‘นพดล’โต้ลั่น

ไม่มั่วปมMOU44

แนะ‘หมอวรงค์’

อ่านให้ละเอียด

“นพดล”โต้ “หมอวรงค์” ไม่ได้ตอบมั่วปม MOU44 ไล่หมอวรงค์หาความรู้เรื่อง MOU44 ให้ลึกซึ้งก่อนย้ำ MOU44 ไม่ได้ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา จี้ยุติให้ความเห็นผิดๆ เพราะการตีความว่าMOU44 ไปยอมรับเส้นของเขมรไม่เป็นผลดีต่อท่าทีของไทย และไม่เป็นความจริงอีกด้วย

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามถึงนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยที่ออกมาระบุ ตนคิดเองเออเองประเด็นเอ็มโดยู 44 ยืนยันว่าไทยไม่เคยยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ที่ลากผ่านเกาะกูด ตนต้องถามกลับนายนพดลว่า ถ้าไทยไม่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของเขมร แล้วรูปแผนที่แนบท้ายเอ็มโอยู 44 ที่ออกมาเป็นพื้นที่ทับซ้อนเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? ในฐานะที่นายนพดลมีความรู้ เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ “อย่าตอบแบบอุ๊งอื๊ง”

ด้านนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนพ.วรงค์ตอบโต้ว่านายนพดลตอบมั่วๆ เรื่องที่ไทยไม่เคยยอมเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา และนพ.วรงค์อ้างแผนผังแนบท้ายเอ็มโอยู 44 ว่าเป็นหลักฐานไทยยอมรับเส้นของกัมพูชา เรื่องนี้ขอชี้แจงนพ.วรงค์ว่า ตนจบกฎหมายจากออกซฟอร์ดและจบเนติบัณทิตไทยและเนติบัณทิตอังกฤษ ตนจึงไร้ความสามารถที่จะตอบแบบมั่วๆ

นายนพดลกยังชี้แจงอีกว่า ขอเรียนคนไทย เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ยอมรับเส้นของกัมพูชา เนื่องจาก 4 เหตุผลคือ 1.ไม่มีเนื้อหาของเอ็มโอยู 44 ตอนใดเลยที่ไปยอมรับเส้นที่กัมพูชาประกาศ 2.นพ.วรงค์ต้องอ่านให้เข้าใจว่าแผนผังแนบท้ายเอ็มโอยู 44 เพียงสะท้อนเส้นสองเส้นที่กัมพูชาประกาศฝ่ายเดียว และเส้นที่ไทยประกาศ มันคือการสะท้อนการอ้างสิทธิ์สูงสุด (maximum claim) ของทั้งสองฝ่ายเพื่อใช้ในการเจรจา ไม่ใช่เท่ากับว่าไทยไปยอมรับ เส้นของกัมพูชา ถ้าตีความว่าแผนผังนั้นเท่ากับไทยยอมรับเส้นของกัมพูชา ต้องตีความในทำนองเดียวกันว่ากัมพูชายอมรับเส้นที่ไทยยึดถือด้วยใช่หรือไม่

3.ไทยไม่เคยมีการกระทำหรือพฤติกรรมไปยอมรับเส้นของกัมพูชา 4.เนื้อหาในข้อ 5 ของเอ็มโอยู 44 ระบุไว้ชัดเจนว่าตราบใดที่ยังไม่มีข้อตกลงเรื่องการแบ่งเขตทางทะเล ให้ถือว่า เนื้อหาเอ็มโอยู 44 และการเจรจาตาม เอ็มโอยู จะไม่มีผลกระทบต่อการอ้างสิทธิ์ทางทะเลของทั้งไทยและกัมพูชา ในประเด็นนี้ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายก็แถลงไปแล้วว่าเอ็มโอยูไม่ได้ยอมรับเส้นของกัมพูชา ตนจึงขอเรียกร้องให้นพ.วรงค์เห็นแก่บ้านเมืองมากกว่าวาระการเมืองและยุติการให้ความเห็นผิดๆ เพราะการตีความว่าเอ็มโอยู 44ไปยอมรับเส้นของกัมพูชานั้นไม่เป็นผลดีต่อท่าทีของประเทศไทย และไม่เป็นความจริงอีกด้วย

“หมอวรงค์กล่าวหาว่า ผมเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอย่าตอบมั่วๆ ผมขอย้ำว่าคนอย่างผมไม่เคยมั่ว หมอวรงค์เคยสังกัดพรรคการเมืองที่เคยใส่ร้ายว่า ผมซึ่งเป็นรมว.ต่างประเทศในปี 2551 ว่า ทำให้ไทยเสียดินแดนบริเวณปราสาทพระวิหารใช่หรือไม่ ทั้งที่ความจริงไทยยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาตามคำตัดสินศาลโลกไปแล้วตั้งแต่ปี 2505 แต่ปัญหาคือ ปี 2551 กัมพูชาจะขอขึ้นทะเบียนทั้ง 1.ตัวปราสาทพระวิหาร และ2.พื้นที่ทับซ้อน เป็นมรดกโลก แต่ผมเจรจาจนกัมพูชายอมตัด พื้นที่ทับซ้อนออก และยอมขึ้นทะเบียนมรดกโลกเฉพาะตัวปราสาท ซึ่งเป็นของเขามาเกือบ 50 ปีแล้ว แต่ผมถูกโจมตีใส่ร้ายเท็จและไปฟ้องเอาผิด ซึ่งต่อมาปี 2558 ศาลฎีกาฯพิพากษายกฟ้องผม และคำพิพากษาก็ระบุว่าสิ่งที่ผมทำถูกต้องตามสถานการณ์ ไม่กระทบสิทธิในดินแดนของไทยและไทยจะได้ประโยชน์จากการกระทำของผม ผมจึงไม่อยากเห็นการสร้างวาทกรรมเสียดินแดนอีก เพราะเคยสร้างความเสียหายให้ประเทศมาแล้ว”นายนพดลกล่าวย้ำ