้ ยืนยันว่า ข้าราชการรักษาศักดิ์ศรี และไม่ทำอะไร ที่จะต้องมาโดนเช่นนี้ หากจะดูรายชื่อก็สามารถดูได้ แต่ขอยืนยันว่าห้องนี้เป็นห้องควบคุมพิเศษและห้องรักษา และตนก็ไม่เคยเดินทางไปพบนายทักษิณขณะที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14
อยากทำความจริงให้ปรากฎ
พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า ประเด็นที่จะให้ตนขึ้นไปที่โรงพยาบาลตำรวจก็ได้ เพราะตนมาที่นี่ มีคนห้ามว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตนก็ยังมา เพราะอยากทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนเรื่องการรักษานั้น ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายแพทย์ใหญ่ เขาแจงว่าเอกสารที่ส่งให้ ป.ป.ช.เหลือเพียงแค่ตัวเวชทะเบียน เนื่องจากเป็นสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติตามมาตรา 7 ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาล ส่งให้ ป.ป.ช.ไปแล้ว เพราะว่ามันจะมีทั้งราคา รายละเอียดการรักษา มีรายงานว่า วันไหน ผ่าตัด วันไหนทำ MRI ซึ่งมันเหนือกว่าเวชระเบียนอยู่แล้ว ส่วนสิทธิ์ของผู้ป่วย ผู้ป่วยจะออกเงินเองก็ได้ เพราะโรงพยาบาลตำรวจจับมือกับ สปสช. ซึ่งกรณีของนายทักษิณ ค่ายาหลักสูง แต่ผู้ป่วยเป็นผู้ออกเอง และไม่มีกฎหมายเขียนห้ามไว้
ค่ารักษาล้านกว่าบาท“แม้ว”จ่ายเอง
ด้าน พ.ต.ท.ธีรวัตร์ ปัญญาณ์ธรรมกุล เลขานุการประจำคณะ กมธ.ฯ กล่าวให้ข้อมูลว่า วิวห้องที่นายทักษิณ พักรักษาตัวเป็นวิว sport club เป็นห้องสูท ถ้าดูตามราคาที่ปรากฏทั่วไป คืนละประมาณ 8,500 บาท คูณ 120 วัน ก็ประมาณล้านกว่าบาท ในฐานะที่เป็นตำรวจและเคยใช้บริการจึงได้ส่วนลด แล้วนายทักษิณได้ส่วนลดด้วยหรือไม่ ตนถามไว้เผื่อคนอื่น ในอนาคตผู้ต้องหาคนอื่น อยากทำ จะสามารถทำได้หรือไม่
พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า คนทั่วก็อยู่ห้องนั้นได้ ส่วนการรักษาพยาบาลท่านอดีตนายกทักษิณ ไม่ขอใช้สิทธิ์เป็นการจ่ายเงินเอง ถ้าไม่พอใจว่าท่านจ่ายเงิน ตนก็ไม่รู้แล้ว และราคาห้องอาจจะมากกว่าที่ท่านว่า เพราะอย่าลืมว่า มีค่าหมอ ค่ายาอีก และการที่นายทักษิณ อยู่ในห้องโรงพยาบาลตำรวจ ก็เหมือนอยู่ในเรือนจำอยู่แล้ว เพราะไม่ได้ออกไปไหน และการที่ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเพราะศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่เพียงพอ
ได้ข้อมูลแตกต่างจากรอบที่แล้ว
เวลา 13.00 น. นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกมธ.ความมั่นคงฯว่า ต้องยอมรับว่า มีเวลาในการพูดคุยกับรมว.ยุติธรรมน้อยมาก น่าจะประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีการพูดคุยกันในส่วนของการออกจากเรือนจำไปที่โรงพยาบาลตำรวจ การรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และการได้พักโทษ ซึ่งต้องยอมรับว่าด้วยข้อจำกัดเวลา เราไม่สามารถสอบถามได้ครอบคลุมทุกรายละเอียด แต่มีข้อมูลเพิ่มเติม ที่อาจแตกต่างจากรอบที่แล้วอยู่บ้าง เช่น จากเดิมที่เราได้รับข้อมูลว่าการที่นายทักษิณถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจก่อนหน้านี้ เราได้รับข้อมูลว่าเป็นแค่เพียงพยาบาล 2 ท่าน เป็นผู้ลงนาม แต่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้รับข้อมูลว่ามีแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือการวินิจฉัยในเรื่องนี้ ฟังดูเหมือนรอบที่แล้วมีเฉพาะพยาบาลเป็นผู้วินิจฉัย และโทร.หาคุณหมอก็จบ แต่วันนี้เราได้รับข้อมูลใหม่ว่าในช่วงเวลา 11.00 น.ของวันดังกล่าวมีคุณหมอ จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในการพิจารณาสุขภาพร่างกาย ของนายทักษิณก่อน และหลังจากนั้นฟังดูเหมือนช่วงกลางคืนอาการของนายทักษิณก็ออกมา จึงมีการสั่งการให้ส่งตัวนายทักษิณไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งยังไม่ทราบว่าชื่อของคุณหมอเป็นใคร
พบข้อมูล “แม้ว”มีหลายโรครุมเร้า
“ผมได้เห็นใบแสดงความเห็นของแพทย์ก็มีอาการป่วยของนายทักษิณหลายอย่าง และท่านรัฐมนตรียืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่อยากให้เปิดเผยในรายละเอียด แต่เอาเป็นว่าการป่วยมีเยอะมาก หลากหลายอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะขัดกับความรู้ที่เราเห็นนายทักษิณลงจากสนามบิน แต่ไม่เป็นไร อันนี้ต้องไปดูในเวชระเบียน ว่าสุดท้ายแล้วเวชระเบียนจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้ท่านรัฐมนตรีรับปากและเราฟังตรงกันว่ารัฐมนตรีไม่ปฏิเสธเลยว่าจะไม่ส่งเอกสารให้กับเรา ดังนั้นเอกสารที่เราขอไปกว่า 10 รายการที่มีเวชระเบียนด้วยเราก็หวังว่าเราจะได้จากทางท่านรัฐมนตรี ซึ่งเราต้องจัดให้อยู่ในความเหมาะสม”นายรังสิมันต์ กล่าว
กมธ.มั่นคงฯ เตรียมบุกชั้น14
อย่างไรก็ตาม ได้มีการหารือกันใน กมธ.ฯ มีข้อสรุปว่า จะมีการเดินทางกันไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนวันเวลานั้นจะต้องหารือกันอีกครั้ง ซึ่งตั้งใจจะไปประชุมกันที่นั้นด้วย และจะเชิญคุณหมอที่เกี่ยวข้องมาร่วมด้วย และตั้งใจจะไปดูชั้น 14 ว่าสุดท้ายแล้วบรรดาข้อครหานั้นเป็นอย่างไร จะได้สิ้นสงสัยกันไป และทั้งนี้ ทางพ.ต.อ.ทวีได้ให้ข้อมูลกับ กมธ.ว่าในส่วนของค่าใช้จ่ายที่คราวที่แล้วเราได้รับข้อมูลว่าล้านกว่าบาท ซึ่งวันนี้เราได้รับข้อมูลใหม่ว่าอดีตนายกฯ เป็นคนจ่ายเองทั้งหมด อย่างไรก็ตามวันนี้เราไม่ได้เชิญเฉพาะกระทรวงยุติธรรม ซึ่งนายทักษิณอาจจะยกยอดออกไปก่อน คงเอาส่วนราชการให้ครบถ้วนเพราะเราไม่มีอำนาจบังคับนายทักษิณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี